คำนี้ในภาษาไทยแปลกันว่า สว่าง หรือบางครั้งก็อาจหมายถึง แหล่งกำหนดของแสงสว่างต่างๆ เช่น เทียน ตะเกียง ดวงไฟ เป็นต้น... และบางครั้งก็อาจใช้ประสมว่า แสงประทีป นั้นคือ แสงสว่าง หรือ แสงจากดวงไฟ ....
คำว่า ประทีป เขียนตามบาลีว่า ปทีป โดยมี ป. เป็นอุปสัคนำหน้า ทีป รากศัพท์ (ป + ทีป = ปทีป)
- ป = ทั่ว, ข้างหน้า, ก่อน, ออก
- ทีป = แสดง, เห็น
เมื่อนำรากศัพท์และอุปสัคมาผสมกัน คำว่า ปทีป (ประทีป) จึงอาจยักย้ายความหมายไปได้เยอะแยะ เช่น...
- แสดง + ทั่ว
- เห็น + ข้างหน้า
- แสดง + ก่อน
- เห็น + ออก
- ....ฯลฯ...
ส่วนคำว่า ปทีป นี้ ในภาษาบาลี นอกจากจะแปลว่า แสงสว่าง หรือ ดวงไฟ ตามความหมายในภาษาไทยแล้ว บางครั้งก็แปลตรงตัวว่า เห็น หรือ แสดง .... แต่บางครั้งก็อาจแปลว่า ปัญญา ที่พึ่ง หรือ เกาะ ได้อีกด้วย...
อนึ่ง ปทีบ นี้ ในบาลี บางครั้งก็ใช้เพียง ทีป (ไม่มี ป. นำหน้า) แต่ความหมายก็ไม่แตกต่างกันนัก ซึ่งในหนังสือแปลบาลีเป็นไทยบางเล่มก็แปลยกศัพท์ว่า ทีโป อันว่าดวงประทีบ เป็นต้น
.................
ผู้เขียนจะนำความเห็นในความหมายที่แปลว่า ดวงไฟ (แสงสว่าง) ปัญญา ที่พึ่ง และ เกาะ มาเล่าเป็นการประเทืองความคิดเล่นๆ ในบันทึกครั้งนี้...
ปทีป ในความหมายว่า ดวงไฟ หรือ แสงสว่าง นั้น ก็คือ สิ่งที่ช่วยให้เรามองเห็นนั่นเอง ดังอรรถวิเคราะห์ว่า...
- ปทีเปติ เตนาติ ปทีโป
- บุคคล ย่อมเห็น ด้วยสภาพนั้น ดังนั้น สภาพนั้น ชื่อว่า ปทีป (เป็นเครื่องเห็น)
นั่นคือ ถ้าไม่มีดวงไฟที่ก่อให้เกิดแสงสว่าง หรือไม่มีความสว่างแล้ว คนเราก็ไม่สามารถจะมองเห็นอะไรได้ (แม้ตาจะไม่บอดก็ตาม) ดังนั้น คำว่า ปทีป จึงหมายถึง ดวงไฟ หรือ แสงสว่าง....
...........
ปทีป ในความหมายว่า ปัญญา นี้ เป็นการเปรียบเทียบว่า แสงสว่าง ทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ ฉันใด เมื่อคนเรามีปัญญาก็สามารถทำให้เรามองเห็นลู่ทางในการดำเนินชีวิตฉันนั้น นั่นคือ เปรียบเทียบว่า แสงสว่างคือปัญญา....
เมื่อถือเอาตามข้อเปรียบเทียบ ก็อาจแปล ปทีป ว่า ปัญญา ได้ โดยพิจารณาข้อความในประโยคนั้นๆ เป็นเกณฑ์....
อนึ่ง ความเห็นว่า แสงสว่างคือปัญญา นี้ ผู้เขียนรู้สึกว่าจะเป็นความเข้าใจร่วมกันของเหล่าชนทุกชาติศาสนาและทุกยุคสมัย
.............
ปทีบ ในความหมายว่า ที่พึ่ง นี้ อาจขยายความได้ ๒-๓นัย นัยแรกก็คือ เมื่อไม่มีแสงสว่าง เกิดความืดมิดขึ้นมา คนเราจะรู้สึกกลัว แต่เมื่อมีแสงสว่าง ความขลาดกลัวในเพราะความมืดก็จะค่อยๆ ผ่อนคลายและหายไป ดังนั้น ปทีบ (แสงสว่าง) จึงใช้ในความหมายว่า ที่พึ่ง ได้
และนัยนี้ อาจขยายอีกประเด็นได้ว่า ดวงไฟ อาจป้องกันสัตว์ร้ายได้ (ดังเช่นเมื่ออยู่กลางป่า) ดังนั้น การได้ดวงไฟก็เหมือนกับการได้ที่พึ่ง... ตามนัยนี้ ปทีบ (ดวงไฟ) จึงใช้ในความหมายว่า ที่พึ่ง ได้...
อีกนัยหนึ่ง เป็นการเปรียบเทียบต่อไปอีกชั้นหนึ่ง กล่าวคือ เมื่อเปรียบเทียบว่า ปัญญาคล้ายๆ กับแสงสว่างทำให้เรามองเห็นลู่ทางในการดำเนินชีวิตแล้ว ดังนั้น การได้ปัญญาก็เหมือนกันการได้ที่พึ่งในการดำเนินชีวิตได้ นั่นคือ ปทีป (ปัญญา) จึงใช้ในความหมายว่า ที่พึ่ง ได้ ....
...................
และ ปทีป ในความหมายว่า เกาะ นี้ ก็อาจขยายความได้หลายนัยเช่นเดียวกัน ทำนองว่า เมื่อเราล่องลอยอยู่กลางทะเล หรือมหาสมุทร ก็ย่อมจะไม่มีที่พึ่ง แต่เมื่อเจอเกาะกลางทะเล ก็อาจทำให้เราสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ดังนั้น ปทีป (ที่พึง) จึงอาจหมายถึง เกาะ ก็ได้ สำหรับผู้ที่ล่องลอยไร้ที่พึ่งอยู่กลางทะเล... ทำนองนี้
อนึ่ง เมื่อพิจารณาตามรูปศัพท์ ป อุปสัค แปลว่า ข้างหน้า ส่วน ทีป แปลว่า เห็น ดังนั้น ปทีป ก็อาจแปลว่า เห็นข้างหน้า ได้... นั่นคือ เมื่อเราเดินทางในมหาสมุทร อาจมองไม่เห็นอะไร แต่คราวใดที่เราเห็น เกาะ นั่นก็คือ ปทีป ซึ่งแปลว่า ถูกเห็นข้างหน้า ดังอรรถวิเคราะห์ว่า....
- ปุรโต ทีปิยเตติ ปทีโป
- แผ่นดินใด อันชาวเรือ ย่อมเห็น ข้างหน้า ดังนั้น แผ่นดินนั้น ชื่อว่า ปทีป (ถูกชาวเรือเห็นข้างหน้า)
...........
เมื่อแรกเรียนบาลี ผู้เขียนก็สงสัยว่า ทำไมบางศัพท์จึงแปลได้หลายนัย... ต่อมาได้เจอคำอธิบายและขยายความก็พอคลายสงสัยได้บ้าง... บางศัพท์ที่ยังไม่เจอคำอธิบายก็อาศัยจดจำความคิดเห็นจากครูบาอาจารย์หรือเพื่อนๆ.... และบางครั้งผูเ้ขียนก็อาศัยคิดเอาเองเล่นๆ...
อาจารย์สอนตรรกศาสตร์มักจะบอกว่า สมเหตุสมผล ก็พอฟังได้....