หลายวันที่ผ่านมา ผมไม่มีเวลาได้นั่งเขียนสิ่งละอันพันละน้อยให้ท่านทั้งหลายได้อ่านกัน ด้วยมีข้อจำกัดของงาน ก่อนเดินทางไปสิงคโปร์ผมแทบจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ด้วยว่าต้องทำงานส่งทั้งงานเดี่ยว งานกลุ่ม และสอบปลายภาคอีก วุ่นวายหัวใจจริงๆ 24 ชั่วโมง ผมนอนจริงๆประมาณ 2.30 ชั่วโมง 7 ตุลาคม วันเดินทางนัดหมาย 105 ชีวิต อยู่ที่ 04.00 น. ผมก็ถึงเป็นคนสุดท้ายที่เวลา 04.15 น. หน้ามึนไปเลย โดนบ่นจากเพื่อนๆ พอสมควร ทำไงได้ ยอมรับสภาพโดยไม่มีเงื่อนไข... กลับจากสิงคโปร์ คืนวันที่ 9 ตุลาคม เวลา 24.00 น. หลับสบายยันรุ่ง ช่วงเวลา 10-12 ตุลาคม ผมทำงานที่โรงเรียน พบความน่ารักของคุณครู ร.ร.บ้านกร่างวิทยาคม และต้องขอบคุณมากๆ กับความเสียสละเวลา สอนเสริมให้กับนักเรียนชั้น ม.6 ที่สมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย เสริมจากที่โรงเรียนจัดให้ทุกวันเสาร์ โดยที่ไม่ได้เป็นคำร้องขอจากโรงเรียน แต่ด้วยความห่วงใยที่คณะครูพึงมีต่อนักเรียน ก็รวมกลุ่มกัน และเสนอผู้อำนวยการพิจารณาเห็นชอบ ผมมีโอกาสได้ไปดูการสอนของวันนี้ นักเรียน 10 กว่าชีวิต ที่แต่งกายแบบสบายๆ นั่งเรียนวิชาสังคมศึกษา ที่คุณครูธวัช เนตรแก้ว กำลังสอนอยู่ นักเรียนนั่งเรียนอย่างมีความสุข ช่างคิด ช่างถาม เป็นบรรยากาศการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทำให้ผมปลื้มกับสิ่งที่คณะครูกำลังทำกัน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่นักเรียนสำคัญที่สุด
การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญที่คุณครู ร.ร.บ้านกร่างวิทยาคมกำลังปฏิบัติกันอยู่นั้น เรียกว่า การจัดการเรียนรู้แบบสร้างองค์ความรู้ ด้วยเป็นการสอนเสริมสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของนักเรียน การจัดการเรียนรู้แบบนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้แสดงขั้นตอนไว้ดังนี้ 1.ขั้นแนะนำ
2.ขั้นทบทวนความรู้เดิม
3.ขั้นปรับเปลี่ยนความคิด (ทำความกระจ่างและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน,การสร้างความคิดใหม่ และ ประเมินความคิดใหม่)
4.ขั้นนำความคิดไปใช้
5.ขั้นทบทวน
ในรายละเอียดของแต่ละขั้นนั้นท่านทั้งหลายสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากตำราที่ สกศ.จัดพิมพ์เผยแพร่ไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ
การเป็นครูแท้ในความหมายของการปฏิรูปการเรียนรู้ ที่สัมพันธ์กับ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1.รู้จักการบูรณาการการสอน 2. จัดกิจกรรมโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ 3. ใช้แหล่งเรียนรู้ทั้งในโรงเรียนและชุมชน และ 4.ประเมินผลตามสภาพจริง ส่วนขยายความในแต่ละองค์ประกอบนั้น ผมขอแนะนำหนังสือดีๆ ชื่อ 30 รูปแบบการจัดกิจกรรมโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ ของ ธีระพัฒน์ ฤทธิ์ทอง เขียนไว้น่าอ่านและนำไปใช้ได้ด้วยครับ
จากมิติที่ค้นพบได้ในเวลานี้ ทำให้มองเห็นอนาคตอันสดใสของนักเรียน ร.ร.บ้านกร่างวิทยาคม ที่จะก้าวออกจากรั้วโรงเรียนไปสู่โลกกว้างของชีวิต อย่างมั่นใจกับกระบวนการการเรียนรู้ที่ครูมอบให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ และหากนักเรียนมีองค์ความรู้ที่ดี ความสำเร็จที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ไกลเกินไขว่คว้า และเมื่อนั้นชุมชนก็จะมีคนคุณภาพเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ...ขอให้กำลังใจคุณครูทุกท่าน และขอขอบคุณอย่างสูงยิ่งกับวิธีคิดสู่การปฏิบัติที่เป็นเลิศเช่นนี้ สวัสดีครับ.
สวัสดีครับ อ.ลูกหว้า
ขอบคุณนะครับที่เข้ามาอ่านและเติมเต็ม..วิถีชีวิตครูก็หยั่งงี้แหละครับ รุ่นแล้วรุ่นเล่าที่ผ่านกระบวนการเรียนรู้ในโรงเรียน เมื่อเวลาผ่านไป พวกเราก็เฝ้าติดตามว่า เขาไปอยู่ไหน ทำงานอะไร สร้างคุณภาพชีวิตให้ตนเองและสังคมหรือเปล่า หากอยู่ดีมีสุขก็พลอยยินดี หากมีทุกข์ระทม ก็เอาใจช่วยภาวนาให้พ้นจากทุกข์...อย่าลืมแวะมาคุยกันได้เรื่อยๆ นะครับ