วัยทอง


วัยทอง
.... วัยทอง Menopause ..... วัยทองหรือหมดประจำเดือนคืออะไร วัยทองเป็นวัยหนึ่งของชีวิต ซึ่งเริ่มด้วย วัยทารก วัยเด็ก วัยรุ่น วัยกลางคน วัยทอง วัยรุ่นและวัยทองเป็นวัยที่รังไข่สร้างฮอร์โมนออกมาน้อยและไม่สม่ำเสมอ ทำให้มีประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ วัยทองรังไข่ทำงานน้อยลงทำให้สร้างฮอร์โมนออกมาน้อยลง [ estrogen,progesterone] ทำให้บางท่านอาจจะมีประจำเดือนมากขึ้นบางคนน้อยลง บางคนประจำเดือนห่างบางคนก็มาถี่ ฮอร์โมนนี้จะช่วยในการมีประจำเดือน การตั้งครรภ์ ความแข็งแรงของกระดูก ลดระดับ cholesterol วัยทองจะเริ่มเมื่อไร หญิงอายุตั้งแต่30 ปีขึ้นไปจน 50ปีสามารถเกิดวัยทองได้ โดยเฉลี่ยคืออายุ 51 ปีผู้ที่สูบบุหรี่จะเกิดวัยทองได้เร็วกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ ผู้ที่ตัดรังไข่ก็สามารถเกิดวัยทองได้ทันทีหลังตัดรังไข่ อาการเตือนของวัยทองมีอะไรบ้าง เมื่อระดับฮอร์โมน estrogen และ progesterone ลดลงจะทำให้เกิดอาการหลายอย่างบางคนเป็นมากบางคนเป็นน้อย( ผลของเอสโตรเจนต่อร่างกาย)อาการอาจจะเป็นไม่กี่เดือนก็หาย แต่โดยเฉลี่ยประมาณ 4 ปี อาการต่างๆมีดังนี้ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอเช่นมาเร็ว มาช้า มามาก มาน้อย มานาน ร้อนตามตัว ผู้ป่วยจะมีร้อนโดยเฉพาะส่วนบนของร่างกาย แก้ม คอ หลังจะแดงหลังจากนั้นจะตามด้วยเหงื่อออกและหนาวสั่นในเวลากลางคืน อาการนี้จะเป็นนาน 1-5 นาที ปัญหาเกี่ยวกับช่องคลอดและกระเพาะปัสสาวะ เนื่องจากระดับ estrogen ลดลงทำให้เยื่อบุช่องคลอดแห้งและบางลง ผู้ป่วยจะมีอาการปวดขณะร่วมเพศ และมีการติดเชื้อในช่องคลอดบ่อยขึ้น นอกจากนั้นยังมีเรื่องกั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะเล็ดเวลาจามหรือไอ การคุมกำเนิด ควรคุมกำเนิดอย่างน้อย 1 ปีหลังประจำเดือนครั้งสุดท้ายผู้ป่วยบางคนจะมีความรู้สึกทางเพศลดลง แต่บางรายมีความรู้สึกทางเพศสูงขึ้น มีปัญหาเรื่องการนอน นอนหลับยาก ตื่นเร็ว อาจจะตื่นกลางคืนและเหงื่อออกมาก ผู้ป่วยจะบ่นเรื่องเหนื่อย ผู้ป่วยจะมีอารมณ์ผันผวนโกรธง่าย การเปลี่ยนแปลงทางรูปร่าง เอวจะเริ่มหายไป ไขมันที่เคยเกาะบริเวณขาจะเปลี่ยนไปเกาะบริเวณเอวกล้ามเนื้อลดลงมีไขมันเพิ่ม ผิวหนังเริ่มเหี่ยว ปัญหาอื่น เช่นปวดศีรษะ ความจำลดลง ปวดตามตัว วัยทองกับโรค เมื่อเข้าสู่วัยทองจะมีโรคหลายโรคเกิดมากในวัยนี้ ได้แก่ โรคหัวใจ โรคกระดูกพรุน มะเร็งเต้านม แต่ไม่ใครสามารถที่จะคาดเดาว่าจะเป็นใครจะเป็นโรคดังกล่าว แต่เราจะพิจารณาจากปัจจัยเสี่ยงว่าวัยทองคนใดมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคอะไร ดังนั้นท่านที่อยู่ในวัยทองท่านจะต้องรู้สิ่งต่อไปนี้เพื่อการตัดสินใจรับฮอร์โมนทอแทน โรคที่มักจะเกิดกับวัยทอง ผู้ป่วยจะเกิดโรคกระดูกพรุนได้เร็ว ผู้ป่วยวัยทองจะมีอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มผู้ป่วยควรควบคุมปัจจัยเสี่ยง มะเร็งเต้านม เมื่อเข้าสู่วัยทองต้องทำอะไรบ้าง ให้รับประทานอาหารที่มีแคลเซี่ยมสูง ลดไขมัน ลดปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เลิกบุหรี่และแอลกอฮอล์ ใช้สารหล่อลื่นก่อนร่วมเพศ ตรวจเต้านม มะเร็งปากมดลูกทุกปี การรักษาโรคที่มากับวัยทองโดยไม่ใช้ฮอร์โมน ก่อนการให้ฮอรโมนทดแทนจะต้องประเมินความรุนแรงของโรคที่พบร่วมกับวัยทองเช่นอาการร้อนตามตัว กระดูกโปร่งบางและต้องมาเปรียบเทียบกับความเสี่ยงที่จะเกิดโรคจากการให้ฮอร์โมน เช่นมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด และจะต้องพิจารณาว่ามีทางเลือกอื่นอีกหรือไม่ในการรักษาภาวะเหล่านี้ ถ้าหากท่านมีอาการร้อนตามตัวจะแก้ไขอย่างไร เมื่อเริ่มเกิดอาการร้อนให้ไปอยู่ที่เย็นๆ ให้นอนในห้องที่เย็น