มหกรรมวิถีพลังไท สิ่งที่ได้จากงานคือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ "สบายใจ ไวจัง"


หลังจากที่กลุ่มองค์กรชุมชน "ออมบุญวันละหนึ่งบาทเพื่อสวัสดิการชุมชนบ้านดอนไชย" ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการทำงานที่มาจากต่างพื้นที่กัน เป็นเรื่องที่ดีมากจากการได้เข้ามาเรียนรู้ในงานนี้

แต่สิ่งที่กลุ่มได้นำเสนอระบบการทำงานที่นำเทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการบริหารงานขององค์กร จากการทำงานของกลุ่มบ้านดอนไชย และเครือข่ายออมบุญวันละหนึ่งบาทเพื่อสวัสดิการชุมชน นั้นในฐานะที่เลขาจำเป็นได้พยายามที่จะให้ทุกกลุ่มได้มีการพัฒนาไปพร้อมๆ กันจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกลุ่มหลายๆ กลุ่มที่มีความสนใจในการทำงานให้กับชุมชน โดยมาทำงานด้วยจิตอาสา ใจสาธารณะ เพื่อจะได้มีการพัฒนาคนให้มีจิตใจที่จะช่วยเหลือคนที่อยู่ในชุมชน

เลขาจำเป็นจึงได้นำเรื่องการพัฒนาที่ทางกลุ่มบ้านดอนไชยได้นำระบบโปรแกรมบริหารงานชุมชน ไปเผยแพร่เพื่อได้ให้โอกาสกลุ่มที่ต้องการใช้นั้นได้เข้ามาศึกษา โดยได้ทำคู่มือจำหน่าย ตอนแรกเราคิดว่าจะแจกให้ฟรี แต่มาคิดอีกทีของฟรีให้ไปแล้วคนได้ไปจะไม่รู้คุณค่าของมันจึงขอช่วยค่าถ่ายเอกสารให้ด้วยแต่ก็ยังไม่พอกับงบที่กลุ่มได้จ่ายไป เพราะเราไม่ขายให้ทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มองค์กรที่มาจากประเทศลาวทางกลุ่มแจกให้ฟรี เพราะเลขาจำเป็นได้ไปเที่ยวประเทศลาวมาแล้วจึงมีความรู้สึกว่าถ้าเราให้คงจะเป็นประโยชน์ให้กับกลุ่มองค์กรที่มาจากประเทศลาวบ้างเมื่อวันนั้นที่มีความพร้อมที่จะใช้ คงจะนึกถึงบ้านเราที่มีการพัฒนาในด้านนี้แล้ว

เมื่อเดินทางกลับ เป็นช่วงที่พวกเราได้พูดถึงคนในเมืองที่อาศัยรถเป็นบ้านหลังที่ 2 เพราะสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งช่วงรถติดต้องแต่งหน้าในรถที่ตัวเองขับ นึกถึงช่วงที่จะต้องเขียนคิ้วได้ข้างเดียวแล้วรถจะต้องออกเดินทางต่อจะรอแต่งหน้าเสร็จก็ไม่ได้เพราะเป็นชั่วโมงที่ทุกคนต้องทำเวลาการเดินทางไปทำงาน (ไม่มีความสุขเลย)

เริ่มตอนเช้าวันที่ 2 ของงานได้เดินทางมาถนนสายเดิมอีก ก็เจอรถติดยาวเป็นกิโล ได้สังเกตเห็นรถอีกคันเป็นผู้ชายที่มีอายุคงน้อยกว่าเลขาจำเป็นอีก ขับรถไปทานข้าวในรถด้วยแม้แต่เวลาทานอาหารก็ยังไม่มีความสุขกับการกิน (เห็นแล้วเหนื่อยแทนจัง) ชีวิตคนเมืองกรุง ดีแล้วที่เลขาจำเป็นได้บอกให้น้องที่เป็นเลขาของกลุ่มตำบลแม่วะ ว่าไม่ต้องไปทำงานที่กรุงเทพฯ เลยหางานที่บ้านเราถึงเงินที่เราได้จะน้อยกว่าการทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ค่าครองชีพต่างกัน สังคมต่างกัน อากาศต่างกันมากเลย น้องก็เชื่อเรานะ ตอนนี้ทุกคนเลยมีอุดมการณ์เดียวกันคือจะต้องช่วยกันดูแลคนในชุมชนเดียวกันให้มีความสุข กับการดำรงชีวิตประจำวัน ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและสังคม

หลังจากที่เลขาได้กลับมาและเริ่มทำงานต่อ ได้พูดกับสมาชิกว่าต่อจากนี้ไปพวกเราจะต้องนำวัตถุดิบที่ชุมชนบ้านเรามีอยู่แล้วให้นำมาผลิตให้เกิดประโยชน์ที่จะนำมาใช้ในครัวเรือนโดยไม่ต้องซื้อจากร้านก็ได้

มีครั้งหนึ่งเลขาจำเป็นได้จัดการให้ความรู้ในการทำน้ำยาล้างจานใช้เอง และการทำแชมพูจากมะกรูดตามสูตรโบราณ และขนมที่สามารถจะทำมาขายได้ การให้ความรู้ครั้งนั้นได้มาจาก หน่วยงานสำนับสนุนจาก ธกส. และพี่ๆ ที่มาจากสันติอโศก ได้มาให้ความรู้และให้สมาชิกที่มาออมบุญวันละหนึ่งบาท ช่วงเวลาที่รอได้ให้ความรู้กับสมาชิกใน โครงการทำกินทำใช้ สิ่งที่ทางกลุ่มได้จัดให้มีความรู้ครั้งนั้นสามารถเปลี่ยนผู้ที่มีค่าใช้จ่ายในการใช้น้ำยาล้างจาน และผงซักผ้าได้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ครั้งกับไปใช้ในบ้านตัวเองหลายครอบครัวแล้ว

ตอนนี้เลขาได้คิดที่จะให้ทุกครัวเรือนที่สนใจจะทำใช้เองให้มากขึ้นจึงได้ให้พี่ที่เป็นสมาชิกเป็นแกนนำในเรื่องนี้ต่อ จากทำใช้เองที่บ้านก็เพียงพอแล้วสำหรับบ้านเราที่อยู่นอกเมืองเพราะวัสดุหาง่ายจากท้องถิ่นเอง

นกน้อยทำรังแต่พอตัว

หมายเลขบันทึก: 146815เขียนเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2007 10:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท