ใครยังไม่รู้จัก The wet ก็อ่านไว้นะครับ เผื่อ ฝรั่งถามทางจะได้ตอบถูก
wwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwwww
เรื่องมีอยู่ว่า ระหว่างที่ผมกำลังเดินไปมหา'ลัย ก็มีแหม่มฝรั่งอยู่คนหนึ่ง เป็นนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็ค เดินเข้ามาถามผมว่า
"Execute me. How can I go to the wet?"
"Hmm? What wet?"
"No. I mean the place.
สถานที่...แล้วสถานที่ไหนเปียกวะ?
"Pub?" ชื่อผับหรือเปล่าหว่า
"No."
"You mean... WEST?"
"No, I said THE WET not THE WEST!"
"So what would you do on the wet?" จากนั้นแหม่มจึงหยิบแผนที่มาให้ดู
"I'll like to go this place. It's said there's near the wet." เธอชี้ไปที่ๆแห่งหนึ่ง ซึ่งผมอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะแผนที่มันบอกเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งบอกชื่อสถานที่เป็นภาษาคาราโอเกะ แถมลายมือก็สุดยอดด้วยมันอ่านยากโคตรๆ ขมวดตีลังกาได้ตั้งหลายตลบ
"Do you know how could I go this place?"
"..."
เดินถนนสายนี้มา5-6ปี ยังไม่เคยรู้จักเลยว่าเดอะว้งเดอะเว้ดอยู่ที่ไหน สงสัยแหม่มจะมาผิดที่ซะแล้วล่ะมั้ง น่าสงสาร สวยซะเปล่า แต่ดันเมาควันพิษในเมืองไทยซะงั้น
ทันใดนั้น จู่ๆสายตาผมก็เหลือบไปมองป้ายจากข้างหลังแหม่ม ซึ่งอยู่อีกฟากของถนน
"จะบ้าตาย..."
สรุป ผมโง่หรือว่าฝรั่งโง่กันแน่เนี่ย
EEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEEE
ที่มา Forwarded Mail
เข้าท่าดีครับ พลอยให้ผมได้รู้จัก the wet นั้นไปด้วย คราวหน้าเวลเข้ากรุงจะได้ไม่งง
ผมอ่านแล้วจึงนึกถึง จังหวัดหนองคาย
จังหวัดหนองคายเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีวัดเป็นจำนวนมาก ยิ่งในตัวเมืองยิ่งเยอะ (เป็นเมืองที่น่าอยู่ด้วยนะครับ)
ช่วงเทศกาลวันสำคัญทางศานา มีชาวต่างชาติถามสามล้อ
คล้ายๆกันกับที่ท่านเล่ามา คือ How can i go to Vientiane ?
คนถูกถามจับหางเสียงตอนท้ายได้ว่า เป็นอะไร
ทำนอง ว่าเวียนเทียน เวียนเทียน นี่แหละ
พอดีเป็น มาฆะบูชาด้วย คิดว่าคงต้องการจะหาวัดสักแห่งเพื่อไปเที่ยวชมวัฒนธรรมไทย
จึงตอบไปว่า sure "" twenty baht.
ชาวต่างชาติ งงเล็กน้อย แล้วตอบ OK
สามล้อพาเลาะไปตามวัดต่างๆ ถึงวัดไหนก็บอกไม่ใช่สักที
เดือดร้อนต้องพาไปหาตำรวจ
เอาแผนที่ออกมากาง จึงได้รู้ว่า
เขาต้องการไปเวียงจันทน์ ไม่ได้ต้องการจะไปเวียนเทียนที่วัดไหนทั้งนั้น.......โธ่เอ๋ยเวรกรรม
: ที่มา เป็นเรื่องจริงที่เคยออกรายการ TV ช่องหนึ่งผมจำไม่ได้แล้วเพราะนานพอสมควร ครับ
ครับคุณหุย
เป็นงั้นไปนะครับ ที่จริงการเขียนภาษาอังกฤษเทียบเสียงภาษาไทยนี่น่าจะมีมาตรฐานการผสมอักษรของภาษาอังกฤษไปเลย
อย่างเวลาเขียนอังกฤษในข้อความภาษา บาลี หรือ ภาษาทางอินเดีย หรือจีน ญี่ปุ่น ยังดูเป็นลักษณะที่แตกต่าง ออกไปได้
แต่เวลาเป็นภาษาไทยดันกลายเป็นมีความหมายในคำอังกฤษไปซะอีก เช่นเทเวศน์นี่ก็กลายเป็นอะไรที่เปียก ๆ ไปได้งั้น
ที่จริงน่าจะเป็น sie saow threwhet จะได้ไหม
หรือบางคำไทยความหมายดี ๆ พอเขียนเป็นอังกฤษกลายเป็นตลกไปได้เช่น ฝ้ายคำ เขียน fai kam อ่านได้เป็น ใฝ่กาม ( หรือคนอ่านมันคิดไปอย่างเดียวไม่รู้ )
ที่จริงน่าจะเขียนเป็น frai kham ได้นะครับ
เรื่องนี้ต้องคิดครับ ซีเรียส ประเทศไทยเราต้องสื่อความหมายให้ได้ ไม่งั้นทั่วโลกก็งงกันแหลก
ราชบัณฑิตครับ ใช้หัวหน่อย
ตามที่คุณสุมิตรชัย แสดงความคิดเห็นมานั้น ทางการต้องมีส่วนกลางที่จัดทำป้าย เป็นภาษาทับศัพท์ไทย ให้อ่านแล้วใช่ (สำหรับคนไทย) แต่คงไม่ได้ทั้งหมด เพราะ ภาษาไทยทำเป็น อังกฤษ ออกเสียงไม่เหมือนหรอกค่ะ
ไม่เหมือนภาษาญี่ปุ่นเพราะภาษาญี่ปุ่นมีแค่ 5 เสียง โกะๆ โตะๆ ( อะ อิ อุ เอะ โอะ) และควบกล้ำ นิดหน่อย ภาษาไทยมีเสียงสูง ต่ำ ของเรามี อะ อา อิ อี อุ อู เอะ เอ โอะ โอ และการเรียนภาษาญี่ปุ่น เขามี โรมันจิ (Romanji) คือ เขียนเป็นภาษา อังกฤษ ออกเสียงเป็นญี่ปุ่น ดังนั้น เวลาคนไทยเรียนภาษาญี่ปุ่น จะไม่มีปัญหาเลย แถมคนญี่ปุ่นยังชมว่าคนไทยสามารถออกเสียงได้เหมือนอีกต่างหาก แต่ถ้าญี่ปุ่นพูดไทยนี่สิคะ ยาก คุยเรื่องภาษาจะยาวค่ะ
อย่างที่บอกข้างต้น พอคำไทย มาขึ้นป้ายเป็นภาษาอังกฤษ ก็ได้ความเข้าใจแบบผิดๆ มาค่ะ ยิ่งคำมีควบกล้ำ ยิ่งลำบากไปอีก ถ้าให้แน่ต้องร้องคาราโอเกะเยอะๆ ค่ะ จริงๆ ควรจะ มีตัวขีดกลางเพื่อจะได้ออกเป็นคำ ได้ เช่น
บ้านกรูด ควรจะเป็น Ban-Krut ไม่ใช่ Bankrut ฝรั่งอ่านเป็น Bank-rut ไปเสียนี่ บางที่ก็ใช้ Bank-kruit บ้านครุย เป็นต้น