หากท่านประสงค์ที่จะเพิ่มคุณค่า
ให้กับตนเองและประเทศชาติ
หลักสูตรปริญญาโท “อินเดียศึกษา” มีคำตอบ
ประเทศไทยมีความสัมพันธ์กับประเทศอินเดียโดยผ่านการค้าและศาสนาพราหมณ์และ
ศาสนาพุทธมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ท่านพุทธทาสกล่าวว่า “…สายเลือดที่มันเป็นอินเดีย
ที่เขาฝังมาให้โดยชาวอินเดียครั้งกระโน้นเอาออกได้เมื่อไร มันก็สืบต่อกันมาจนบัดนี้ มันก็ต้องรับรู้ว่า
เรามันสร้างชีวิต สายเลือดสายเนื้อขึ้นมาจากสองศาสนา ทั้งศาสนาฮินดูทั้งศาสนาพุทธ …มีศาสนาฮินดู
เป็นแม่ มีศาสนาพุทธเป็นพ่ออยู่โดยไม่รู้สึกตัว” (พุทธทาสภิกขุ พระคุณที่อินเดียมีต่อไทย, 2533: 18, 24)
ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกและมีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นประเทศ
ที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ เป็นแหล่งอารยธรรมของโลก เป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยที่เก่าแก่และเข้มแข็งมาก
ในขณะเดียวกันก็เป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อินเดียเป็นประเทศหนึ่ง
ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง มีความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
และสามารถธำรงรักษาวัฒนธรรมอินเดียไว้ได้ท่ามกลางโลกยุคโลกาภิวัตน์ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของโลก อินเดีย
เป็นประเทศมหาอำนาจของเอเชียใต้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) สูงถึง 10%
และเป็นประเทศที่สำคัญประเทศหนึ่งของเอเชีย นอกเหนือจากจีน และญี่ปุ่น อินเดียมีนโยบาย
“มองตะวันออก” (Look East policy) ในขณะที่ประเทศไทยมีนโยบาย “มองตะวันตก” (Look West policy)
ซึ่งเป็นนโยบายที่มีความสอดคล้องกัน อินเดียเป็นประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่มีกำลังซื้อในระดับกลางและ
ระดับสูงราว 300 ล้านคน และในขณะนี้ ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและประเทศอินเดีย
ครบรอบ 60 ปีในปีพ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่อยู่ในระดับที่ดีมาก ดังนั้น ประเทศไทยควรส่งเสริม
การศึกษา ค้นคว้า วิจัยเกี่ยวกับประเทศอินเดียในมิติต่างๆ ให้มากขึ้นเพื่อประโยชน์ในการสร้างความร่วมมือ
ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
หลักสูตรศิลปศาตรมหาบัณฑิต สาขาวัฒนธรรมศึกษาและการพัฒนาจึงได้เปิดวิชาเอก “อินเดียศึกษา”
ขึ้นในปีการศึกษา 2550 ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกของประเทศไทย เป็นการบูรณาการระหว่างมนุษยศาสตร์
และสังคมศาสตร์เพื่อสร้างนักวิชาการที่เข้าใจและสามารถสร้างองค์ความรู้ทั้งในด้านกว้างและลึกเกี่ยวกับ
อินเดียในมิติต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้สนองกับทิศทางการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและอินเดียที่เพิ่มขึ้น
จาก 20 ล้านเป็น 4 พันล้านเหรียญ ในปี 2007 และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น 300% ของทั้งสอง
ประเทศ ดังนั้น ตลาดแรงงานไทยยังมีความต้องการผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านอินเดียที่สามารถ
ทำงานทั้งในหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบายหรือวางแผนการทำงานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประสิทธิผลตามที่ตั้งไว้
คุณสมบัติของผู้สมัคร
1. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทุกสาขาหรือหลักสูตรเทียบเท่าปริญญาตรีทุกสาขา
2. ได้คะแนนสะสมเฉลี่ย (GPA) ไม่ต่ำกว่า 2.5
3. ผู้ที่มีคุณสมบัตินอกเหนือเกณฑ์ดังกล่าว อาจได้รับคัดเลือกตามดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหาร
หลักสูตร
ทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก หากผลการศึกษาในระดับปริญญาโทดี ท่านอาจได้รับการพิจารณาให้รับทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอก ที่ประเทศอินเดีย
กำหนดการรับสมัคร เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ รอบที่ 2 ระหว่าง 1 กุมภาพันธ์- 8 มีนาคม 2551
การสอบเข้า สอบ 2 วิชาได้แก่ 1) วิชาภาษาอังกฤษ 2) วิชาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเทศไทยและอินเดียตอบเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยก็ได้
งานในอนาคต อาจารย์ นักวิชาการในองค์กรภาครัฐ เอกชน เจ้าหน้าที่นโยบายและแผนให้กับหน่วย
งานภาครัฐและเอกชนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับประเทศอินเดีย ทำธุรกิจส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับอินเดีย เช่น ไอที การ
ท่องเที่ยว และโรงแรม สปาและโยคะ การแพทย์แผนโบราณ การศึกษา อุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
เป็นต้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมข้อมูลการสมัคร
งานบริการการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา พุทธมณฑล นครปฐม 73170
โทร. 0-2441-4125 ต่อ 208, 219, 220 หรือ www.grad.mahidol.ac.th
งานบริการการศึกษา สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล
ศาลายา พุทธมณฑล นครปฐม 73170 โทร. 0-2800-2308 ต่อ 3101
หรือ www.lc.mahidol.ac.th
ข้อมูลหลักสูตร รองศาสตราจารย์โสภนา ศรีจำปา โทร. 0-2800-2323
รองศาสตราจารย์เสาวภา พรสิริพงษ์ โทร. 0-2800-2308-14 ต่อ 3308
สวัสดีครับอาจารย์โสภนา
ต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ที่อินเดียศึกษาได้มาเปิดบล๊อคใน G2K
ขอต้อนรับด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ จะได้มีอีกบล๊อคหนึ่งที่ "เพื่อเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร หลักสูตร ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับอินเดียในมิติต่างๆ "
คนไทยยังจำเป็นที่จะ ได้มีโอกาสได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอินเดียที่หลากหลายและถูกต้องเพิ่มมากขึ้นครับ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า อินเดียจะต้องมีบทบาทสำคัญที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน ในขณะที่จีนศึกษา มีผู้สนใจมากแล้ว แต่อินเดียศึกษายังมีน้อยอยู่
ยินดีครับ
ด้วยความปรารถนาดี
เรียน คุณพลเดช ที่เคารพ
ขอบพระคุณมากค่ะ ที่ให้กำลังใจ กำลังอยู่ในระหว่างการเรียนรู้กับบ้านใหม่ (ทั้ง weblog และหลักสูตร) ค่ะ
โสภนา
อยากทราบว่าเรียนสัปดาห์ละกี่วัน ? และวันอะไรบ้าง ?
อยากทราบว่าจะเปิดสอนระดับ ป.โทอีกครั้งเมื่อไหรค่ะ อยากทราบเรื่องหลักสูตรนะค่ะ พอดีจะจบการศึกษา ป.ตรีช่วงเมษานี้นะค่ะ อยากทราบเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยค่ะ คือสนใจอยากเรียนด้านนี้มานานแล้วค่ะ รบกวนด้วยนะค่ะ
อยากทราบเวลาที่เปิดรับสมัครในปี 52 นี้นะค่ะ
มีเรียนแบบเสาร์ อาทิตย์ ไหมครับ อยากศึกษาเพราะสนใจทางด้านนี้มากครับ
ผมกำลังจะบินไปสอบวิทยานิพนธ์เพื่อจบปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยมคธประเทศอินเดียครับ เรียนรัฐศาสตร์ ถามว่าทำไมจึงมาเรียนที่อินเดีย คำตอบแรกคือ เรียนอินเดียค่าใช้จ่ายถูกมาก ผมไม่มีเงินเรียนปริญญาเอกในเมืองไทยซึ่งหลักสูตรแต่ละหลักสูตรเก็บแพงมาก ผมเรียนที่มหาวิทยาลัยมคธผมจ่ายไปทั้งหมดสองแสนสามหมื่นบาทรวมค่าพิมพ์วิทยานิพนธ์ ค่าสอบวิทยานิพนธ์ ค่ากรรมการสอบวิทยานิพนธ์ ตลอดจนค่าธรรมเนียมต่าง ๆ แล้วครับ จ่ายไปเพียง 230,000บาท เท่านั้น การเรียนที่ประเทศอินเดียถ้าจะให้ดีอย่าเรียนผ่านนายหน้าหรือเอเจนซี่นะครับ เพราะนอกจากจะเสียเงินแพงแล้ว ยังเสี่ยงต่อการไม่จบอีกต่างหาก ของผมเรียนผ่านหลวงพ่อคนไทยที่อยู่อินเดีย ครับ จบชัวร์พันเปอร์เซ็น สนใจติดต่อผมที่ 085-345-1226
ผมเป็นศิษย์เก่ามคธครับ เรียนจบ ปริญญาเอก Commerce ครับ จบเกือบยี่สิบปีแล้วครับ หลังจากจบปริญญาโท จาก AIT ผมก็ไปเรียนต่อที่มคธครับ สมัยเกือบยี่สิบปีก่อน ค่าครองชีพยังไม่แพงมาก ค่าเรียนก็ถูกครับ อยู่ 4 ปี ใช้ไปเบ็ดเสร็จ สองแสนกว่าครับ
เรียนอินเดียไม่แพงอย่างที่คิดครับ ใช้ชีวิตแบบเต็มเวลาที่อินเดีย สองปีกว่า เพิ่งจบมาเมื่อปี 2009 ที่ผ่านมานี้เอง ใช้งบแค่สามแสนกว่านิดหน่อย เท่านั้นเองครับ ผมเรียนที่รัฐพิหารครับ
เรียนปริญญาเอกอินเดีย เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาล เรียนแบบ Research Study (British System) ระยะเวลา 2-4 ปี แต่สามารถจบได้ภายในสองปีครึ่ง ค่าใช้จ่ายระบบเหมาจ่ายตลอดหลักสูตร สามแสนบาท สนใจติดต่อ
อาจารย์ ธีรดา มหาวิทยาลัยอิสาน บริการด้วยความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เพื่อความมั่นใจของผู้ศึกษาต่อ
ผู้ที่โทรมาขอให้เป็นผู้ที่มีความสนใจ และตั้งใจจริงเท่านั้นนะคะ เพราะดิฉันจะช่วยเฉพาะคนที่ตั้งใจจริงเท่านั้น
อาจารย์ธีรดา ทรวงกำเนิด 082-123-2565
รับตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2553 เป็นต้นไป จำนวนจำกัด