เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว (ปี ๒๕๔๙) จังหวัดน่านได้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ ๔๓ ปี แม้ครั้งนั้นเมืองน่านจะได้รับผลกระทบและความเสียหายเป็นวงกว้างมาก แต่สิ่งที่เราได้รับก็ยิ่งใหญ่ไม่น้อยกว่าน้ำที่ท่วม นั่นคือ “น้ำใจ” ของพลเมืองจิตอาสาที่เข้ามาร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือกันและกัน เป็นพลังที่มีค่ามหาศาล เป็นจิตอาสาที่มาโดยอัตโนมัติเข้ามาช่วยเหลือกันโดยที่ไม่รู้จักค่าตากันมาก่อน ทั้งพื้นราบ พื้นที่สูงชนเผ่า ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด เป็นปรากฎการณ์ที่สร้างความประทับใจและช่วยผ่อนคลายความโศกเศร้าสูญเสียของผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนั้น
เครือข่ายครอบครัวเข้มแข็งเองก็เช่นกันได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพลเมืองจิตอาสาในครั้งนั้น หลังสถานการณ์คลี่คลายลงโครงการครอบครัวเข้มแข็งก็ได้จัดถอดองค์รู้ของพลเมืองจิตอาสาในการจัดการกับน้ำท่วม และชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมก็จัดกิจกรรมการฟื้นฟูจิตใจของคนในชุมชน และเราก็ได้ตั้งปณิธานร่วมกันว่าจะเสริมสร้างพลเมืองจิตอาสาให้เกิดขึ้นอย่างหลายและต่อเนื่อง ทั้งในยามปกติด้วย
จากวันนั้นถึงวันนี้ร่วมปีเศษ โครงการครอบครัวเข้มแข็งจังหวัดน่านจึงได้จัดเวทีถอดบทเรียนพลเมืองจิตอาสาในงานครอบครัวเข้มแข็งขึ้น ในวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๐ ณ วัดอรัญญวาส อำเภอเมืองน่าน กระบวนการเรียนรู้เน้นกระบวนการเล่าสู่กันฟังถึงเรื่องเราของการอาสาทำเพื่อครอบครัวและคนในชุมชน มีเรื่องราวดีดีมากมายที่เกิดขึ้นในเวทีนี้ มีทั้งเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และน้ำตาคลอเบ้า แห่งความปิติและสงสารของคนร่วมเวที
เรื่องราวดีดีที่น่าสนใจเช่น ทีมอาสาสมัครเฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคมของชุมชนน้ำล้อม, เรื่องจิตอาสาสร้างบ้านแปงเมืองของชุมชนดอนสวรรค์, เรื่องของวิกฤติครอบครัวน้องแนนบ้านวังฆ้องที่ชุมชนหยิบยื่นมือเข้ามาโอบกอดช่วยเหลือ จากงานศพของพ่อที่เป็นครูคนแรกของกระบวนการงานศพปลอดเหล้าขยายผลทั้งตำบลและการปลอดอบายมุขด้วย, เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงลดปัญหาครอบครัว, เรื่องของอาสาสมัครบ้านดอนศรีเสริมที่เริ่มเห็นปัญหาจากครอบครัวตนเองแล้วออกมาทำงานเป็นอาสาสมัครของชุมชน, เรื่องธนาคารขยะของชุมชนบ้านดอนมูลพัฒนาที่ส่งเสริมเด็กเปลี่ยนขยะให้เป็นเงิน สร้างการรู้คุณค่าของเงินและการรณรงค์การจัดการขยะในชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ฯลฯ เรื่องดีดีอีกมากมอาจเอ่ยได้หมด
ความเป็นจิตอาสาไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดเหตุเภทภัยหรือวิกฤต หากแต่สามารถสร้างและกระทำได้ในยามปกติของชีวิต วันนี้ความมีจิตอาสาได้ค่อยขยายๆ และเพิ่มพูนขึ้น น่าภูมิใจกับชุมชนเหล่านี้ไม่น้อยไม่มีความเห็น