รู้จักหรือ..... >>>>>> ความสุจริต


คนโกง คนหลอกลวง คือขยะไร้ค่า..........

วันนี้ครูพรรณา  ขอนำพาทุกท่านมารู้จักความสุจริตในสายตาของนักเรียนกัน

เรื่องจริงของความสุจริตที่ฉันรู้

                                  สุจริตโดยทั่วไปแล้วมีความหมายว่า   ความประพฤติดี ประพฤติชอบ หรือพฤติกรรมบริสุทธิ์  ประกอบด้วย กาย วาจา และใจ    แต่ความสุจริตที่ผมรู้และเข้าใจในเบื้องต้นคือการไม่หลอกลวง                ผมเข้าใจว่า  สุจริต  คือ การไม่หลอกลวง ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น  หรือที่พวกเราเข้าใจและมักพูดติดกันกับคำว่า ความซื่อสัตย์  ว่า  ความซื่อสัตย์สุจริต  นั่นเอง  การเป็นคนที่มีสุจริต  ย่อมเกิดความไว้วางใจเชื่อใจซึ่งกันและกัน  แล้วย่อมเกิดพลังในการก้าวเข้าไปสู่ความก้าวหน้า  เพราะคุณธรรมข้อนี้เป็นมูลฐานอันสำคัญที่จะเป็นแรงผลักดันให้สังคมเป็นปึกแผน   ถ้าไร้การกระทำที่หลอกลวง             คดโกง  หรือกอบโกยเอาแต่ได้ที่ผิดๆ ย่อมนำความผาสุขมาสู่สังคมได้   แต่ถ้าเราทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่กล่าวไว้ในเบื้องต้นก็ย่อมที่จะนำความแตกหัก  ความพินาศ มาสู่เรา  หรือก่อให้เกิดความหวาดระแวง  ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจใคร                                  ความสุจริตที่ผมได้กล่าวไว้ในเบื้องต้นว่า คือการไม่หลอกลวง ไม่คดโกงหรือที่เรียกว่าซื่อสัตย์นั้น  ผมคิดว่าหลายคนคงมีและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว  ซึ่งผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติ  ในขณะนี้ผมอายุได้ ๑๓  ปีแล้วได้รับการสั่งสอนและประสบพบเห็นการกระทำต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจและไม่พึงพอใจบ้าง จากความรู้และประสบการณ์ดังกล่าวทำให้ผมคิดว่า ความหมายของคำว่าสุจริตนั้น คือการที่เราไม่มีจิตใจอยากได้สิ่งของจากคนที่มีเจ้าของแล้ว ซึ่งเขาก็คงรักและหวงแหนมัน  ถ้าผมขโมยหรือหลอกลวงเอาของเขามา  ผมจะรู้สึกผิดและคิดว่า    ป่านนี้เจ้าของจะเป็นอย่างไรบ้าง จะออกตามหาหรือคิดเสียดายเสียใจกับสิ่งที่หายหรือถูกคดโกงไป  สภาพจิตใจของเขาจะเป็นอย่างไร   ผมมีความรู้สึกว่าคนที่มุ่งแต่หลอกลวงผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไร้ซึ่งความจริงใจต่อเพื่อนมนุษย์  คนพวกนี้คือ เศษขยะที่ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้อีก   และผมก็ไม่อยากให้คนหรือใครอื่นรู้สึกต่อผมเช่นนี้                แนวทางในการปฏิบัติตนของผมก็คือ ไม่ลักขโมย  ไม่พูดโกหก ไม่คดโกง  พบเงินหรือสิ่งของแล้วเก็บส่งให้ครูประกาศหาเจ้าของ และไม่ทุจริตในการสอบ           แค่นี้ก็ถือว่าผมเป็นคนสุจริตแล้ว  ในขณะที่ผมกำลังประพฤติปฏิบัติอยู่นี้ คือปัจจุบันแต่ในไม่ช้ามันจะเป็นอดีต จึงเหมือนว่าเรากำลังสร้างอดีตของตนเองอยู่  ฉะนั้นในขณะที่ผมกำลังสร้างอดีต  ผมจะจำไว้ว่า ทำปัจจุบันให้งดงามที่สุด  แล้วมันจะเป็นอดีตที่ทรงคุณค่าในเวลานึกถึง แม้จะเป็นเพียงภาพที่มืดดำจับต้องไม่ได้แต่มันจะเป็นบันทึกที่มีค่าในความทรงจำ 

**********

                                                                                                    

                                                            เด็กชายภีรฉัตร  บูรณะกุล ม. ๒ / ๑

โรงเรียนบางลี่วิทยา  อ. สองพี่น้อง  จ. สุพรรณบุรี

หมายเลขบันทึก: 163215เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2008 07:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 11:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท