|
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน นายวุฒิสาร ตันไชย กรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) เปิดเผยความคืบหน้าการผลักดันการถ่ายโอนสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในบัญชีถ่ายโอนที่ 2/2549 ที่ยังเหลือค้างอยู่ ไปให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามกฎหมายการกระจายอำนาจว่า จากที่นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กกถ. ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการเตรียมความพร้อมด้านการจัดการศึกษาท้องถิ่น ซึ่งมีตนเป็นประธาน ได้หารือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เกี่ยวกับการถ่ายโอนสถานศึกษาในบัญชี 2/2549 ที่ยังค้างอยู่ 123 โรงเรียน จากทั้งหมด 292 แห่งนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้หารือร่วมกับนายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) โดยมีผู้แทน อปท.และสำนักงบประมาณเข้าร่วมหารือด้วย ได้ข้อสรุปว่า สพฐ.ยอมถ่ายโอนสถานศึกษาให้ อปท.เพิ่มเติมอีกจำนวน 59 แห่ง แยกเป็นโรงเรียนทั่วไปที่ไม่ได้ระบุไว้ในกฎกระทรวงประมาณ 50 แห่งจากทั้งหมด 63 แห่ง และโอนโรงเรียนที่ระบุอยู่ในกฎกระทรวงให้ประมาณ 9 แห่ง จากทั้งหมด 60 แห่ง โดยโรงเรียนที่ถ่ายโอนในครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา เช่น โรงเรียนในฝันที่ประกาศในรอบที่ 2 และโรงเรียนที่มีผู้บริจาคที่ดิน แต่มีหนังสือยินยอมให้ถ่ายโอน เป็นต้น
นายวุฒิสารกล่าวต่อว่า ส่วนโรงเรียนที่ยังค้างอยู่อีกประมาณ 64 แห่ง แยกเป็นโรงเรียนทั่วไปประมาณ 13 โรงเรียน และโรงเรียนลักษณะพิเศษที่ระบุอยู่ในกฎกระทรวง ประมาณ 51 แห่งนั้น ที่ประชุมได้ตกลงกันว่า เพื่อไม่ให้โรงเรียนที่ยังไม่ถ่ายโอนให้แก่ อปท.เสียโอกาส จะมีการทำข้อตกลงความร่วมมือในการจัดการศึกษาระหว่าง อปท.กับสถานศึกษา ตามความสมัครใจของสถานศึกษา โดยเสนอให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นไปพิจารณาจัดทำข้อบังคับและแนวทางว่า จะดำเนินการอย่างไรให้ อปท.สามารถเข้าไปช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาร่วมกันได้ โดยที่ไม่ผิดข้อบังคับและกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย (มท.) เนื่องจากการใช้งบประมาณของ อปท.ต้องเป็นไปตามกฎหมายของ มท.
'สำหรับตัวเลขสถานศึกษาที่จะถ่ายโอนเพิ่มเติมนั้น ในที่ประชุมได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของ สพฐ.กับคณะอนุกรรมการฯไปหาข้อสรุปให้ตรงกันอีกครั้ง เพื่อนำเสนอขอความเห็นชอบจากที่ประชุม กกถ.ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ นอกจากนี้ ผมได้ขอให้ สพฐ.ช่วยเร่งรัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ที่ยังไม่ได้ดำเนินการถ่ายโอนสถานศึกษาในบัญชีที่ 2/2549 อีกประมาณ 2-3 แห่ง ทั้งที่มีมติให้ถ่ายโอนไปก่อนหน้านี้แล้ว' นายวุฒิสารกล่าว
ด้านนายสมเกียรติกล่าวว่า การถ่ายโอนสถานศึกษาเพิ่มอีกประมาณ 60 แห่งดังกล่าว จะต้องทำตัวเลขสถานศึกษาที่จะถ่ายโอนเพิ่มเติมให้ตรงกันอีกครั้ง จากนั้นตนจะเสนอเลขาธิการ กพฐ.และรัฐมนตรีว่าการ ศธ.พิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีข่าวว่าองค์กรครูร้องเรียนว่า ครูที่อยู่ช่วยราชการในสถานศึกษาที่ถ่ายโอนไปแล้วไม่ได้รับการดูแลเรื่องสวัสดิการ อาทิ บ้านพักครู ตลอดจนการจัดชั่วโมงสอนไม่เป็นธรรม ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาถึง สพฐ. แต่ตนจะช่วยดูแลและติดตามเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้ต่อไป
|
