ผมฟื้นคนเดียวไม่ได้


มีเมียซอยกะอุ่นใจหลายเด้เจ็บหน่อยอีหลี

ลุงน้อยผ่าตัดทางระบายท่อน้ำดี และตัดถุงน้ำดีออก ก็เป็นการผ่าตัดใหญ่ กลับมาก็ใกล้หกโมงเย็น แต่ก้สามารถหายใจเองได้ ด้วยฤทธิยาสลบ และความอ่อนเพลีย เวรบ่ายถึงหลับได้ถึงสามทุ่ม และเป็นช่วงที่เรามีเวลา ซ้อมภรรยา ลุงน้อยฝึกการกอดสามีเพื่อประคองสามีไว้
สามทุ่มครึ่งลุงก็พยายามพลิกตะแคงตัวเอง ภรรยาก็ดึงไว้กลัวสามีเจ็บ พอพยาบาลมายืนใกล้ๆป้าถึงกล้ากอดสามีดึงเข้าหาตัวเพื่อลุงจะพลิกตัวได้สะดวก ก่อนลงเวรบ่ายลุงตื่นเต็มที่ แต่ยังม่ได้กดยาแก้ปวดสักครั้ง
บ่ายวันรุ่งขึ้นลุงรายงานว่า
'ผมฟื้นคนเดียวไม่ได้ ถ้าไม่ได้ภรรยาช่วย'
'บ่อยากอายดอกหมอ ย่านเลาบ่เซ่า เห็นลุกได้กะดีใจหลาย น้องๆซื้อยาไว้ให้ขวดสองพัน กินได้บ่'
เอาพรุ่งนี้มะรืนนี้ก่อนป้า ถ้ากินได้ดี ไม่แน่นอืด ค่อยวางแผนกันนะ ยาตั้งสองพัน (โฮ ไม่เคยซื้อกินเลยนะเนี่ย)

[img][/img]

หมายเลขบันทึก: 149034เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2007 13:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 เมษายน 2012 09:35 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  ตอบโดยอ้างข้อความ แก้ไข/ลบข้อความ

[img][/img]


ชายวัยกลางคนหลังผ่าตัดต้องใส่ท่อช่วยหายใจนานเข้าอาทิตย์ที่ 3 แล้ว พอย้ายขึ้นตึกใหม่กลัวจะได้จะคอ(บางครั้งการพูด ให้ผู้ป่วยและญาติโดยไ่ม่ได้ทวนความเข้าใจของเขาก็กังวลเป็นธรรมดา0......ก็ดีนะคะพอขึ้นมาคุณภรรยาก็ถามคำถามที่สามีคาใจว่า......คุณหมอขา คุณสามีจะถูกเจาะคอหรือ?)
.................. สองสามีภรรยาได้รับคำตอบที่ให้โอกาสคุณได้เลือกที่จะฝึกการหายใจมีพลังใจกำลังใจที่ถอดท่อช่วยหายใจได้ เมื่อบออกวิธีการฝึกแล้ว คุณสามีก็ฝึกทันที แขนซ้ายที่ไม่ค่อยมีแรงใช้แขนขวายกขึ้นลง 6 ครั้งก็ให้พัก .....คราวนี้ลองฝึกนั่งพักบนเตียงท่าทางที่เหมาะสม ..คุณสามีบอกว่าปวดไหล่ซ้ายเพราะเริ่มติดค่ะ ....ก็แนะให้คุณภรรยาช่วยประคอง

....................................................................... ก็เทคนิคการกอดนำมาใช้.....
เขินไหมคะ ....ก็ทำหน้าเอียงอายสักหน่อย......คุณสามีก็เอามือข้างที่ดีโน้มคอคุณภรรยาไว้ ส่นคุณภรรยาก็เอามือสอดไว้รอบไหล่ประคองใต้รักแร้ ดึงตัวผู้ป่วยปลิวค่ะ(เพราะคุณภรรยาตัวใหญ่กว่า......ถามว่าใช้แรงมากไหม ทั้งคนไข้ และผู้ช่วยเหลือออกแรงนิดเดียวค่ะ)

....................ผลที่ได้ นานๆได้ใกล้ชิดกันอย่างนี้ นึกว่าหมอไม่ให้เข้าใกล้.......อ้าว...
0000000000วันนี้ก็ส่งญาติไปเรียนให้อาหารปั่นค่ะเพราะ Home Program เราจะฝึกให้ญาติได้จนครบและเกิดความเชื่อมั่นในการดูแลผู้ป่วยค่ะ

ชายไทยอายุเฉียด70ปี ทั้งปัญหา เบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง และทำCAG เสร็จก็ไปห้องผ่าตัดวันที่สองหลังผ่าตัดย้ายขึ้น ก็มีท่อระบายทรวงอก2เส้น สายสวนปัสสาวะ คลื่นหัวใจก็เต้นพริ้วเล็กน้อย ควบคุมน้ำตาล และความดันได้ดี ปัญหาที่เหลืออยู่ก็คือการปวดไหล่ทั้งสองข้าง
..............ไอเล็กน้อย ปัสสาวะเองได้หลังถอดสายสวนปัสสาวะ.........ให้ความร่วมมือดีค่ะ เริ่มต้นฝึกหายใจก็ทำได้ดี.................
แฮะๆๆๆไม่อยากจะบอกว่าหมอนเด็กที่ทำไว้นะหายเกลี้ยงค่ะ ขณะนี้มีตุ๊กตาประปราย เลยนำเทคนิคส่วนตัวคือการกอดมาใช้ ......
รายนี้หันซ้ายหันขวา..อ้าวญาติหายไปไหน.... อ๋อมาพอดี....ก็บอกคนไข้ว่าไม่เป็นไรนะคะ จะพยุงตาลุกนั่งลูกชายรูปร่างแข็งแรงก็แนะนำให้ผู้ป่วยออกแรงน้อยที่สุดและเจ็บแผลน้อยที่สุด.............ลูกชายประคองไหล่พ่อ ส่วนพ่อโอบรอบคอไว้การออกแรงของญาติดึงตัวผู้ป่วย.....เจ็บแผลน้อยค่ะ และคนไข้จะไม่กลัวการเปลี่ยนนอนเป็นท่านั่งค่ะ.....
คุณหมอมีอะไรที่น่าเป็นห่วงไหมครับ?ลูกชายคนไข้ถามขึ้น
'องถามคำถามที่ต้องการทราบแล้วเล่าให้พยาบาลฟังหน่อยค่ะ เฟื่อความกังวลของญาติกับพยาบาลจะไม่ตรงกัน จะได้พูดให้ตรงกัน"
สุดท้ายก็เลยได้เล่าให้ฟังเพราะลูกชายไม่รู้ว่าจะเริ่มถามอะไร
ก็เลยต้องอธิบายทีละประเด็นเป็นภาษาง่ายๆ..........ฝากญาติดูแลตัวเองด้วยหน้าซีดหมดแล้วไปทานข้าว และพักผ่อนบ้าง.....ญาติคนไข้ก็สารภาพ .ผมยังไม่ได้นอนเลยครับเป็นห่วงพ่อมากเพราะผมเป็นคนเซ็นให้พ่อผ่าครับ......คุณคิดถูกต้องแล้วค่ะ ไปพักผ่อนได้ เจ้าหน้าที่จะช่วยกันดูแลมีอะไรจะโทรศัพท์ตามค่ะ.
สำหรับคุณภรรยาตัวโตสามีตัวเล็กและตัวไม่สูงเหมือนรายนี้ การกอดของภรรยาที่นอนอยู่บนเตียงคุณสามีเอามือสอดใต้รักแร้สองข้าง คุณภรรยากอด(โน้มตัวเเน่นเลยค่ะ เพราะภรรยาตัวโตตัวใหญ่ .......คนเดียวก็เอาลุกไหวค่ะ ....และคนไข้เจ็บแผลน้อยค่ะ
การกอดกันร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความสุข 'ออกซีโตซินออกมา" ดังนั้นพลังการกอดทำให้เรามีความสุขค่ะ[img][/img]


อ้อมกอดออนไลน์

ความรู้สึกเศร้า หดหู่ เป็นทุกข์ของคนที่ต้องเดินทางห่างบ้านไปในที่ไกลๆ หรือเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลานานๆ กำลังจะหมดไป เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาประกาศถึงผลงานวิจัยล่าสุดที่เกิดจากความพยายามที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ครอบครัวได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยการประดิษฐ์ผลงานวิจัยออกมาในรูปของชุดนอนเด็กอิเล็กทรอนิกส์ (electronic pajama) หรือเสื้อแจ็คเก็ตเด็กอิเล็กทรอนิกส์ (electronic child jacket) ที่สามารถส่งสัมผัส "อ้อมกอด" ความรัก ความอบอุ่นจากพ่อแม่ที่อยู่ห่างไกลมาสู่ลูกผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้สำเร็จ ผลงานวิจัยนี้เป็นของนักวิทยาศาสตร์ของศูนย์วิจัย Interactive and Entertainment Research Center ในสังกัดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนานยาง (Nanyang Technological University : NTU) ของประเทศสิงคโปร์

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2548 เจมส์ เทห์ (James Teh) หนึ่งในทีมนักวิจัยของศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนานยาง ได้เคยออกมาประกาศว่า สามารถคิดค้นหาทางส่ง "สัมผัสอ้อมกอดผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต" โดยประดิษฐ์ออกมาในรูปต้นแบบของเสื้อแจ็คเก็ตแบบสั่นได้เพื่อจำลองสัมผัสอ้อมแขนขณะกอดสำหรับลูกไก่ สัตว์ปีกและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ได้สำเร็จมาแล้ว เสื้อแจ็คเก็ตนี้จะถูกควบคุมสั่งการจากเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและเฝ้าดูพฤติกรรมของสัตว์ดังกล่าวผ่านกล้องวีดีโอ ดังนั้น เมื่อนักวิจัยหรือเจ้าของส่งคำสั่งผ่านอินเทอร์เน็ตไปยังตัวเซ็นเซอร์ที่ฝังอยู่ภาย ในเสื้อให้เคลื่อนไหวไปมาหรือสั่น จะทำให้สัตว์ที่ใส่เสื้อแจ็คเก็ตดังกล่าวรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในอ้อมกอดของแม่ไก่หรือของเจ้าของ ซึ่งนอกจากจะให้ความอบอุ่นกับไก่แล้วยังช่วยให้มนุษย์สามารถสื่อสารกับสัตว์เลี้ยงได้ทุกที่และทุกเวลาที่ต้องการแม้ในเวลาที่เจ้าของยุ่งๆ ติดภารกิจอื่นๆ จนไม่มีเวลาเอาใจใส่สัตว์เลี้ยง อีกทั้งเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก (Avian Flu) ขึ้นในประเทศแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์/นักวิจัยตื่นตัวและให้ความสนใจผลงานวิจัยนี้เพิ่มขึ้นเพราะกลัวการสัมผัสไก่โดยตรงแล้วจะทำให้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดนก หากใช้เสื้อแจ็คเก็ตนี้ก็ไม่ต้องกังวลปัญหานี้อีกต่อไป

ศาสตราจารย์เอเดรียน เดวิด โช๊ค (Adrian David Cheok) แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนานยาง กล่าวว่า "ทุกวันนี้พ่อแม่ยุคใหม่ต้องทำงานนอกบ้าน จึงมักวุ่นวายอยู่กับการทำงาน หรือติดภาระกิจต้องไปประชุม/สัมมนาต้องไปค้างแรม หรือเดินทางไปต่างจังหวัด/ต่างประเทศเพื่อ ติดต่อธุรกิจจนไม่มีเวลาให้กับลูก ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์แล้วการสัมผัสและการกอดเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อพัฒนาการในการเจริญเติบโตของเด็ก" ชุดนอนเด็กอิเล็กทรอนิกส์หรือเสื้อแจ็คเก็ตอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้เด็กที่ใส่รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในอ้อมแขนของพ่อแม่จริงๆ แม้ในยามที่พ่อแม่ไม่อยู่ใกล้ๆ โดยสีจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป ณ ช่วงเวลานั้นๆ ด้วยการใช้เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือมาช่วยในการหาเส้นทาง ฉะนั้นเมื่อพ่อแม่เดินทางไปทำงานในที่ไกลๆ ชุดนอนเด็กอิเล็กทรอนิกส์หรือเสื้อแจ็คเก็ตอิเล็กทรอนิกส์จะเป็นสีน้ำตาลและถ้าพ่อแม่อยู่ใกล้ๆ เสื้อจะเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีชมพู

ทีมวิจัยเปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้พัฒนาตุ๊กตาหมีสำหรับเด็กโดยติดตั้งเซ็นเซอร์สำหรับบันทึกสัมผัสอ้อมกอดหรืออ้อมแขนขณะกอดของพ่อแม่และถ่ายทอดสัมผัสเหล่านั้นในรูปของคลื่นสัญญาณโดยใช้เทคโนโลยีไร้สายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปยังชุดนอนเด็กอิเล็กทรอนิกส์หรือเสื้อแจ็คเก็ต เสื้อดังกล่าวจะเปลี่ยนคลื่นสัญญาณที่ได้รับให้มาอยู่ในรูปแบบการสั่น (เช่นเดียวกับการสั่นเวลามีสายโทรเข้ามายังโทรศัพท์มือถือ) และส่งความร้อนที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องออกมา

เสื้อแจ็คเก็ตดังกล่าวมีฟังก์ชั่นให้เลือกปรับระดับความแรง (การสั่น) ในการกอด รวมถึงสามารถปรับอุณหภูมิความร้อนได้ตามต้องการเพื่อให้สามารถจำลองการกอดได้เหมือนจริงมากที่สุด เด็กๆ จะได้หลับสบายเหมือนอยู่ในอ้อมกอดของพ่อแม่/ผู้ปกครองจริงๆ และหากพ่อแม่/ผู้ปกครองใส่เสื้อแจ็คเก็ตแบบเดียวกันนี้จะสามารถรู้สึกและรับรู้ถึงอาการ "กอดตอบ" ของลูก/หลานได้ และคาดว่า ชุดนอนเด็กอิเล็กทรอนิกส์หรือเสื้อแจ็คเก็ตนี้จะสามารถนำออกมาวางจำหน่ายได้ในราวเดือนมิถุนายน 2549 นี้


ที่มา :
http://edition.cnn.com/2005/TECH/11/30/cyber.hugs/ สืบค้นข้อมูลเมื่อ 31/3/2006
http://www.guardian.co.uk/science/story/0,3605,165310500.html สืบค้นข้อมูลเมื่อ 31/3/2006
http://www.techtree.com/techtree/jp/article.jsp? สืบค้นข้อมูลเมื่อ 31/3/2006
www.nectec.or.th/.../20060501-v3no9.html


กอด

ตอนนี้คุณอยากกอดใครมากที่สุด

เพราะสนใจเรื่องกอดกับการลุกนั่งบนเตียงหลังผ่าตัดก็เลยมีเรื่องเล่าค่ะ

คุณลุงมณี  เพิ่นมาผ่าตัดเนื้องอกในท่อน้ำดีค่ะ

วันนี้พยาบาลคนสวย  (อิๆๆ)ต้องไปแนะนำค่ะการฝึกหายใจที่ถูกต้อง ถ้าเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจคูณนักกายภาพก็จะมาช่วยดูแลค่ะ

แต่ผู้ป่วยผ่าตัดช่องท้องต้องเหลือให้พยาบาลคนสวยนะสิ

ถามลุงมณีว่าหลังผ่าตัดใครจะอยู่ช่วยดูแลคะ เช่นการพาลุกนั่ง เช็ดตัว  ลูกสองคนชี้มือพร้อมกันไปที่ (คุณป้าภรรยาคุณลุงที่สวยกว่าป้าอ้วนสิคะ) คำตอบที่ได้.....ป้ายิ้มอวดฟันหลอ

โอ้ดีเลย...หุ่นอย่างนี้ชอบค่ะ..เพราะป้าท้วมดีจังรองรับน้ำหนักลุงได้สบายมาก

แล้วเราก็มาเริ่มฝึกกัน

พยาบาลคนสวยบอกครอบครัวคุณลุงถึงการเตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง(อิ๐๐ๆๆๆๆ)

****ฝึกหายใจผ่านไป..ออกกำลังบนเตียงผ่านไป

****มาวันที่เราจะเริ่มช่วยคุณลุงลุกนั่งนะคะ***วันนี้ขอเริ่มด้วยท่าทางประคองคุณลุงไม่ให้เจ็บนะคุณป้า

ป้าสนใจมากเตรียมพร้อมเต็มที่**

เราเริ่มด้วยการที่ให้คุณลุงขยับตัวที่ละนิดมาชิดริมเตียงด้านที่ป้าอยู่ก่อนค่ะ  แล้วคุณลุงก็เอามือโอบรอบคอป้าเขาเรียกว่ากอดค่ะ***

คุณลุงรีบปล่อยมือจากคอป้า  **บ่เอาอยากอาย**

**เอาโล้ดๆๆ *ลูกๆเชียร์

คุณลุงลองดูก่อนค่ะคือ น้ำหนักตัวของคุณลุงจะถ่ายไปที่คุณป้าตอนที่ป้าเอามือช้อนไปที่ไหล่คุณลุงแล้วยกขึ้น คุณลุงลองดูว่าหน้าท้องตึงมากน้อยแค่ไหน  กับ ท่าที่ไขเตียงขึ้นแล้วคุณลุงขยับเองลองดูนะคะ

หลังผ่าตัด2วันแรกคุณลุงสัญญาณชีพยังไม่ปกติ ก็เลยเป็นหน้าที่ของพยาบาลคนสวยเกือบทั้งหมด

พอวันที่สามคุณลุงทอดท่อลมคอ คำแรกที่ถามถึง ก็ภรรยานะสิ

ลุงบอกว่าอยากกอด (เอ้า)ป้าเข้ามาพอดี เราก็ทบทวนให้คุณลุง ลืมบอกไปว่าคุณลุงต้องกด ยาระงับความปวดก่อนนะคะ 15 นาทีผ่านไป คุณลุงบอกพร้อมท่าทางที่ทบทวนคุณลุงและคุณป้าทำได้ดีมาก  และคุณลุงกอดป้าซะแน่น

**ข่อย...คึดว่าตายแล้วแหม่ะเฒ่าเอ้ย

เอ***หายคิดถึงยังน้าอยากถามจัง

เขาว่ากันว่า... กอด คือ เสื้อกันหนาวที่มีหัวใจ... กอด คือ ความอบอุ่น เวลาอยู่คนเดียว... กอด คือ ที่ยึดเหนี่ยวยามเสียศูนย์... กอด คือ สิ่งที่บอกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก... กอด คือ ยาต่ออายุใจ...  และ กอด ก็คืออะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง

          ส่วนเหตุผลที่คนเราควรกอดกันนั้น ก็เพื่อ... แสดงความเป็นเจ้าของที่น่ารัก... แสดงการได้ให้และได้รับพร้อมๆ กัน... แลกเปลี่ยนความลับทางอารมณ์ระหว่างกัน... ช่วยสลายทิฐิบางอย่างในใจ... บางครั้งเราไม่รู้ว่าต้องการ "กอด" มากแค่ไหน จนกว่าจะได้เห็นคนอื่นกอดกัน... "กอด" ทำให้คุณรู้ว่า เมื่อมีหัวใจอีกดวงมาเต้นอยู่ที่อกข้างขวาจะรู้สึกยังไง... และก็อีกมากมายเหตุผลที่คนเราควรกอดกัน เพราะ... "กอด" สามารถบอกความรู้สึกแทนคำพูดหลายๆ อย่างได้ (อู้ย... ซึ้งเลยอ่ะดิ)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท