รถเมล์เป็นพาหนะหลักของการเดินทางของคนกรุงเทพ ฉันเป็นคนหนึ่งที่อาศัยในเมืองกรุงนี้และใช้บริการรถสาธารณะ
ฉันมักนั่งมองสองข้างทางและฟังเสียงความเป็นไปของการเดินทางเสมอ ต่างกับคนกว่าครึ่งหนึ่งบนรถโดยสารประจำทางที่มีกิจกรรมที่ไม่ต่างกันคือ มีสายเล็กๆ เชื่อมต่อกับอะไรสักอย่างไปสู่หูทั้งสองข้าง ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเค้าเลือกฟังคืออะไร แต่ฉันกลายเป็นคนส่วนน้อยที่เลือกฟังเสียงอากาศ เครื่องยนต์ และคนรอบตัวมากกว่า
ระหว่างนั่งชื่นชมสองข้างทางในเมืองหลวงฉันพบสิ่งหนึ่งจนเจนตา คือ เสาต้นใหญ่ ที่รองรับทางต่างระดับ ซึ่งมีมากมายในเขตเมืองเพื่อลดการจราจรที่ติดขัด พื้นที่ใต้ทางต่างระดับมีความพยายามในการจัดการการใช้ประโยชน์โดยการปลูกต้นไม้ รวมไปถึงการจัดทำป้ายโฆษณาที่สวยงามและสะดุดตาของผู้คน พื้นที่ที่จัดการได้อย่างสวยงามก็เป็นโชคดีของผู้สัญจรไปมาที่ได้รับทัศนียภาพที่ดี แต่ในทางตรงกันข้ามสิ่งที่ฉันได้เห็นในบางพื้นที่กลับแตกต่าง...
ป้ายโฆษณาขนาด A3 ที่มีข้อความสั้นๆ อาทิ “เงินด่วน 10 นาที” “กู้ได้แม้วงเงินเต็ม” “ดอกถูก” พร้อมกับโลโก้บัตรเครดิต และปิดท้ายด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ 10 หลักตัวใหญ่ขนาด 1 ใน 3 ของกระดาษ ฉันเห็นป้ายทำนองนี้จำนวนมาก และถูกปิดไว้ในระยะติดกัน ทั้งที่เป็นเบอร์โทรศัพท์เบอร์เดียวกันและต่างเบอร์
หรือนี่เป็นการสะท้อนถึงภาวะความต้องการเงินกู้นอกระบบที่มากขึ้นและสามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวของคนได้แม้ตามข้างทาง
ประเด็นที่นำมาพูดคุยกันในวันนี้ คือ การจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
มีการพยายามดึงออกแต่ยิ่งทำให้พื้นที่สีปูนรกตาด้วยรอยด่างสีขาวของกระดาษที่แกะออกได้ไม่หมด บางร่องรอยมีการนำปูนหรือสีอะไรสักอย่างที่ฉันไม่แน่ใจไปปิดทับ แต่ก็ยังเห็นร่องรอยของกระดาษสีขาว บางอันยังเห็นร่องรอยจางๆ ของข้อความที่พยายามทาปิดทับ ยิ่งจัดการเหมือนยิ่งทำให้รกกว่าเดิม มีรอยสีปูนเข้มๆ ขนาดเท่ากับป้ายโฆษณาดังกล่าวเต็มไปหมด ด้วยความพยายามในการปิดทับข้อความ ซึ่งเพียงไม่นานป้ายโฆษณาที่ถูกปิดไป กลับถูกปิดซ้ำด้วยป้ายโฆษณาใหม่ข้อความเดิมอีกครั้ง
ผลัดกันปิด...หนึ่งปิดเพื่อเผยแพร่ อีกหนึ่งปิดเพื่อหยุดมัน
ทั้งสองปิด..ไม่ได้ทำให้อะไรสวยงามขึ้นมาเลย...
เรื่องดังกล่าวทำให้ฉันนึกถึงบทความสั้นๆ ในหนังสือ an idea a day to change the world ที่ได้รับกำนัลจากอ้ายเอก พี่ชายใจดี
ตอนหนึ่งที่มีการกล่าวถึงวิธีการจัดการป้ายโปสเตอร์คอนเสิร์ตของประเทศอังกฤษที่มีเกลื่อนเมือง ด้วยหลักการ “เอาชนะไม่ได้ก็จงเป็นพวกเดียวกับมัน” โดยการพิมพ์สติกเกอร์แถบสีส้ม และตรงกลางพิมพ์ตัวหนังสือ CANCELLED ขนาดใหญ่ไปปิดทับลงโปสเตอร์ต่างๆ ผลปรากฏว่าโปสเตอร์เหล่านั้นได้หายไปอย่างรวดเร็ว
ฉันไม่รู้ว่าวิธีนี้จะเอามาใช้กับป้ายโฆษณาเงินด่วน เงินถูกของบ้านเราได้บ้างหรือไม่...
น่าเสียดายเงินงบประมาณที่ต้องนำมาจัดการกับฝีมือ ปิด ป้าย ของคนมักง่ายทั้งหลาย...
อยากเห็นความสวยงามระหว่างรถติดแทนสัญลักษณ์ของภาวะเศรษฐกิจที่ . . .
เห็นด้วยค่ะ ที่การโฆษณาในประเด็นนี้มีกันอย่างแพร่หลาย แต่ทว่าก็สะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมและเศรษฐกิจของเรา ที่ยังต้องพึ่งเงินกู้นอกระบบอย่างมาก ในเมื่อมีความต้องการมาก ก็มีอุปทานมาสนองตอบมากด้วยเช่นกัน ซึ่งไม่ต่างจากสินค้าและบริการทั่วๆ ไป จะไปมองว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบก็ไม่ได้ เพราะผู้ซื้อและผู้ขายต่างยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ปัญหานี้เป็นผลกระทบมาจากหลายๆสิ่งในระบบเศรษฐกิจ......
เพื่อนเออ...
เศรษฐกิจไทยกับการเมืองไทยชักอาการหนักพอกันแล้ว...น่าเศร้าใจ
อ.ขจิต
ประติมากรรมชิ้นเอกเลยคะอาจารย์...สุดยอด อลังการงานสร้าง สร้างได้ ทำลายไม่ได้ ใช้ต่อก็ไม่ได้
หายไปนานเล็กน้อยคะ...สมองไม่ค่อยแล่น
ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจคะ
---^.^---
อ่านแล้วมันโดนดีครับ
สำนวนโวหารได้ล้ำลึก ขอบคุณที่เข้ามาเมนท์ให้นะครับ
สวัสดีคะ คุณมรกตสินธุ์
ขอบคุณที่แวะมาทักทายเช่นกันคะ
ดีใจที่เขียนแล้ว...โดน...นะคะ
สวัสดีสำหรับวันอากาศร้อนๆ คะ
---^.^---