ให้ดื่มน้ำเย็นเมื่อเริ่มรู้สึกร้อน หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดๆ และร้อน หลีกเลี่ยงสุรา หลีกเลี่ยงความเครียด เมื่อเวลาเครียดให้หายใจเข้าออกยาวๆ ช้าและใจเย็นๆ ถ้าหนาวให้ใส่เสื้อหลายชั้น และหากร้อนก็สามารถถอดทีละชั้น แพทย์บางท่าแนะนำให้ใช้วิตามิน อีซึ่งจะลดอาการได้ร้อยละ 40 clonidine และยาลดอาการซึมเศร้ากลุ่ม SSRI เช่น Prozac Zoloft อาหารซึ่งมีถั่วเหลืองจะช่วยลดอาการร้อนตามตัว อาการช่องคลอดแห้ง เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ปัสสาวะบ่อยจะแก้ไขอย่างไร เนื่องจากเนื้อเยื่อของช่องคลอดและกระเพาะปัสสาวะจะฝ่อทำให้เกิดอาการดังกล่าว และหากมีข้อห้ามในการรับประทานฮอร์โมนทดแทนหรือผู้ป่วยไม่อยากจะรับความเสี่ยงจากการให้ฮอร์โมนก็สามารถใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดทาช่องคลอดได้โดยระดับยาในเลือดจะมีน้อยกว่าชนิดรับประทาน 1 ใน 4 แต่จะให้ผลดีต่อช่องคลอดมากกว่าชนิดรับประทาน 4 เท่า ในการใช้ยาครั้งแรกให้ทาทุกวันหลังจากนั้นให้ทาอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งหรือแล้วแต่การปรับของผู้ป่วย นอกจากนั้นบางคนอาจจะใช้ยาที่เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ช่องคลอดแต่ไม่ทำให้เนื้อเยื่อหนาตัว อาการนอนไม่หลับและอารมณ์แปรปรวน ใช้ยายาลดอาการซึมเศร้ากลุ่ม SSRI ซึ่งจะไปเปลี่ยนแปลงระดับ serotonin ในสมองทำให้ลดอาการซึมเศร้า การรักษาโรคกระโปร่งบางหรือกระดูกพรุน การให้ฮอร์โมนทดแทนในผู้ป่วยวัยทอง ก่อนการให้ฮอรโมนทดแทนจะต้องประเมินความรุนแรงของโรคที่พบร่วมกับวัยทองเช่นอาการร้อนตามตัว กระดูกโปร่งบางและต้องมาเปรียบเทียบกับความเสี่ยงที่จะเกิดโรคจากการให้ฮอร์โมน เช่นมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด และจะต้องพิจารณาว่ามีทางเลือกอื่นอีกหรือไม่ในการรักษาภาวะเหล่านั้นผู้ป่วยบางคนเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยทองแพทย์จะให้ยาคุมกำเนิดรับประทานซึ่งมีผลดีหลายประการ เช่นทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ลดอาการร้อนตามตัว ลดอัตราการเกิดมะเร็งรังไข่ ข้อเสียคือไม่ทราบว่าหมดประจำเดือนหรือยัง ถ้าสงสัยก็ให้หยุดยาคุมกำเนิด 4-5 เดือนแล้วดูว่าประจำเดือนมาหรือไม่ เมื่อเข้าสู่วัยทองจริงแพทย์จะพิจารณาให้ฮอร์โมนที่มีส่วนประกอบของ estrogen และ progesteroneผลดีของการให้คือ ลดอาการ ป้องกันกระดูกพรุน และป้องกันโรคหัวใจ แต่ต้องระวังโรคแทรกซ้อนคือ โรคตับอักเสบ ไขมัน triglyceride สูง โรคมะเร็งเต้านม
คำสำคัญ (Tags): #วัยทอง
หมายเลขบันทึก: 137747เขียนเมื่อ 12 ตุลาคม 2007 12:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

คุณแม่อายุ 60 ปี มีอาการคล้ายวัยทอง แต่อาการท่านเป็นมากไปโรงพยาบาลเกือบทุกวัน ท่านทนกับอาการไม่ไหว คือหนาวในอก สั่น บางครั้งร้อนมากเหมือนโดนย่าง (ท่านบอก) ไปตรวจเลือด เอ็กซ์เรย์ หรืออะไรที่ต้องตรวจทุกอย่างผลปกติ จนหมอก็ไม่รู้จะตรวจอะไรให้แล้ว นอนโรงพยาบาล 6 วันไม่มีไข้ ไม่ได้เป็นอะไร หมอให้กลับแต่ก้อขอหมออยู่เพราะทนกับอาการไม่ไหว กลับบ้านก้อเข้าออกโรงพยาบาลบ่อย (ถ้าลูกไม่ได้รับราชการคงโดนให้ออกจากงานไปแล้ว..)ไปโรงพยาบาลทุกครั้ง ได้กลับมาเป็นยาคลายเครียด กับวิตามิน ยาฮอร์โมน แต่ก้อไม่ดีขึ้น ...มีคนแนะนำให้พาไปวัดสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา สังฆทาน ทำทุกอย่าง ทั้งหมอปัจจุบัน และหมอโบราณ อะไรที่เค้าแนะนำ ทำหมด อาหารให้ทานประเภทเต้าหู้ ถั่วเหลือง ข้าวกล้อง อาหารเสริม เห็นแล้วสงสารมากแต่ไม่รู้จะทำยังงัย นอนทั้งวัน ทานไม่ค่อยได้ ไม่มีแรง หมอก้อบอกปกติดี มีใครพอจะแนะนำได้มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท