หัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติด คือ “การให้โอกาสทางสังคม” หลักการพื้นฐานคือเราถือว่า “ผู้เสพผู้ติดยาเสพติดคือผู้ป่วย” ที่ต้องการช่วยเหลือบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพ และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีหลังการบำบัด เพื่อให้สามารถกลับไปอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข
ต้องยอมรับว่าปัญหายาเสพติดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเจตคติของสังคมที่มีต่อผู้ป่วย การไม่ให้โอกาส การไม่ยอมรับ ทำให้ช่องทางการกลับมาเป็นคนดีของสังคมตีบตัน ผลักไสให้เขาไปยืนอยู่ในมุมมืดของสังคมอยู่ร่ำไป
ด้วยพระเมตตาของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ประธานโครงการ To Be Number One ที่ได้ริเริ่มกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ รวมทั้งการให้โอกาสผู้เสพผู้ติดในการเข้ารับการบำบัดรักษาตามโครงการ “ใครติดยายกมือขึ้น” และในปีมหามงคลที่ในหลวงมีพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา โครงการ To Be Number One จึงได้จัดทำ “โครงการ To Be Number One รณรงค์เลิกยาเสพติด 980 ชีวิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาส 5 ธันวาคมมหามงคลเฉลิมพระชนม์ 80 พรรษาองค์ราชันย์” เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2550 ถึง 5 ธันวาคม 2550 โดยการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด เพื่อรับสมัครผู้ที่เสพผู้ติดยาเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพฟรี หลังการบำบัดแล้วมีการส่งเสริมอาชีพและส่งเสริมการกลับไปเรียนหนังสือตามที่ต้องการ
จังหวัดน่าน มีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น ๑๘ ราย และได้รับการส่งเสริมอาชีพ การศึกษา และสามารถกลับคืนไปสู่สังคมได้อย่างปกติสุข
และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงประทานพระอนุญาตให้จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในกิจกรรมรณรงค์เลิกยาเสพติด ๙๘๐ ชีวิตฯ ในวันจันทร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๐ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ฮอลล์ ๙ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ ตลอดงาน งานนี้แต่ละจังหวัดได้นำนิทรรศการผลงานของตนเองมาจัดแสดง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ ผู้ประสานงาน และผู้บริหารแต่ละจังหวัด ก็ได้มีโอกาสได้เข้าเฝ้าและปฏิญาณตนในการที่จะเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดไปตลอดชีวิต
งานนี้นับว่าเป็นการให้โอกาสสำคัญของผู้ป่วยในการได้เข้าเฝ้า ได้เข้าร่วมกิจกรรมทำความดีเพื่อพ่อหลวง และได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม
สวัสดีครับคุณ