แง่งามแห่งคำพูด : นิราศภูเขาทอง อ้างอิง - ภาพ http://burabhawayu.multiply.com/photos เมื่อเอื้อนเอ่ยความงดงามแห่งคำพูด คำกล่าวถึงบทถึงบาท แห่งงานประพันธ์ในนิราศภูเขาทอง ล้วนยิ่งใหญ่สวยงามจับใจ ไม่ว่าจะเป็นแต่ละแง่งามของความหมาย ซึ่งกวีใหญ่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ถ่ายทอดไว้ ผ่านการมองเห็น และเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตผู้คน คำอธิบายถึงความจริงของโลก ว่าจะดำเนินไปเช่นไร ความหมายของคำสอน ถึงหนทางอันพึงก้าวไปของมนุษย์ คือหนึ่งมนต์เสน่ห์สำคัญ ซึ่งน้อมนำให้เราก้าวตาม เรียนรู้และถอดปริศนาของชีวิต ซึ่งเก็บซ่อนไว้ในวรรณกรรม กลอนแปด จำนวน 89 คำกลอน ที่สอนเราได้เข้าใจชั่วขณะได้เกือบทั้งชีวิต หากเราคิดไตร่ตรอง เดินตาม และก้าวย่างไปในแต่ละบท แต่ละบาทของคำ ในข้อเขียนคำนำ ของรังสฤษฎิ์ เชาวน์ศิริ อธิบดีกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2518 ภายในหนังสือชื่อ ชีวิตและงานของสุนทรภู่ ฉบับรวมพิมพ์ครั้งที่ 10 กรมศิลปากรตรวจสอบชำระใหม่ สำนักพิมพ์เสริมวิทย์บรรณาคาร พิมพ์จำหน่าย ระบุว่า เมื่อปีพุทธศักราช 2485 ธนิต อยู่โพธิ์ อธิบดีกรมศิลปากรในขณะนั้น ได้จัดทำเชิงอรรถและบันทึกเพิ่มเติมตามหลักฐานที่ปรากฎ ระบุว่า นิราศภูเขาทอง แต่งราวพุทธศักราช 2371 ในรัชกาลที่ 3 เมื่อครั้งสุนทรภู่ได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุจำพรรษาอยู่ ณ วัดราชบูรณะ หรือ วัดเลียบ และได้เดินทางไปยังกรุงเก่าโดยทางเรือ นายธนิต อยู่โพธิ์ สันนิษฐานว่าสุนทรภู่ คงจะแต่งนิราศเรื่องนี้ เมื่อท่านมีอายุได้ 42 ปี และอุปสมบทมาได้ราว 4 หรือ 5 พรรษา นิราศภูเขาทองนี้ นอกจากจะมีคำกลอนไพเราะแล้ว ยังช่วยให้ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับชีวประวัติสุนทรภู่อย่างมาก เรื่องนี้ พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พุทธศักราช 2465 รวมอยู่ในการพิมพ์หนังสือร่วมเล่ม ประชุมกลอนนิราศสุนทรภู่ ครั้งนี้ในปีพุทธศักราช 2485 นับเป็นการพิมพ์ครั้งที่ 16 ผลงานประชุมกลอนนิราศของ สุนทรภู่ ในพระราชอาณาจักรสยาม ซึ่งมีพระนิพนธ์ของ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นต้นเรื่องทรงนิพนธ์ขึ้น เพื่อให้พิมพ์รวมกับเสภาเรื่องพระราชพงศาวดาร ซึ่งเป็นบทนิพนธ์ของสุนทรภู่ แจกเป็นอนุสรณ์ในงานฉลองพระชันษาครบ 60 ปี เมื่อปีจอ พุทธศักราช 2465 เป็นครั้งแรก กระทั่งบัดนี้ ความงดงามแห่งคำ ยังคงปรากฎให้เราได้เรียนรู้
อ้างอิง นิราศภูเขาทองจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีนิราศภูเขาทองเป็นวรรณคดีประเภทนิราศ ได้รับการยกย่องว่าเป็นนิราศเรื่องที่ดีที่สุดของสุนทรภู่ (พ.ศ. 2329 - 2398) ท่านแต่งนิราศเรื่องนี้จากการเดินทางไปนมัสการเจดีย์ภูเขาทอง ที่กรุงเก่า (จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน) เมื่อเดือนสิบเอ็ด ปีชวด (พ.ศ. 2371) ขณะบวชเป็นพระภิกษุ
[แก้] ลักษณะคำประพันธ์นิราศภูเขาทองแต่งด้วยกลอนแปด มีความยาวเพียง 89 คำกลอนเท่านั้น แต่มีความไพเราะ และเรียบง่าย ความแบบฉบับของสุนทรภู่ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย บรรยายความรู้สึกขณะเดียวกันก็เล่าถึงสภาพของเส้นทางที่กำลังเดินทางไปด้วย ท่านมักจะเปรียบเทียบชีวิตและโชคชะตาของตนกับธรรมชาติรอบข้างที่ตนได้เดินทางผ่านไป มีหลายบทที่เป็นที่รู้จักและท่องจำกันได้ [แก้] การเดินทางในนิราศสุนทรภู่ล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาไปกับลูกชายชื่อหนูพัด ผ่านวัดประโคน บางยี่ขัน ถึงบางพลัด ผ่านตลาดแก้วตลาดขวัญในเขตจังหวัดนนทบุรี จากนั้นก็ผ่านเกาะเกร็ด ซึ่งเป็นย่านชาวมอญ เข้าสู่จังหวัดปทุมธานี หรือเมืองสามโคก แล้วเข้าเขตอยุธยา จอดเรือที่ท่าวัดพระเมรุ ค้างคืนในเรือ มีโจรแอบจะมาขโมยของในเรือ แต่ไหวตัวทัน รุ่งเช้าเป็นวันพระ ลงจากเรือเดินทางไปที่เจดีย์ภูเขาทอง ซึ่งเป็นเจดีย์ร้าง เก็บพระบรมธาตุมาไว้ในขวดแก้วตั้งใจจะนำไปนมัสการที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อตื่นมาก็ไม่พบพระธาตุ จึงได้เดินทางกลับ [แก้] คุณค่าทางด้านวรรณศิลป์คุณค่าทางวรรณศิลป์ในกลอนนิราศภูเขาทอง มีการเลือกใช้คำดีเด่นต่างๆ ดังนี้
[แก้] บางตอนจากนิราศภูเขาทอง
|
uihสุนทรภู่เก่ง
อ่านงานสุนทรภู่..แล้วคิดถึง หลี่ไป๋..ไปพร้อมๆ กัน
ขอบคุณครับ