13. วันว่างๆ แต่ไม่ไร้สาระที่เจนไน


พบปะนักวิชาการ ร่วมงานบูชาเทพเจ้า

วันที่ 24 พ.ย. วันนี้ว่างช่วงเช้า ไม่มีรายการ พี่ทำ dosa คือใช้แป้งโม่ที่เหลือจากทำอิดลีมาทอดเป็นแผ่นบาง ไม่มันคล้ายแพนเค้กทานกับมะพร้าวขูดที่ปรุงรสเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ มันๆ อร่อยไปอีกแบบหนึ่ง ทานเสร็จมานั่งคุยกับพี่เรื่องสาหรี พี่เอาสาหรีผ้าไหมที่แกมีอยู่ เช่นจาก Varanasi, Kanchipuram, Mysore ออกมาคลี่ อธิบายและให้ถ่ายรูป แกมีผ้าสาหรีสวยๆ มาก แต่งตัวสวยทุกวันเลย เสร็จแล้วก็นั่งอธิบายเรื่อง god, goddess ให้ฟัง เรื่องเรียนโท สันสกฤต (ทางไกล) ฉันถามว่าถ้าได้โทแล้วจะทำอะไร แกบอกจะเรียนเอกต่อ แกมีความสุขกับการเรียนมาก ไม่น่าเชื่อว่าความเป็นวิทยาศาสตร์ (นักเคมี) ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้สันสกฤตของแกเลย คิดว่าชาวเจนไนนี่มีพื้นฐานเรื่องพวกนี้ดี ดังนั้นไม่ว่าจะเรียนอะไร ความรู้ทางสันสกฤตมีอยู่ในวิถีของเขา ไม่ได้แปลกแยก

วันนี้พอทานกลางวันเสร็จทำท่าง่วงขออนุญาตไปนอนพัก เพราะไม่ทราบว่าคุณ S เพื่อนนักธุรกิจจะมารับกี่โมง จนกระทั่งบ่ายสองโมง แกมารับเราสองคนออกไปด้วยกัน ดูพี่มีความสุข ตลอดทางแกจะคุยภาษาทมิฬกับคุณ S ดูเหมือนแกจะเหงา ไปที่แรกคืออพาร์ตเมนท์ ของ Dr. Kal. ซึ่งหรูมาก พบภรรยาก่อนและท่าน Dr. Kal แนะนำให้เรารู้จัก เสร็จแล้ว Dr. Kal พาไปคุยในห้องทำงาน แนะนำตัวกันเสร็จท่านก็ถามฉันๆ ก็คุยให้ฟัง ท่านก็แนะนำงานที่ท่านทำดูยิ่งใหญ่ มีประโยชน์ ท่านมีโครงการทำ Project ใหญ่ชวนให้ฉันกลับไปคิด เราแลกเปลี่ยนความรู้ งานกันสักพัก เสร็จแล้วลาท่านออกมา ไปอีกที่หนึ่ง เป็นอพาร์ตเมนท์หรูอีกเหมือนกัน วันนี้มีพิธีบูชา บ้านท่านนักหนังสือพิมพ์กำลังตกแต่งสวยงามทีเดียว ท่านและภรรยาผู้งดงามให้การต้อนรับอย่างดี แนะนำหนังสือ ให้หนังสือดีๆ มา และฝากขายหนังสือเกี่ยวกับนิตยสารภาพยนตร์ต่างประเทศในอดีตที่หายากรวมเป็นเล่ม ท่านฝากฉันให้บอกสถานศึกษาที่ประสงค์จะซื้อก็ติดต่อแจ้งให้ท่านทราบด้วย ฟังๆ แล้วสนนราคาไม่เบาทีเดียว ฉันถามท่านว่าไม่มีหนังสือที่รวบรวมเกี่ยวกับภาพยนตร์อินเดียหรือเปล่า ท่านบอกมีแต่หมดแล้ว เราคุยกันนานพอควร ขอตัวลากลับ พราหมณ์ประจำบ้านท่านมาเตรียมทำพิธีแล้ว

ไปต่ออีกบ้าน หายากเหมือนกันหลงไปหลายที่ ท่านนี้ก็อยู่อพาร์ตเมนท์ ไปถึงมืดแล้ว ภรรยาท่านเตรียมบูชา ท่านผู้นี้เชี่ยวชาญสันสกฤต นุ่งโสร่งอยู่บ้าน สบายๆ ต้อนรับด้วยอัธยาศัย เราได้ร่วมพิธีบูชากับภรรยาท่าน ได้ทานขนมหวานกับน้ำเนยหวานมากๆ คงเป็นขนมในพิธีบูชา ได้รับการเจิมหน้าผากและของบูชากลับมาด้วย เสร็จแล้วลากลับ

คุณ S บอกจะพาไปทานอาหารไทย ฉันน่ะไม่เท่าไรหรอก แต่อยากให้พี่สาวได้ลองทาน ชื่อร้านเบญจรงค์ ไปเร็วไปนิดคือหนึ่งทุ่ม แต่ร้านเปิดทุ่มครึ่ง เขาอนุญาตให้เข้าไปนั่งรอในร้านได้ ร้านตกแต่งด้วยเครื่องประดับไทย มีผัก เช่น แครอทเตรียมใส่พานเบญจรงค์สำหรับแกะสลักโชว์  เรานั่งรอสักพัก เขามาพาไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ร้านดูสวยงามดี พนักงานมีทั้งชายหญิง นุ่งชุดไทยนึกว่าจะเว้าไทยได้ กลับกลายเป็นสาวไท (ย) อีสานของอินเดียจากรัฐอัสสัมโน่น ราคาอาหารแพงพอๆ กับเมืองไทย คุณ S และพี่สาวทานเจจึงต้องสั่งเจมา มีแกงเขียวหวานเจ ต้มยำเจ ผัดดอกกะหล่ำเจ (รายการสุดท้ายอร่อย) นอกนั้นไม่อร่อยเลย เผ็ดเกินไปสำหรับคนอินเดีย มีคนมาทานพอสมควร เสร็จแล้วคุณ S มาส่งที่บ้าน วันนี้รู้สึกมาไกลทีเดียว คุณ S มานั่งคุยต่อที่บ้านว่าพรุ่งนี้ฉันจะไป Pune กี่โมง ไปอย่างไร ฉันเกรงใจคุณ S เพราะแกไม่มีเสียงพูดเลยหวัดลงคอ อยากให้แกพักเลยบอกว่าฉันไปแท็กซีก็ได้ พี่สาวบอกจะไปส่ง ฉันบอกไม่ต้องก็ได้ แกไม่ยอมโทร. นัดแท็กซี่ให้มารับพรุ่งนี้ คุณ S บอกวันกลับแกจะไปรับที่สนามบิน เลยลากันเท่านี้ก่อน

ฉันเตรียมจัดกระเป๋า เอาแต่ที่จำเป็นไป เพื่อนโทร. มาบอกว่าอากาศที่นั่นหนาว ฉันเอาแต่เสื้อผ้าหนาๆ ไป แบ่งส่วนที่ไม่ใช้ไว้ที่บ้านพี่  เสร็จแล้วอาบน้ำนอน

หมายเลขบันทึก: 161443เขียนเมื่อ 26 มกราคม 2008 02:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม 2012 16:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท