ถึงแม้ว่าจะสิ้นปีงบประมาณ 2550 แล้วก็ตาม แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่ดิฉันกำลังปั่น (เขียน) ผลงานและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการทำงาน "การจัดการความรู้" ที่ตนเองได้รับมอบหมายตัวชี้วัด
ซึ่งการดำเนินงานจัดการความรู้ ที่ได้รับมอบหมายตัวชี้วัดมานั้น เรามีเวลาแค่เพียง 4 เดือน (มิ.ย. - ก.ย. 50) เท่านั้นที่จะต้องทำงานเรื่องนี้ให้บรรลุผล จึงเป็นอะไร? ๆ ๆ ที่ค่อนข้างเหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็ยังโชคดีที่ "มีทีมงานและเครือข่ายที่มีความรู้ความสามารถ" มาร่วมดำเนินกิจกรรม KM จึงทำให้ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่เกือบจะทุกคนในสำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยีทั้งในระดับบริหารจัดการและระดับปฏิบัติการ
การทำงานก็ย่อมจะมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้น ซึ่งดิฉันได้สรุปไว้มี 2 เรื่อง และมีวิธีการแก้ปัญหาปัญหาที่ได้นำไปใช้ก็คือ
1) ทางด้านระยะเวลาในการดำเนินงาน นั้น จะเห็นได้ว่า การดำเนินงานการจัดการความรู้ ของสำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี ประจำปีงบประมาณ 2550 ใช้ระยะ เวลาอันสั้นจึงทำให้การดำเนินงานตามกิจกรรมแต่ละกิจกรรมนั้นต้องใช้ความเร่งด่วน ซึ่งเป็นผลมาจากระบบการปฏิบัติงานของกรมส่งเสริมการเกษตรล่าช้า เช่น การสั่งการแบบเป็นทางการ การกำหนดและมอบหมายตัวชี้วัด และการรายงานผลงานตามตัวชี้วัด เป็นต้น จึงทำให้หน่วยงานระดับสำนักสามารถดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวได้จริงประมาณเดือนมิถุนายน 2550 ดังนั้น ความรู้ความเข้าใจและทักษะที่เกิดขึ้นจึงเป็นการเรียนรู้ KM เบื้องต้น และเรียนรู้ภาพรวมของ KM เป็นหลัก เท่านั้น
ส่วนการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ใช้วิธีการสร้างทีมงาน, มีการประสานงานและเชื่อมโยงเครือข่ายเป็นหลัก, มีการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ โดยใช้วิธีการปฏิบัติจริง, นำตัวอย่างที่มีอยู่เดิมมาใช้ในการพัฒนาการทำงาน, นำประสบการณ์และความรู้ของเจ้าหน้าที่มาใช้เป็นฐานในการดำเนินงาน “จัดการความ” ให้กับสำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี.
2) ทางด้านองค์กร เนื่องจากสำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี เป็นหน่วยงานที่มีโครงสร้างการบริหารจัดการที่ใหญ่ มีภารกิจและหน้าที่ที่หลากหลาย มีเนื้องานที่ต้องเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลและหน่วยงานจำนวนมาก และมีบุคลากรจำนวนมาก จึงทำให้การดำเนินงานจัดการความรู้เป็นไปได้ยาก เช่น การสร้างความรู้ความเข้าใจ, การปฏิบัติกิจกรรม, การประสานงาน, การบริหารจัดการ, การเสริมหนุน เป็นต้น
จึงได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยการแต่งตั้งคณะทำงานที่มาจากหน่วยงานต่าง ๆ, ใช้รูปแบบและวิธีการทำงานเป็นทีม, ใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย, มีการเสริมหนุนโดยใช้เวทีการประชุม, มีการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้, ใช้เทคนิคการปรึกษาหารือและการเล่าให้ฟัง, มีการติดตามการดำเนินงานจากเครือข่าย, มีการวางแนวทางและระบบการบริหารจัดการ (การประชุม, การปฏิบัติการ, การเสริมหนุน) เป็นต้น
การทำงานเมื่อเราลงมือทำเราก็จะได้ประสบการณืเพิ่มเติมอีกหลาย ๆ เรื่อง เพื่อนำไปใช้ในวันข้างหน้าได้ค่ะ.
เรียน คุณหนุ่มร้อยเกาะ
ใช่ค่ะ...มีอยู่ทุกที่ทุกแหล่งแหละค่ะ