วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ผมลงทำงานคลินิกแห่งหนึ่งแถวศรีนครินทร์
มีคนไข้คนหนึ่ง ผมได้รับ Refer มาจากพี่เจ้าของร้านที่เป็นหมอจัดฟัน
คนไข้เป็นอาม่า อายุ 74 ปี แข็งแรงทีเดียว....พูดจ้อเลย...
แกมาพบคุณหมอเจ้าของร้านก่อน เพราะอยากจะทำฟันปลอม แต่สภาพภายในช่องปากของอาม่านั้น ฟันบนมีอยู่ 4 ซี่ ฟันล่างเหลือแต่ฟันหน้าล่าง 3 ซี่ ทุกซี่มีการสึกบริเวณรอบคอฟัน เหงือกมีการอักเสบ มีหินน้ำลาย....
คือ สภาพช่องปากเช่นนี้ยังไม่เหมาะในการทำฟันปลอม พี่เจ้าของร้านก็แนะนำให้อาม่าถอนฟันออก ให้เหลือฟันเขี้ยวบนสักซี่หนึ่ง ฟันล่างให้เอาออกหมดเลย เพราะประเมินแล้วว่าเก็บไว้ในอนาคตก็คงต้องถอนออกในที่สุดอยู่ดี
แต่ อาม่า เป็นอาม่าที่กลัวถอนฟันมากกกก++++
หัวเด็ดตีนขาด...อาม่าก็จะไม่ยอมถอนฟัน...ต่อรองขอพิมพ์ปาดแล้วใส่ฟันเลยได้ไหม???? คุยกันไป-มาก็กลับอยู่ประเด็นเดียว ในที่สุดพี่เขาก็ขอร้องให้ผมคุยกับแกแทน
ผมจึงได้พูดคุยกับอาม่า.....(วันนั้น เกือบชั่วโมงที่คุยกันเฉยๆ โดยไม่ได้ทำอะไร) แต่การพูดคุยอย่างละเอียดเป็นเวลานานๆเช่นนี้ ทำให้ผมทราบอีกมิติหนึ่งของคนไข้ ที่คุณหมอหลายๆคนมองข้ามไป...
อาม่าเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนแกเคยปวดฟัน ไปหาหมอ หมอก็จับแกถอนฟัน ไม่ฉีดยาชาด้วย....แกก็รู้สึกกลัวฝังใจ...ไม่อยากถอนฟันอีกแล้ว
ส่วนฟันปลอมที่แกอยากได้ แกบอกว่าไม่ต้องการอะไรมาก เพราะแกอายุมากแล้ว ไม่อยากให้แน่นปึก หรือ อยู่ทนนาน 30 ปีหรอก แต่ขอร้องไม่อยากถอนฟัน
แล้วแกก็เล่าชีวิตแกกับลูกสาว ว่าเดี๋ยวแกจะไปเที่ยวกับลูกสาวตอนปีใหม่นี้ จะได้มีฟันใส่"ตอนถ่ายรูปกับลูก......"
ได้ฟังแล้วผมรู้สึกเลยว่า เรามองข้ามอะไรไปแล้วล่ะ++
เรามองเห็นแต่โรค คือเขาไม่มีฟัน
จะทำฟันให้สมบูรณ์ ก็ต้องถอนฟัน abutment ที่ไม่แข็งแรงออก
โดยลืมมองมิติความเป็นมนุษย์ ลืมมองบริบททางสังคม สิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน
คุณป้าอยากมีฟันปลอมใส่.....ไม่ได้อยากถอนฟัน
เรามีความจำเป็นต้องรักษา ให้สมบูรณ์สุดขีดด้วยหรือไม่?
แล้วถ้าเราไม่รักษาเขาให้ Perfect เขาจะไม่กลับไปเป็นคนมีสุขภาพดีหรือเปล่านะ?
เราจะทำอย่างไรดีหนอ....ถ้าป้าไม่ทำตาม Ideal Treatment plan เราจะเป็นหมอเถื่อนไหมหนอ???
หลังจากฟังอาม่าเล่ามาเกือบชั่วโมง และครุ่นคิดอีกสักพักหนึ่ง
ก็เลยวางแผนการรักษาแบบ Alternative treatment plan ขึ้น โดยบอกอาม่าไปว่า ถ้าอาม่าไม่อยากถอนฟัน อาม่าก้คงต้องพยายามรักษาเหงือกและฟันที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นหลักให้ฟันปลอมยึด
โดยอาม่าต้องมาอุดคอฟัน และรักษาเหงือกก่อน เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วหมอจะทำฟันปลอมให้ แต่อาจจะไม่แน่นมากนะ แต่หมอจะพยายามทำให้ดีที่สุด
ให้อาม่ากลับไปคิดก่อน 1 สัปดาห์
อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา
อาม่าก็มาอีก....และก็มาคุยๆๆๆอีกกว่า1ชั่วโมง
"ไม่อุด ไม่ขูดไม่ได้เหรอ ทำฟันปลอมเลยไม่ได้เหรอ แถวๆท่าพระจันทร์ก็มีรับทำฟันปลอม ไม่เห็นต้องอุด ขูดอะไรเลย"
วันนั้นก็ต้องนั่งอธิบายกันอีกกว่าชั่วโมง เรื่อง หมอฟัน กับช่างทันตกรรม ที่บางคนเรียกหมอเถื่อน ว่ามีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ซึ่งวันนั้น อาม่าก็ยังไม่ทำการรักษาอะไร.......(อีกแล้ว)
......
.......
หายไปสองสัปดาห์
ในที่สุดเมื่อวาน.........ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น อาม่ากลับมาอีกครั้ง คราวนี้ตัดสินใจเริ่มทำการรักษาแล้ว ยังไงก็เอาใจช่วยผมด้วยนะครับ
ให้ทำฟันปลอมให้อาม่าได้สำเร็จด้วย .......สู้ๆๆๆๆๆ(^_^)
ขอบอบคุณอาจารย์ณัฐวุธ
อนาคตของโลกเราคงจะหนีความจริงที่ว่า 'People need voice & choice.' หรือ "คนเราต้องการมีสิทธิ์มีเสียง" และต้องการมีทางเลือกได้ยาก
รายงานความก้าวหน้า....
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อาม่ามาเตรียมสภาพช่องปาก อุดฟัน และขูดหินปูนแล้วครับ
เดี๋ยววันพฤหัสนี้จะให้อาม่ามาพิมพ์ปากครั้งแรกครับ...
อาม่ายัง Happy อยู่ครับ (^_^)
สวัสดีค่ะ คุณหมอณัฐวุธ
เข้ามาอ่านบันทึกค่ะ เป็นบันทึกเรื่องเล่าที่น่าสนใจมากค่ะ
ถ้าหากอยากจะขออนุญาตหยิบยกบางส่วนของเรื่องเล่า นำไปเล่าต่อในการประชุมวิชาการของ ม.ช ที่จะจัดปลายเดือนนี้ได้ไม๊คะ เพราะตอนนี้ตัวเองกำลังเตรียมเนื้อหาอยู่ค่ะ และสัญญาว่าจะ reference ที่มาของเนื้อหาที่นำไปใช้ค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
อ่านแล้วประทับใจจังเลยค่ะ
คุณหมอน่ารักจัง ^0^\/
ขอบคุณที่เขียนบทความดีๆแบบนี้นะครับ ขอนำไปลงที่เว็บผมได้ไหมครับ iqsiam.com