เครียดหนี้สิน ฆ่าตัวตาย


ก่อนที่คนจะฆ่าตัวตายสำเร็จมักจะมีพฤติกรรมบางอย่างที่บอกให้รู้ว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ หรือ มีการเตรียมตัวตาย หากคนใกล้ชิดสามารถสังเกตและให้การช่วยเหลือได้ทัน ก็จะสามารถช่วยเขาให้รอดวิกฤตการฆ่าตัวตายได้

เมือวานผมได้เอาข่าวฆ่าตัวตายของเด็กวัยรุ่น  คราวนี้มาดูข่าวฆ่าตัวตายของผู้ใหญ่  ข่าวตัวอย่าง ก็คือ  ข่าวเครียดเรืองหนี้สิน แล้วแก้ปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย

จากข่าวนี้ มีจุดน่าสนใจ สองเรือง คือ  เรืองปัญหาความเครียดจากหนี้สิน  และการเฝ้าระวังการฆ่าตัวตาย

ปัญหาความเครียดเรืองหนี้สิน   นับวันปัญหาจะทวีความรุนแรง  เนืองจากว่า คนไทยเริ่มมีนิส้ยบริโภคนิยม  จับจ่ายใช้สอยกันอย่างเกินตัว โดยที่ไม่ได้ตระหนักเรือง การบริหารการเงินส่วนบุคคล       บวกกับการกระตุ้นการเป็นหนี้ โดยการปล่อยสินเชือส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น  จะเห็นว่า ตอนนี้หลายคนคงได้รับโทรศัพท์การขายบัตรเครดิต จากสถาบันการเงินต่างๆ   เวลาเดินตามกรุงเทพก็จะมีกระดาษแปะเรืองการปล่อยเงินกู้  อนุมัติงาน วงเงินสูง  (คิดว่าเป็นกระตุ้นเงินหมุนเวียน ตามกลไกทางการเงิน)   แต่หลายคนมักกู้เงินไปใช้โดยไม่จำเป็นและไม่มีกำลังจะจ่ายคืน จึงก่อใหเกิดความเครียดตามมา  

ดังนั้น  การดำรงชีวิตอย่างพอเพียง น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด ในการแก้ปัญหานี้

ประเด็นที่สอง ก้คือ เรืองของการเผ้าระวังการฆ่าตัวตาย   จากข่าวเห็นว่า ผู้ตายได้พยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหนหนึีงในเวลาไกล้กันแต่ไม่สำเร็จ  สองวันถัดมาก็สามารถฆ่าตัวตายได้สำเร็จ

เรืองนี้จึงอยากฝาก คนไกล้ชิดว่า   ก่อนที่คนจะฆ่าตัวตาย  มักจะมีสัญญานที่บ่งบอกว่าจะตาย   เช่น  มีการเตรียมการสำหรับการตาย  เตรียมอุปกรณ์ฆ่าตัวตาย  มีการเีขียนจดหมาย เป็นต้น   ดังนั้นหากญาิติสังเกตถึงสิ่งเหล่านี้ ควรดูแลเป็นพิเศษ

อีกอย่าง  แม้ว่าในขณะที่ฆ่าตัวตาย    บางรายยังสับสน ว่าจะตายหรือจะอยู่  ณ วินาทีนั้นหากมีใครสักคนปรากฎกาย แล้วบอกให้เขาอยู่  ก็อาจจะหยุดความคิดของเขาได้ และสามารถเปลียนใจในที่สุด   ดังนั้น  การท้าให้ไปตายจึงไม่สมควร เพราะเหมือนเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจตายเร็วขึ้น

มีคนหลายจำพวกที่ต้องระวังเรืองการฆ่าตัวตาย

  • คนเจ็บป่วยเรื้อรัง และทุกข์ทรมานกับการป่วย
  • คนป่วยด้วยโรคที่สังคมไม่ยอมรับ
  • คนผิดหวังอย่างรุนแรง  เช่น ความรัก ผลการเีรียน
  • คนที่เคยแข็งแรง แล้วต้องมาพิการ เช่น ประสบอุบัิตเหตุ
  • คนที่มีบุคลิกภาพ เครียด หรือ ซึมเศร้าได้ง่าย
  •  คนที่เคยมีประวัิติฆ่าตัวตาย แล้วไม่สำเร้จ
  • คนทีคนในครอบครัีวมีประวัติฆ่าตัวตาย
  • คนที่มักบ่นๆ ว่าอยากตาย   หรือ อยากเกิดใหม่จะได้ดีกว่านี้

 เรืองการฆ่าตัวตาย เป็นปัญหาที่เราทุกคนต้องช่วยกัน เพราะหากเขาฆ่าตัวตายสำเร็จ คนที่จะต้องเสียใจ คือ คนทียังอยู่ นั้นเอง

คำสำคัญ (Tags): #การฆ่าตัวตาย
หมายเลขบันทึก: 160727เขียนเมื่อ 22 มกราคม 2008 14:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม 2012 15:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะ อ.recovery

ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลพยาบาลก็พึ่งจำหน่ายผู้ป่วย suicide ให้กลับไป เสียชีวิตที่บ้านค่ะ  มีผู้ป่วยหลายคนที่ ผ่านคลินิกไป พบว่ามีหลายต่อหลายคนไม่ได้ตั้งใจ แต่การตัดสินใจล้วนเกิดแรงผลักดันของอารมณ์ และ ความรู้สึกสิ้นหวัง น่าเสียดายว่าเราไม่ได้พบเค้าในช่วงก่อนการตัดสินทำร้ายตัวเองนะคะ 

