สิงคโปร์ 2

ความเพียงพอของผู้นำ

ในช่วงที่ไปสิงคโปร์ไทยกำลังมีพายุยืดเยื้อหลายวันมาแล้วพิษณุโลกน้ำท่วมเกือบครบเก้าอำเภอ ที่หนักมากคืออำเภอวังทองโรงเรียนใกล้จะปิดเต็มที่ เลยต้องปิดเทอมก่อนเนื่องจากน้ำท่วมทาง ครูไปโรงเรียนไม่ได้ นักเรียนก็เดินทางลำบากเหมือนกัน สิงคโปร์ตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้นฝนฟ้าตกตามใจฝน  ( หลานสาวเคยทายว่าคุณยายรู้ไหมว่าฝนทำไมจึงตก ตอบหลายตอบหลานก็บอกว่าไม่ใช่ คำเฉลยคือฝนตกเพราะไม่ตั้งใจเรียน มีงี้ด้วยนะ  ) รถนำเที่ยวทุกคันจึงติดร่มนับสิบคันทีเดียว ในช่วงที่อยู่ที่นั่นกำหนดการจึงต้องเปลี่ยนตามฝนตลอดเวลา วันที่ 2 เริ่มอาหารเช้าที่ขึ้นชื่อของเขาคือขัาวมันไก่และมีอาหารอื่นตามสูตรคือกุ้ง ปลา ผัดผัก รสชาติส่วนใหญ่อร่อยกว่าอาหารจีนแท้ๆที่ปักกิ่ง เมื่อครั้งที่ไปวันที่ 3 พวกเราจะอร่อยที่น้ำปลาพริก และยำปลากระป๋องที่ไกด์ไทยติดไปอย่างรู้ใจและสถานการณ์ ข้าวมันหุงได้อร่อยไม่เลี่ยนแต่น้ำจิ้มตามแบบฉบับเขาไม่ถูกใจเราเท่าน้ำจิ้มที่มีขิง พริกขี้หนู บีบมะนาวผสมเต้าเจี้ยวและมีกระเทียมแนมด้วย เมื่ออิ่มข้าวแล้วไม่มีกาแฟบริการก็คิดว่ารายการต่อไปจะไปดูงานที่มหาวิทยาลัยนันยางเทคโนโลยีซึ่งเป็นมหาวิทยาลัย 1 ใน 3 ที่มีชื่อเสียง แต่คิดผิดเพราะเขาไม่ได้ต้อนรับแบบไทยที่เราคุ้นเคย ไม่มีบริการเครื่องดื่มและอาหารว่างนอกจากนั้นยังค่อนข้างผิดหวังเพราะเขาไม่พาชม IT หรือเทคโนโลยีอะไรเลยแต่พาไปดูอย่างอื่นที่เราไม่อยากจะดู ต่อจากนั้นไกด์ก็พาเที่ยววนเวียนดูถนนหนทางที่ไม่มีสายไฟ สายโทรศัพท์ สายไฟแรงสูง แบบบ้านเราประกอบกับต้นไม้หลายหลากมีอัตราส่วน ประชาชนต่อต้นไม้ 1 ต่อ 4 ไม่มีพื้นที่ตารางนิ้วไหนที่ไม่มีต้นไม้ ต้นไม้ใหญ่ส่วนมากจะเป็นต้นจามจุรีเพราะเขาต้องการร่มเงา ในส่วนที่เป็นคาคบก็ผูกกล้วยไม้ ตีนตุ๊กแกและ ต้นไม้พวกกาฝากสวยทุกจุดทีเดียว ดูอาคารบ้านเขาก็สวยดีนะคะประชาชนเขาอยู่ห้งชุดที่รัฐจัดให้ ไม่มีสลัม 3 ปีทาสีอาคาร สะพาน สะพานลอย ครั้งหนึ่งเราจึงไม่เห็นความทรุดโทรม ถ้าอาคารไหนเก่าควรซ่อมรัฐก็จะจัดซ่อมให้เช่นเดียวกัน เราฟังไกด์เชื้อชาติไทย สัญชาติสิงคโปร์ เล่าเราก็นึกเปรียบเทียบไทยอยู่ตลอดเวลามีทั้งชอบ ไม่ชอบ   ........มีเวลาอีกทีจะเล่าเรื่องนั่งกระเช้าข้ามไปเกาะเซ็นโตซ่า และคาสิโนที่เขากำลังสร้างถึง 2แห่งรวมถึงพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งด้วย......วันนี้ขอใช้สิทธิ์ลาพักผ่อนพาหลานไประยอง จันทบุรีและพัทยาตามที่ได้สัญญากันไว้ก่อนนะคะ........