จากที่ชมภาพความสุขไม่มีวันละลาย ในห้อง KM หลักสูตรท้องถิ่นกันแล้ว ก็มีความสุขและอมยิ้มอยู่ได้ไม่กี่วันหรอก ก็ต้องคิ้วขมวดชนกันอีก เมื่อได้รับโทรศัพท์ว่า " ไปเปิดทีวีเร็ว ห้องของเราออกทีวีช่อง 11"
ฟังอย่างนี้ก็น่าดีใจไหมล่ะคะ วิ่งกันสุดตัวทั้งลูกศิษย์ ทั้งอาจารย์วิ่งแบบพลิ้วๆๆ ลืมสังขารกันเลย ไปแย่งเค้าดูทีวีกันที่ห้องเลขานุการ 1 คณะศึกษาฯ ได้เห็นอาจารย์อัญชลี อาจารย์จิรวรรณ และอาจารย์อีกหลายท่าน ที่มาเป็นกูรูในห้อง KM หลักสูตรท้องถิ่น งานมหกรรม แถมมีห้อง KM พระ และห้องอื่นๆ ในวันที่ 28 อีก ดีใจจังรีบโทรไปบอกอาจารย์ทุกท่านที่ได้ออกทีวีเลยแหละ
เป็นที่น่ายินดีที่หน่วยงานทางการศึกษาเห็นความสำคัญของการใช้ KM เพื่อสร้างคุณภาพทางการศึกษา
ต้องขอขอบคุณ ท่านอาจารย์ประพนธ์ ที่่ให้เครดิตมหาวิทยาลัยนเรศวรในการจัดงานมหกรรมครั้งนี้ ค่ะ
เห็นว่า สพฐ.ก็ขอรับเครดิตไว้ด้วย แถมพูดถึง km หลักสูตรท้องถิ่นด้วย ทำเอาซะ งง ๆๆ เลย
เลยต้องเขียน บันทึก ประกาศให้ครูในเครือข่ายหลักสูตรท้องถิ่นของเราเข้าไปดูหน่อย ที่ ช่วยเข้าไปดูหน่อย งงงง !!!
เฮ้ย ทำกันได้ลง นี่ไม่ได้เป็นบันทึกเรียกร้องอะไรนะ
ใครยังไม่ได้ดูเข้าไปดูซะ www.thaithinklink.com
ที่จริงแล้วคิดและอดทนอยู่นานมากๆๆๆ ว่าจะเขียนดีไหม แต่.... อยากชี้ให้เห็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้การศึกษาไทยเป็นแบบนี้
ขอเชิญเข้าไปดูหน่อยนะคะ คิดเห็นอย่างไรช่วยบอกด้วยนะคะ โดยเฉพาะชาวมน.
ขอตอบว่า
เราไม่เคยข้องเกี่ยวใดๆ เลย อาจารย์ส่วนใหญ่มาจากการติดต่อของเราเอง จากที่เคยเป็นลูกศิษย์บ้าง เป็นเพื่อนบ้าง และเป็นพันธมิตรทางศึกษาเดิมอยู่แล้ว และหากเราจะพัฒนาวิชาชีพครู เราก็ทำในลักษณะวิจัย โดยมีกลุ่มเป้าหมายเดิมคือ ครูประจำการที่เรียนปริญญาโท-เอกของเราอยู่แล้ว
ขอบคุณอาจารย์หญ้าบัวที่ให้กำลังใจค่ะ
ขอบคุณสำหรับธรรมมะที่เป็นข้อคิด "ใครทำใครรู้" สุดยอดค่ะ คิดอย่างนี้เหมือนกัน แต่ว่าไม่อยากให้เป็นการบ่มเพาะพฤติกรรมแบบนี้ต่อไป