อรุณสวัสดิ์ครับ น้อง  coffee mania

เรืองการป้องกันการฆ่าัตัวตาย  ต้องแก้ปํญหาในเชิงรุกครับ  กล่าวคือ ต้องให้ความรู้แก่ชุมชน   ตลอดจนทำโฆษณาผ่านสือ โทรทัศน์ และวิทยุ เพื่อให้เขาประชาชนตระหนัก  ตลอดจน หน่วยงานช่วยเหลือ แบบ ๒๔ ชั่วโมง  โดยทางสุขภาพจิตจะประสานงานร่วมกับ  พยาบาล  ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยฉุกเฉิน  โดยเราจะจัดอบรมกับเขาก่อนครับ

กรณีตัวอย่า่งเช่น  

ครั้งหนึ่งมี นักเรียนไทย ที่อเมริกา ทะเลาะกับแฟนแล้วพูดแบบโมโหว่าอยากตาย   ประมาณไม่ถึีงชั่วโมงก็มีตำรวจมาเคาะประตูว่า  ได้ข่าวว่า บ้านนี้มีคนตระโกนอยากตาย

เอาละสิ

จากนั้น ตำรวจและนักจิตก็ทำหน้าที่ซักข้อมูล แล้วขอทำการเผ้าระวังโดยบอก ขอสังเกตการ   แต่เด็กก็บอกว่า ไม่เป็นไร  แต่ทาง เจ้าหน้าที่่บอกไม่ได้ต้องเฝ้าระวัง ตาม guideline

สุดท้ายก็ยอมกันตรงที่  ต้องมีคนดูแล เขาถึงจะกลับ  ก็ร้อนถึงคนที่พักด้้วยต้องมาทำหน้าที่ดูแล  

ก่อนไปเขาสั่งว่า ถ้ามีไรฉุกเฉิน ก็ให้โทรแจ้งเขาได้

ตัวอย่างเห็นว่า  แม้แต่อยากตายเล่นๆ  ก็ไม่ได้ตายง่ายๆ  เพราะบ้านเขาก็จริงจังกับเรืองนี้พอสมควร

 อีกตั วอย่า่งคือ ที่ญี่ปุ่น   เพือนผมเล่าว่า   ที่ญี่ปุ่นจะมีคนฆ่าตัวตายบ่อย  โดยเฉพาะการ กระโดดลงไปตายในรางรถไฟฟ้า    เขาเลยออกกฎว่า   ถ้ามีคนฆ่าตัวตายในลั กษณะดังกล่าว  ญาติจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาด รางรถไฟ ตลอดจนค่าเสียหายอันเกิดจากการหยุดรถกระทันหัน   แม้จะเป็นนโยบายเรืองระเบียบและความสะอาด  แต่ก็ชะลอการตายได้พอสมควร

ผมเลยแนะนำว่า  

วันหลังบอกเพือนๆ ที่อยากตายนะ ว่าให้ไปที่เมืองไทย

เธอถามผมว่า   "ที่เมืองไทยมีหน่วยงานดูแลเหรอ"

ผมบอกว่า  "เปล่า ที่เมืองไทย ตายฟรี ไม่ต้องเสียตังส์ ค่าทำความสะอาด"

อิอิอิ

ตามมาขำมุขตายฟรีค่ะ  อาจารย์  ถ้าเป็นรัฐบาลุก่อนรัฐประหารก็จะเป็นตายทีละ 30 บาท ตอนนี้รัฐบาลใหม่ไม่รู้จะมาปู้ยี่ปู้ยำอะไร ต่อ จะฟรีหรือจะ 30 บาทไม่รู้

พูดถึงมุขนี้ก็นึกถึงบ้านเราเหมือนกันค่ะ การให้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ไม่แน่ใจว่าช่วยได้จริงหรือเปล่านะคะ  ที่นี่คนจะฆ่าตัวตายโดยการใช้ยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหญ้าสูงมาก รายไหนรายนั้นเลย   ปีนี้แค่ต้นปีงบประมาณ  กรัมม๊อกโซล ก็ทำให้คนตายสำเร็จสมใจไปสองคนแล้วค่ะ

กำลังนึกว่าบ้านเราน่าจะมีมาตรการในเรื่องนี้น่ะนะคะ  อย่างให้ญาติ รับผิดชอบร่วมกันกับบริษัทยานรกนี่ทุกวันนี้ยาอันตรายพวกนี้หาซื้อกันโครมได้ง่าย ๆ ไม่มีมาตรการอะไรมาควบคุมดูแลเลย

อาจารย์คิดดูนะ อย่างยาควบคุมประเภทที่เป็นยาเสพติดอย่างตระกูล morphine และ pethidine ใช้ยังไงก็ไม่ตายง่าย  ๆเหมือนยาฆ่าแมลงพวกนี้ ซื้อขายทีควบคุมแล้วก็ควบคุมอีก  แต่วัตถุอันตราย  อย่างยาฆ่าแมลงกลับวางขายกันเกร่อ 

การเอาไปใช้ที่บ้านก็มีปัญหา  ที่โรงพยาบาลเคยต้องรับคนไข้เด็ก และ คนแก่ไปดื่มยาพวกนี้โดยไม่ตั้งใจด้วย  นึกว่าเป็นขวดน้ำ  คิดแล้วก็อึดอัดในใจนะคะ

 

   

อืมม์ น่าคิด เรือง เคมีภัณฑ์ทางการเกษตร

เพราะตอนนี้มันเป็นปัญหาสองเรือง คือ   เรืองอาชีวอนามัย  ที่พบสารเคมีในกระแสเลือดของพีน้องชาวเกษตรสูงเกิดระดับมาตรฐาน

กับอีกเรือง มันเป็นเครืองมือฆ่าตัวตายที่ได้ผล หาง่าย ราคาไม่แพง และตายอย่างไม่ทรมาน

น่าจะมีการควบคุมบ้างก็ดีครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท