การเข้าถึงหลักประกันสุขภาพของเเรงงานต่างด้าว


ปี 2549-2550  ผู้ติดตามเเรงงานต่างด้าวได้รับสิทธิให้ซื้อหลักประกันสุขภาพได้ เเต่ต้องตรวจสุขภาพก่อน (600 บาท) โดยมีรายละเอียดตามคู่มือ "มาตรการและแนวทางการดำเนินงานตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว กระทรวงสาธารณสุข ปี 2549 (ใช้ได้ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2550)" ซึ่งกำหนดว่า
"กลุ่มผู้ติดตามแรงงานต่างด้าว (หมายถึงบิดา/มารดา  สามี/ภรรยา  บุตรของแรงงานต่างด้าว        ที่ได้รับอนุญาตทำงาน) การตรวจสุขภาพและ/หรือประกันสุขภาพให้เป็นไปตามความสมัครใจหากประสงค์ จะตรวจสุขภาพเพียงอย่างเดียวได้ แต่ถ้าจะเข้าสู่ระบบการประกันสุขภาพต้องได้รับการตรวจสุขภาพด้วย อัตราค่าตรวจสุขภาพคนละ 600 บาท  และค่าประกันสุขภาพ 1,300 บาท/คน/ปี โดยการประกันสุขภาพใช้ชุดสิทธิประโยชน์เดียวกับแรงงานต่างด้าว" เเละต้องเสียค่าใช้จ่ายเมื่อมารับบริการ 30 บาท ยกเว้นบริการส่งเสริมสุขภาพเเละป้องกันโรค เเละเฝ้าระวังโรค ไม่ต้องเสีย 30 บาท

สรุปเเล้วปี 2549-มิถุนายน 2550 เเรงงานต่างด้าวเเละผู้ติดตามเสียค่าใช้จ่าย 1900 บาท ยังไม่รวมค่าบริการอีก 30 บาทต่อครั้ง ถ้าครอบครัวมีผู้ติดตาม 3 คน มีเเรงงานเเค่ 1-2 คน ก็นับว่าเป็นภาระเอาการอยู่สำหรับเเรงงาน เเต่หลักประกันนี้ใช้ได้เฉพาะ 
เเรงงานเเละผู้ติดตามเเรงงานที่ขึ้นทะเบียนเท่านั้น กำลังมองว่า ถ้าเเรงงานที่มีประกันสังคมด้วย จะเป็นการจ่ายซ้ำซ้อนหรือไม่ เพราต้องจ่ายทั้งค่าหลักประกัน 1300 บาทให้กับกระทรวงสาธารณสุข ของโครงการหลักประกันสุขภาพทั่วหน้าสำหรับ    เเรงงานต่างด้าว เเละถูกหักค่าประกันสังคมรายเดือนด้วย ตามข่าวเก่าข่าวนี้ ที่ระบุลูกจ้างประมงเเละคนรับใช้ส่วนตัวในบ้านไม่ต้องทำประกันสังคม เเลคนที่ทำประกันสังคมต้องมีพาสสปอร์ต เเละ/หรือเอกสารเเสดงตัวเเทนหนังสือเดินทาง ร่วมกับ work permit หากมีไม่ครบก็ไม่สามารถขึ้นทะเบียนประกันตนได้ เเต่ถ้ามีครบเเละเปลี่ยนสถานะเป็นผู้เข้าเมืองโดยถูกกฎหมายเเละได้รับอนุญาตให้ทำงานกรรมกร ก็จะต้องเข้าสู่ระบบประกันสังคม

การบ้านคือ ค้นหาว่าลูกจ้างที่ผ่านกระบวนการพิสูจน์สัญชาติเเล้ว เเละทำงานถาวร ไม่ได้ทำเเบบเป็นฤดูกาลหรือไปกลับ เช่นคนงานโรงงาน ก็จะต้องมีหลักประกันทั้งสองเเบบเเล้วเวลาใช้สิทธิจะทำอย่างไร ปัญหาภาระค่าใช้จ่ายหลักประกันสุขภาพสองทางก็ค่อนข้างสูง เมื่อต้องจ่าย 1300 บาทในโครงการหลักประกันสุขภาพเเรงงานต่างด้าว เเล้วยังต้องถูกหักประกันสังคมอีก  

เเม้เเรงงานกลุ่มที่จ่ายสองทางยังเป็นเเรงงานส่วนน้อย เเต่ที่ไม่มีหลักประกันยังเป็นเเรงงานส่วนมาก เเต่ถ้าต้องจ่ายสองทางเมื่อมาขึ้นทะเบียน ภาระนี้จะทำให้เขาไม่อยากขึ้นทะเบียนเป็นเเรงงานถูกกฎหมาย หรือไปพิสูจน์สัญชาติหรือไม่ 

ปส.แนะขั้นตอนขึ้นทะเบียน ประกันสังคมแรงงานต่างด้าว

13 มิถุนายน 2549    กองบรรณาธิการ

นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ตามที่กระทรวงแรงงาน ดำเนินการจัดระบบและกำหนดมาตรฐานการจ้างแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามืองสัญชาติลาว และกัมพูชา

 

ด้วยการพิสูจน์สัญชาติและให้ได้รับเอกสารแสดงตัวแทนหนังสือเดินทาง ตลอดจนได้รับอนุญาตทำงานในอาชีพกรรมกรและผู้รับใช้ในบ้าน  ทำให้สถานะของแรงงานต่างด้าว   เปลี่ยนเป็นผู้เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมายและต้องเข้าสู่ระบบประกันสังคมตามพระราชบัญญัติประกันสังคม ยกเว้นลูกจ้างของกิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้และเลี้ยงสัตว์ ซึ่งไม่ใช่ลูกจ้างตลอดปีและไม่มีงานลักษณะอื่นรวมอยู่ด้วย  รวมทั้งลูกจ้างของนายจ้างที่จ้างไว้เพื่อทำงานอันเป็นลักษณะเป็นครั้งคราว เป็นการจรหรือเป็นไปตามฤดูกาล
"ในส่วนของนายจ้างมีหน้าที่ต้องดำเนินการดังนี้คือ ให้แจ้งขึ้นทะเบียนลูกจ้างคนต่างด้าวที่เป็นผู้ประกันตนพร้อมเอกสารประกอบการขึ้นทะเบียน ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ลูกจ้างเป็นผู้ประกันตนพร้อมหลักฐานประกอบการขึ้นทะเบียน คือ ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) หนังสือเดินทาง (Passport) หรือเอกสารแสดงตัวแทนหนังสือเดินทาง"

เลขาธิการกล่าวต่อไปอีกว่า  "หากลูกจ้างที่เป็นคนต่างด้าวไม่มีหลักฐานดังกล่าว หรือมีหลักฐานไม่ครบให้ถือว่าหลักฐานประกอบการขึ้นทะเบียนประกันตนไม่ครบถ้วน  และไม่สามารถขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนได้  อีกทั้งแรงงานต่างด้าวอาชีพผู้รับใช้ในบ้าน  แม้ได้ผ่านพิสูจน์สัญชาติและได้รับเอกสารแสดงตัวแทนหนังสือเดินทางตลอดจนได้รับใบอนุญาตทำงานจากกรมการจัดหางาน หากเป็นลูกจ้างซึ่งทำงานเกี่ยวกับงานบ้านอันมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย(ลูกจ้างที่ทำงานรับใช้ส่วนตัวในบ้าน)ไม่ต้องขึ้นทะเบียนประกันสังคมทั้งนี้ นายจ้างสามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดและขึ้นทะเบียนประกันสังคมได้  ณ สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขา ณ  ท้องที่ที่เป็นที่ตั้งของสถานประกอบการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506"
ศูนย์สารสนเทศ สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th สายด่วน 1506.
ข่าวไทยโพสต์: http://www.thaipost.net/index.asp?bk=xcite&post_date=13/Jun/2549&news_id=125718&cat_id=200700

 



หมายเลขบันทึก: 147879เขียนเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2007 12:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท