ความคิดสร้างสรรค์

กระบวนการคิด

ความคิดสร้างสรรค์   หมายถึง ความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ และก่อให้เกิดความคิดใหม่ต่อเนื่องกันไป เป็นความคิดที่หลากหลาย คิดได้กว้างไกล หลายแง่หลายมุม เน้นทั้งปริมาณและคุณภาพ และเป็นความคิดที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่า

 องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อความคิดสร้างสรรค์                
                ๑.มีความคิดริเริ่ม
                    หมายถึง มีความคิดที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำกับใคร และแตกต่างจากความคิดธรรมดา

                ๒.มีความคิดคล่องแคล่ว
                    หมายถึง ปริมาณความคิดที่ไม่ซ้ำกันในเรื่องเดียวกันในด้านต่างๆ เช่น การเลือกใช้ถ้อยคำ การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ เป็นต้น

                ๓.มีความยืดหยุ่น
                    หมายถึง ประเภทหรือแบบของการคิด ที่อาจนำเสนอเรื่องราวเดียวกันในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่ตายตัวหรือความสามารถในการดัดแปลงความรู้หรือประสบการณ์ที่มีอยู่ในเรื่องต่างๆ นำมาเขียนเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น

                ๔.มีความคิดละเอียดลออ
                    หมายถึง ความคิดในรายละเอียดของเรื่องต่างๆ คิดอย่างมีขั้นตอน สามารถอธิบายให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน สามารถจัดแต่งความคิดหลักให้น่าสนใจยิ่งขึ้น

 กระบวนการความคิดสร้างสรรค์                
                ๑.เกิดสิ่งกระทบความรู้สึกให้ต้องคิด เป็นต้นเหตุหรือสาเหตุของเรื่องที่ต้องใช้ความคิดในการทำให้เรื่องนั้นๆ บรรลุตามวัตถุประสงค์

                ๒. รวบรวมข้อมูล เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทุกประเด็น ทุกแง่มุม

                ๓.แจกแจง วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของข้อมูล นำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาแจกแจง วิเคราะห์ความสัมพันธ์ หรือดูความเชื่อมโยงระหว่างกัน

                ๔.การคิดและทำให้กระจ่างชัด จัดระบบความคิดตามข้อมูลที่ได้แจกแจงและวิเคราะห์ความสัมพันธ์แล้ว ให้สามารถมองเห็นภาพ ขั้นตอน ความเชื่อมโยงของแต่ละส่วนได้อย่างชัดเจน

                ๕.แสดงออก เป็นการนำเสนอผลจากการคิดเพื่อทดสอบความคิดและพิสูจน์ให้เห็นจริง

 การส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์                 
                ๑.ทางตรง   คือ   การสอนและฝึกอบรม

                ๒.ทางอ้อม   อาจทำได้หลายวิธี เช่น

                                ๒.๑ ยอมรับในความสามารถของแต่ละบุคคล

                                ๒.๒ แสดงและเน้นให้เห็นว่าความคิดที่เขา 
                                        แสดงออกมานั้นมีคุณค่าและสามารถ
                                        นำไปใช้ประโยชน์ได้

                                ๒.๓ อย่าพยายามให้ทุกคนคิดไปในแนวทาง
                                        เดียวกัน ต้องยอมรับในความคิดที่แปลก
                                        แหวกแนว

                                ๒.๔ อย่าสนับสนุนเพียงผลงานที่เหมือนกับ
                                       ผู้ที่เคยได้รับการสนับสนุนหรือได้รับรางวัล
                                       หรือเป็นที่ยอมรับมาแล้ว  ควรให้การสนับ
                                       สนุน ยกย่องชมเชยหรือให้รางวัลกับผลงาน
                                       ที่แปลกใหม่แต่มีคุณค่า

                                ๒.๕ ส่งเสริมและสนับสนุนให้คิดค้นผลงานที่
                                        สร้างสรรค์อย่างไม่มีขีดจำกัด

                                ๒.๖ ให้กำลังใจและเอาใจใส่ต่อการสร้างสรรค์
                                        ผลงาน ที่อาจต้องใช้เวลาและค่อยเป็นค่อยไป

                                ( ที่มา  :  http://e-learning.aru.ac.th/tsh3/e_new/lesson2.html )

                                                                                                                     ศิลปะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์                 
ความคิดสร้างสรรค์คือลักษณะของความคิดที่มีหลายมิติ
หลายมุมมอง  หลายทิศทาง  สามารถคิดได้กว้างไกล ไร้กรอบ
 ไร้ขอบเขต ประกอบด้วย ความคิดริเริ่ม ความคล่องแคล่ว
ความยืดหยุ่น และความละเอียดลออ นำไปสู่การคิด ประดิษฐ์
สิ่งแปลกใหม่ และบูรณาการองค์ความรู้ต่างๆ ที่ได้มาจาก ประสบการณ์เดิม เชื่อมโยงกับ สถานการณ์ใหม่ สร้างเป็น
องค์ความรู้ใหม่ และเกิดนวัตกรรมตามมา  
ศิลปะช่วยได้อย่างไร 
      ศิลปะสามารถช่วยเพิ่มองค์ประกอบต่างๆของความคิดสร้างสรรค์ ทั้ง 4 ด้านดังนี้  
๑. ความคิดริเริ่ม (Originality)

                ช่วยให้มีความคิดแปลกใหม่   เกิดการนำความรู้เดิมมาคิดดัดแปลง และประยุกต์ให้เกิดเป็นสิ่งใหม่

 ๒. ความคล่องแคล่ว (Fluency)

                ช่วยให้มีความคิดที่ไม่ซ้ำในเรื่องเดียวกัน ไม่หมกมุ่น  คิดวกวน  สามารถ คิดได้รวดเร็ว นำมาซึ่ง การพูดที่คล่องแคล่ว และการกระทำที่รวดเร็ว

 ๓. ความยืดหยุ่น (Flexibility)

                ช่วยให้คิดได้หลากหลายมุมมองไม่ซ้ำรูปแบบหรือกรอบคิด แบบเดิม   ไม่ยึดติด สามารถเห็นประโยชน์ของสิ่งของอย่างหนึ่งว่า มีอะไรบ้าง ได้หลายอย่าง

 ๔. ความละเอียดลออ (Elaboration)

                ช่วยให้มีความพิถีพิถันในการตกแต่งรายละเอียด ช่างสังเกต ในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น หรือมองข้าม

 ( ที่มา  :   http://www.happyhomeclinic.com/arttherapy.htm  )