ลักษณะของพืช » |
กระชายเป็นพืชล้มลุก สูงประมาณ 2 ศอกเศษ มีลำต้นใต้ดิน เรียกว่าเหง้า รูปทรงกระบอกเนื้อสีเหลือง มีกลิ่นหอมเฉพาะ เนื้อละเอียด กาบใบสีแดงเรื่อ ใบใหญ่ยาวเรียว ดอกเป็นช่อ |
ส่วนที่ใช้เป็นยา » เหง้าใต้ดิน |
การปลูก » |
ใช้เหง้า หรือหัวกระชายปลูกได้ดีกระชายชอบดินร่วนปนทราย ไม่ชอบดิบแฉะ เวลาปลูกควรเหลือรากเพียง 2 ราก ปลูกลงหลุมที่มีปุ๋ยเตรียมไว้แล้วคลุมด้วยฟางข้าวเอาไว้ด้วย รดน้ำให้ชุ่มพอควร |
รสและสรรพคุณยาไทย » รสเผ็ดเล็กน้อย ขมนิดหน่อย ใช้แก้ปวดมนในท้องไส้ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อใช้บำรุงร่างกาย |
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ » |
ในเหง้ากระชายมีสารสำคัญคือ น้ำมันหอมระเหย ในการทดลองพบว่า สารจากเหง้ากระชายมีประสิทธิภาพยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียที่ได้ผลคือ Bacillus subtilis แบคทีเรียในลำไส้และแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดหนองน้ำมันหอมระเหยช่วยขับลมในกระเพาะและลำไส้ ช่วยให้เจริญอาหารอีกด้วย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์วิจัยว่าไม่มีพิษเฉียบพลัน |
วิธีใช้ » |
เหง้ากระชายรักษาอาการท้องอืด ท้องฟ้อ แน่น จุกเสียด โดยการนำเอาเหง้าและรากของกระชายมาต้มน้ำประมาณครึ่งฝ่ามือดื่ม เมื่อมีอาการหรือปรุงกับอาหารรับประทานได้เลย |
คุณค่าทางอาหาร » |
กระชายมีรสเผ็ดพบสมควร จึงช่วยดับกลิ่นคาวได้ นำไปปรุงกับอาหารได้หลายอย่าง โดยเฉพาะอาหารไทยเราเช่น แกงเลียง แกงขี้เหล็ก ผัดเผ็ดปลาดุก ฯลฯ ในรากเหง้าของกระชายมี แคลเซียม เหล็กมาก นอกจากนั้นยังมีเกลือแร่ต่างๆและวิตามิน เอ วิตามิน ซี อีกด้วย |
ไม่มีความเห็น