ศุกร์ที่ 25 มกราคม 51 ป้าเจี๊ยบไปประชุมเครือข่ายเทคโนฯ ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลกค่ะ ขาไปนั่งเครื่องบินแต่ขากลับวางแผนดี ได้นั่งรถพี่ชายคือ ลุงโจ้ (เจอดพงษ์ มกรมณี) ซึ่งพา ป้าแอ๋ว (พลตรีหญิงสาริณี มกรมณี) คู่ชีวิตไปเที่ยวเพชรบูรณ์ จึงแวะมารับตอนป้าเจี๊ยบเสร็จประชุมพอดี ได้แวะเที่ยวก่อนกลับกรุงเทพสิคะ
ตอนเย็นเราค้างคืนกันที่ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ได้บ้านเลขที่ 116 ซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินเขา มีท่อนไม้ตัดขวางวางเป็นทางให้เดินขึ้นไปสวยกลมกลืนกับธรรมชาติ ห้องพักก็แสนสบาย ตกแต่งและบริการแบบรีสอร์ตเลยค่ะ
วันเสาร์อาทิตย์ลุงโจ้ก็พาไปเที่ยวตามที่ต่างๆ สนุกและสบายใจมากๆ เลย เพราะเป็นน้อง อิ อิ.. ลุงโจ้เป็นมัคคุเทศก์ที่ตามใจลูกทัวร์ที่สุด ไปเรื่อยๆ ไม่เร่งร้อน อยากให้จอดถ่ายรูปตรงไหนก็ตามใจ
วันแรกถึงบ้านพักก็มืดตึ๊ดตื๋อ มองไม่เห็นอะไรเลยค่ะ ต้องใช้ไฟฉายช่วย แถมน้ำค้างก็ลงหนักจนได้ยินเสียงน้ำหยดแมะๆ เหมือนฝนตก พื้นหญ้าเปียกชุ่ม (ไฟฟ้าตามทางมาเปิดให้คืนวันต่อมา)
ตอนเช้าก็ออกเดินสำรวจบริเวณรอบๆ ค่ะ หมอกยังมากอยู่แต่ก็มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้ในระยะใกล้ๆ พอเดินไปถึงอาคารบริการนักท่องเที่ยวก็เจอดอกไม้สีขาวขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางไม่ต่ำกว่าครึ่งฟุต! บานเบ่งเตะตาจนต้องเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
ไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ เป็นไม้เลื้อยเถาใหญ่มาก มีกลิ่นหอมด้วย เห็นแล้วนึกถึงดอกแคพื้นเมืองที่กินกับน้ำพริก (ตามประสาคนตะกละ) กลับมาถามลุงโจ้ในฐานะที่เรียนจบวนศาสตร์ก็ไม่ได้คำตอบ แหง่ว..ว
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"><div style="text-align: center"></div></p><p> วันเดินทางกลับ ป้าเจี๊ยบเจอแม่บ้านที่มาทำความสะอาดบ้านพัก ถามคนแรกได้คำตอบว่า “กรรณิการ์” ซึ่งป้าเจี๊ยบรู้ว่าไม่ใช่แน่ๆ เพราะที่บ้านกรุงเทพปลูกกรรณิการ์ค่ะ แต่เธอยืนยันว่าได้ยินเรียกกันอย่างนั้น </p><p> ทีนี้คนที่สองก็เดินมาพอดี ได้ยินป้าเจี๊ยบพูดว่านี่ไม่ใช่กรรณิการ์ รีบบอกว่าเป็น “ต้นอรัญญิกา”ค่ะ ป้าเจี๊ยบคิดว่าน่าจะเข้าเค้าเพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ชื่อไพเราะและเก๋ดี จึงรายงานทีมเที่ยวว่านั่นคือ “อรัญญิกา” </p><p> พอกลับมาถึงกรุงเทพก็ตรวจสอบข้อมูลสิคะ เพราะเป็นความรู้ใหม่และไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่มีชื่อนี้ค่ะ แหะ ๆๆ… แต่พบชื่อ “วัดอรัญยิกาวาส” และ “ดอกหิรัญญิการ์”</p><p> เมื่อตามข้อมูลต่อจึงพบว่า ดอกไม้สีขาวที่เห็นนั้น แท้จริงแล้วคือ “หิรัญญิการ์” พันธุ์ที่ออกดอกเป็นสีชมพูอ่อนก็มีด้วย ที่โดนใจก็คือมีข้อมูลอันหนึ่งบอกว่า “มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย” ไชโย… เป็นดอกไม้ไทยแท้นะเนี่ย! </p><p> ใครสนใจจะรู้จักดอกไม้ไทยชนิดนี้มากขึ้นก็แวะไปอ่านได้ที่เว็บ “พรรณไม้บริเวณพระตำหนักเรือนต้น” ได้นะคะ</p><p></p>
สวัสดีค่ะป้าเจี๊ยบ
เห็นภาพที่ทั้งสามคนยืนหน้าป้ายน้ำหนาวแล้วอดมีความสุขตามไปด้วยไม่ได้จริงๆ ค่ะ ^ ^
ส่วนดอกไม้นั้นยอมรับเลยค่ะ ว่าไม่เคยแม้แต่จะได้ยินชื่อ แต่ชื่อเพราะนะคะ
ขอบคุณที่นำเรื่องราวสวยๆ ความรู้ใหม่ๆ มาฝากกันอีกแล้วค่ะ ^ ^
ดอกไม้นี้เคยเห็นค่ะ
ดีใจที่มีกำเนิดที่ประเทศเราค่ะ
สวัสดีค่ะคุณป้าจี๊ยบ คิดว่าเราคงเป็นคนรุ่นๆเดียวกัน
ว่าจะเข้ามาทักทายให้เห็นตัวกันนานแล้วแต่ทำไมจึงได้มาไม่ถึงสักทีค่ะ และเราเป็นคนชอบอะไรๆทำนองเดียวกันด้วยนะคะ เช่นชอบดอกไม้ ชอบอาหาร ชอบเดินทาง ชอบเรียนรู้ ดีใจที่ได้มีกัลยาณมิตรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่จริงคุณป้าเจี๊ยบนี่เป็นคนดังของบล็อก ขออนุญาตมาแนะนำตัวค่ะ
ชอบดอกหิรัญญิการ์ เคยซื้อกิ่งมาปลูก แต่ไม่มีอนาคตเลยค่ะ ได้ชมความงามจากที่นี่ก็แล้วกัน
นี่ตามรอยมาจากบล็อกของอาจารย์Lin Hui ค่ะ