ตราบใดที่เรายังอยู่ใน "โลก" เราไม่สามารถรอดพ้นจาก เรื่อง สุขๆ ทุกข์ๆ ได้เลย คนเราไม่สามารถที่จะสุขได้อย่างเดียวหรือทุกข์ได้อย่างเดียว เพราะสุขและทุกข์เป็น "สิ่งเดียวกัน" เราไม่สามารถแยกสองสิ่งนี้ออกจากกันได้
สำหรับสามัญชนที่ยังมีกิเลสครอบงำอยู่ เราจะสามารถใช้ชีวิตทาบกลางความสุขและความทุกข์เหล่านั้นได้อย่างไร ในเมื่อนิพพานที่เราใฝ่หานั้นเหมือนจะอยู่ไกลเหลือเกิน
แต่ความเป็นจริงแล้ว นิพพานสำหรับสามัญชนอย่างเรานั้นยังมีอยู่ ตามที่ท่านพุทธทาสเรียกว่า "นิพพานชั่วคราว" ซึ่งเป็นนิพพานที่ให้เราได้ลิ้มลองได้ทุกเมื่อ เมื่อเรามีปัญญาเห็น "ความว่าง" ณ ขณะนั้น นั้นหมายถึงจิตว่างเมื่อไรนิพพานก็เกิดเมื่อนั้น เมื่อ "ความว่าง" หายไปความทุกข์ก็กลับเข้ามาอีก ซึ่งท่านพุทธทาสเรียกว่า "นิพพานไปพลาง ตกนรกไปพลาง"
ถึงแม้จะเป็น "นิพพานชั่วคราว" จะไม่สามารถทำให้เราดับทุกข์ได้อย่างหมดสิ้น แต่อย่างน้อยก็สามารถใช้กำลังใจให้เราเห็นถึงผลที่ได้จากนิพพาน เพื่อที่เป็นแรงกำลังที่จะมุ่งหน้าสู่นิพพานที่แท้จริง
ไม่มีความเห็น