File Server : Windows or Linux ?


การทำ File Server จะเลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Windows หรือระบบปฏิบัติการ Linux ในฐานะมือสมัครเล่นควรพิจารณาในเรื่องอะไรบ้าง

สมัครไว้ตั้งนานแล้วในที่สุดก็ได้มาเขียน Blog กับเขาสักทีครับ ที่ไม่ได้เขียนเพราะว่่าไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไรที่จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านได้บ้่าง แต่ตอนนี้ตัดสินใจใหม่แล้วครับ เขียนเองอ่านเองก็ได้ เหอๆ ผู้อ่านรบกวนติชมด้วยนะครับ

 พูดถึงเรื่องของการเลือกระบบปฏิบัติการเพื่อนำมาใช้ในการตั้ง File Server ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เคยคุยกับนักศึกษามาหลายครั้งแล้ว ยกตัวอย่างนะครับว่า ถ้าเราจะยก PC สักเครื่องหนึ่งมาทำเป็น File Server + Print Server เพื่อใช้ในสำนักงานขนาดเล็ก (มี Client ประมาณ 10 node) แล้ว Server ตัวนั้นจะติดตั้งระบบปฏิบัติการอะไรดี ?

ตัวเลือกที่พอจะมองเห็นใกล้ๆ ก็น่าจะมีดังนี้ครับ

1. MS Windows Platforms

- Windows 2000 Server น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ด้วย Features ของมันเองและการใช้ทรัพยากรที่ไม่มากมายนัก ในการนำมาใช้จริงก็ยังไม่เคยพบปัญหาใดๆ ครับ

- Windows XP Professional ก็เคยทดลองนำมาใช้และได้ผลดีพอสมควรครับ แต่ปัญหาที่พบคือเรื่องของการเชื่อมต่อพร้อมๆ กันที่ถูกจำกัด node ไว้ทำให้จุดนี้ด้อยกว่า Windows 2000 Server (ส่วนเรื่องของ UI ที่สวยหรูจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงหรือไม่นั้นไม่เป็นปัญหาเพราะว่าปรับ Performance เป็น Best ครับ) 

- Windows Server 2003 อันนี้ยังไม่เคยลองและก็ไม่คิดจะลองด้วยครับ เพราะรู้สึกว่าเกินตัวไปสักนิด

จากสาย Microsoft แล้วคราวนี้ลองมาดูสาย Linux บ้างครับ

2. Linux Platforms

ผมขออนุญาตไม่แจงตาม Distro นะครับ (แต่โดยส่วนตัวผมชอบสาย Debian) กรณี Linux ก็คงติดตั้งโดยใช้ SAMBA ก็คงไม่มีปัญหาอะไร

แต่สิ่งที่ผมนำมาให้ช่วยคิดก็คือเรื่องของ Malware ครับ

จริงอยู่ที่ MS Windows จะมีโปรแกรม Anti-Virus มากมายให้เลือกใช้ แต่ตามสัจธรรมที่ชาวไอทีรู้ดีก็คือ ไม่มี Anti-Virus ตัวไหนที่จะ Secure ได้ 100% เพราะฉะนั้นก็อาจจะต้องลงไว้สัก 2-3 ตัว ซึ่งนั่นก็จะทำให้ Performance ของเครื่องลดลงไปอีก แล้วรับประกันได้หรือว่าจะปลอดภัย 100%

อืมม แล้วถ้าเป็น Linux ล่ะ? แน่นอนว่า Malware ที่ทำงานบน MS Windows ไม่สามารถทำงานบน Linux ได้จริง (ตัวอย่างเช่นพวก Trojan แนวๆ Flashy ทั้งหลายก็จะเห็นเป็นเพียงไฟล์ Binary ตัวหนึ่งที่ไม่สามารถ Execute ใน Linux ได้) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะหมดฤทธิ์แล้วใช่หรือไม่ครับ ?

หากว่าเราจัดเก็บไฟล์ไว้บน Server ที่เป็น Linux แล้วไฟล์เหล่านั้นมี Virus ปะปนอยู่ด้วย ในขณะที่มันอยู่บน Server มันไม่ทำงานก็จริง แต่เมื่อเรา Copy ไฟล์เพื่อนำมาใช้งานที่เครื่องของเรา ถ้าเครื่องของเราเป็น MS Windows แล้ว Virus เหล่านั้นก็จะมาออกฤทธิ์ในเครื่องของเราแทน งั้นหรือครับ? แล้วอย่างนี้หมายความว่าอย่างไรดี

ถ้าลองสรุปเล่นๆ ก็น่าจะได้ข้อสรุปดังนี้

1. Server ใช้ MS Windows / Client ใช้ MS Windows - ทั้ง Server และ Client อาจไม่ Secure

2. Server ใช้ Linux / Client ใช้ MS Windows - Server อาจ Secure จริง แต่ Client ไม่น่า Secure ในกรณีนำข้อมูลที่มี Malware (ที่ไม่ทำงานบน Server) มาใช้ในเครื่อง Client

จริงๆ แล้วปัญหานี้ผมคิดว่าคงจะมีวิธีแก้ไขที่ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว แต่ประเด็นของผมไม่ใช่ตรงนั้นครับ (อืม หมายความว่าไงอีกละเนี่ย)

ถ้าเราเปลี่ยน Client มาใช้ Linux ให้เหมือนกับ Server ล่ะ ? ปัญหา Malware ที่เป็น Binary File บน MS Windows ก็คงจะไม่สามารถจะมาออกอาการในระบบของเราได้อีกต่อไป

(สรุป) เพราะฉะนั้น เราหันมาใช้ Linux กันเถอะครับ 5555

คำสำคัญ (Tags): #linux
หมายเลขบันทึก: 133687เขียนเมื่อ 1 ตุลาคม 2007 15:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 12:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เรื่องน่าสนใจครับ ^^ แต่โดยส่วยตัวก็ชอบทั้งสองค่ายละครับ windows 2003 น่าเอามาทำครับ แต่ อิอิ ความสามารถที่มากขึ้นทำให้บริโภคทรัพยากรเครื่อง และบริโภค ทรัพย์จากผู้ที่ใช้ไปเยอะครับ ^^

ส่วนทางฝั่งค่าย Linux โดยส่วนตัวชอยอยู่กับ Ubatu  ครับไม่แน่ใจตัวเองว่าชอบอยู่กับสีส้มหรือเปล่าครับ

ในความคิดผมนั้น การจะเลือก File Server ตัวไหนก็ได้ แต่ขึ้นอยู่กับความถนัดและความพร้อมด้านงบประมาณของผู้ใช้มากกว่า โดยเฉพาะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีคนเก่งมากแต่ไม่มีงบประมาณก็ควรเลือกใช้ Linux แต่น่าเสียดายที่หน่วยงานราชการไม่ส่งเสริมมากนัก น่าจะนำรูปแบบการส่งเสริมของประเทศจีนมาใช้นะครับเพราะส่งเสริมให้นักวิชาการใช้ S/W Open Source กันอย่างกว้างขวาง นอกจากจะประหยัดงบประมาณแล้วยังได้ส่งเสริมนักคอมพิวเตอร์ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้นด้วย สำหรับสถาบันการศึกษาก็น่าจะเป็นตัวอย่างในการนำ S/W Open Source มาใช้และเพิ่มหรือปรับเปลี่ยนเนื้อหาการเรียนการสอนให้ใช้ S/W Open Source ก็จะเป็นแนวทางหนึ่งในการส่งเสริมให้นักศึกษาใช้ คุ้นเคย และขยายการนำไปใช้เมื่อสำเร็จการศึกษาด้วย

สรุปแล้วใช้ Linux ดีกว่าครับ

การที่จะสร้างความปลอดภัยให้กับระบบได้นั้น ในส่วนของ user ก็ต้องให้ความร่วมมือด้วยครับ แม้ว่าในบางครั้งระบบซีเคียวของ serv จะเลิศขนาดไหน แต่ถ้า user เป็นคนนำเข้ามาเอง อันนี้ก็เน่าครับ ที่ผมเคยเจอนะครับ ส่วนใหญ่มักจะชอบเอาอุปกรณ์พวก flashdrive มาเก็บข้อมูลกัน ทีนี้ก็เอาไวรัสมาจากไหนก็ไม่รู้ครับ กระจายในเครือข่าย ดังนั้นไม่ว่าจะเราจะชอบ window หรือ Unix ทางที่ดีที่สุดคือต้องร่วมมือกันครับ

แหล่มเลยครับ ตบท้ายบทความ ... ได้ฮามาก ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท