สวัสดีค่ะน้องเม้ง
วันนี้ ซีกทางขวาค่ะ
ขอบคุณค่ะ..จะทำอย่างไรให้เท่ากันคะ
1. สิริพร กุ่ยกระโทก
สวัสดีครับพี่อ้อย
ครูอ้อยนี่โชคดีจริงที่มีน้องชายที่เก่งๆทั้งนั้นเลยค่ะ..ภูมิใจจริงชาตินี้
น้องเอก น้องแอ๊ด น้องเอก น้องเสก น้องมะเดี่ยว น้องหล่า น้องการีม น้องออต น้องเสือ น้องสิงห์ น้อง..วายเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ อ.เม้ง
สวัสดีค่ะคุณเม้ง
เคยคุยกับชาวเยอรมัน ด้วยความสนุกสนาน ยิ้มแย้มแจ่มใส คุยจนเข้าใจกันดี มีคนบอกว่าเก่งมากๆ คุยกับฝรั่งรู้เรื่อง ดูจะสนุกมาก เห็นยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ สบายมากอยู่แล้ว ก็เยอรมัน เขาฝึกพูดไทย ก็เลยสอนเขาด้วยภาษาไทยล้วนๆ จะไม่ให้แลดูเก่งได้อย่างไร อย่างนี้ถือว่าใช้สมองซีกไหนคะ
สวัสดีครับพี่อ้อย
สวัสดีครับคุณครูกั๊ต
5. ตันติราพันธ์
สวัสดครับพี่
สวัสดีค่ะคุณเม้ง
ช่างคิดดีนะคะ..และภาพหนึ่งภาพก็แทนคำได้มากมายเช่นเดียวกัน
สมอง 2 ซีกตลอดจนหน้าที่ของมันทำให้เรามีความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้นว่าสมองซีกใดมีลักษณะแบบไหน..แต่อย่างที่คุณเม้งว่านั่นแหละค่ะในการทำกิจกรรมใดๆก็ตามย่อมต้องใช้สมอง 2 ซีกประสานกัน มากบ้างน้อยบ้างก็แล้วแต่ เพราะสมองของเราทำงานสลับกัันไปมาตลอดเวลาผ่านสะพานเชื่อมแบบที่คุณเม้งทำให้เห็นนี่แหละค่ะ อุปมาก็คงเหมือนรถ คน สัตว์ที่เดินขวักไขว่สัญจรผ่านเส้นทางต่างๆเพื่อไปมาหาสู่กันระหว่างสองฟากของมหาวิทยาลัยนี่แหละค่ะ
และในขณะที่สมองซีกขวาทำงานก็ใช่ว่าสมองซีกซ้ายจะหยุด เพิกเฉย ( เหมือนเจ้าของสมองแบบเบิร์ดที่มักจะอู้งานเป็นพักๆแล้วแต่จะหาโอกาสได้ ^ ^ ) ..เพราะเค้าก็จะทำงานไปด้วยแล้วแต่ว่า " เนื้องาน " เป็นอย่างไร..เมื่อมี " เนื้องาน " สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกันก็จะทำงานอย่างแข็งขัน.. การทำงานของสมองทั้ง 2 ซีกจึงเป็นการทำงานแบบบูรณาการโดยไม่มานั่งแบ่งแยกว่านี่งานของฉัน นั่นงานของเธอ ( แบบเจ้าของสมองเลยซักนิดนึง )
เมื่อคุยกับนักคณิต ฯ ก็ขอยกตัวอย่างนี้ละกันค่ะ..การเรียนคณิต ฯ ยุคโบราณนั้นจะเน้นแต่กระบวนโจทย์ปัญหาที่มีทางเดียว แต่ในปัจจุบันได้มีการเน้นกลยุทธ์ทางความคิดแบบการแก้ปัญหาเชิงซ้อนและสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้สมองทั้ง 2 ข้างใช้งานร่วมกันในเชิงวิชาการ ...มิใช่ " เอียงซ้าย " อย่างแต่ก่อน แต่ก็อีกนั่นแหละค่ะเรายังมีคุณครูู่อยูุ่่อีกหลายๆท่านที่ยังติด ชินกับวิธีคิดแบบดั้งเดิมอยู่ อิ อิ อิ...
เป็นเพราะการทำงานร่วมกันของสมอง 2 ซีกนี่แหละค่ะ ทำให้คนเราแตกต่างกันมากมายทั้งบุคลิกภาพ ความคิด นิสัย ความถนัด สุดแต่ว่าสมองส่วนไหนมีศักยภาพหรือถูก " ฝึกปรือ " มามากกว่ากัน...
การฝึกให้เด็กๆใช้สมองทั้ง 2 ซีกจึงเป็นความสำคัญยิ่งสำหรับผู้ปกครองทุกๆคน เพราะอะไรก็ตามที่มีพื้นฐานดี ย่อมง่ายต่อการต่อยอดและส่งเสริมอย่างเต็มศักยภาพที่เค้ามี เพราะเราพบกันแล้วว่าอัจฉริยะบุคคลทั้งหลายที่ประสบความสำเร็จโด่งดัง มักเป็นบุคคลที่ใช้สมองทั้ง 2 ซีกประสานกันอย่างเป็นขั้นตอน..และโครงข่ายโยงใยในสมองก็สามารถพัฒนาเต็มที่ได้ถึง อายุ 25 ปี ! ( จากเดิมเชื่อกันว่าจะแตกราก สาขาของเดนไดรท์ แอกซอนได้ถึงแค่อายุ 16 ปี ...ได้กำไรมาตั้งเยอะแน่ะค่ะ )
ขอบคุณมากค่ะสำหรับบันทึกที่แสดงให้เห็นว่าการทำงานของสมอง 2 ซีกแบบบูรณาการนั้นเป็นเช่นไร ^ ^
ี
9. เบิร์ด
สวัสดีครับคุณเิบิร์ด
สวัสดีครับคุณนารี