นวัตกรรม “มาตรการการเรียนซ้ำชั้น”
นายนกุล สมาโนตม์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ
โรงเรียนมหิศราธิบดี
จากผลสำรวจการจบหลักสูตรของนักเรียนชั้น ม. 3 และ ม. 6 ก่อนการปฏิรูปทางการศึกษา พุทธศักราช 2544 พบว่าร้อยละของการจบมีประมาณ 90 – 95 % หมายความว่าในแต่ละปีจะมีการสูญเปล่าทางการศึกษา และมีนักเรียนเสียโอกาสการศึกษาต่อและทำงานตามคุณวุฒิร้อยละ 5-10 ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงพอสมควร
สาเหตุ 1.นักเรียนขาดความรับผิดชอบ ไม่มีระเบียบวินัยในตนเอง
2.ผู้ปกครองไม่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือนักเรียน
3.นักเรียนมีผลการเรียน 0, ร, สม, มผ มาก จนไม่สามารถสอบแก้ตัวได้หมด และเกิดความท้อแท้สิ้นหวัง4.วิธีการวัดผลและประเมินผลของครูไม่ตรงตามศักยภาพของนักเรียน
ครูหวังผลเลิศมากเกินไป <p style="margin: 0in 0in 0pt 0.5in; text-align: justify" class="MsoNormal"> ผู้รายงานได้กำหนดมาตรการเรียนซ้ำชั้น ดังนี้</p><p style="margin: 0in 0in 0pt 0.5in; text-align: justify" class="MsoNormal"> 1. สร้างระเบียบการวัดผลและประเมินผลของสถานศึกษา โดยกำหนดให้เกณฑ์การจบหลักสูตรต้องมีผลการเรียนผ่านทุกตัว ถ้ามีตกค้างแม้ตัวเดียวก็ต้องเรียนซ้ำในชั้นปีนั้น ๆ</p> 2. นำเสนอระเบียบการวัดผลและประเมินผลนี้ ผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการวิชาการ และคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อพิจารณาและแก้ไขให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น 3. นำระเบียบการวัดผลและประเมินผลนี้ รายงานต่อครูประจำชั้น ครูผู้สอน ผู้ปกครอง และนักเรียน เพื่อแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน และนำไปปฏิบัติ 4. กำหนดปฏิทินการปฏิบัติงานที่เปิดโอกาสให้นักเรียนมีโอกาสสอบแก้ตัวได้มากกว่า 1 ครั้ง รายงานผลการเรียนให้ผู้ปกครองทราบ ประชุมผู้ปกครองกลุ่มเสี่ยงให้ควบคุมดูแลและเอาใจใส่นักเรียนใกล้ชิดยิ่งขึ้น <p style="margin: 0in 0in 0pt 0.5in; text-align: justify" class="MsoNormal"> จากการทดลองใช้ ผลที่ได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ได้แก่ </p><p style="margin: 0in 0in 0pt 0.5in; text-align: justify" class="MsoNormal"> 1. นักเรียนกลุ่มเสี่ยงได้รับการดูแล เอาใจใส่ ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน เพิ่มขึ้นมีขวัญและกำลังใจในการศึกษา</p><p style="margin: 0in 0in 0pt 0.5in; text-align: justify" class="MsoNormal"> 2. นักเรียนจบหลักสูตรร้อยละ 100 ของ จำนวนนักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6</p><p style="margin: 0in 0in 0pt 0.5in; text-align: justify" class="MsoNormal">ทั้งในปีการศึกษา 2548 และ 2549 (ทั้งนี้ ได้เริ่มทดลองใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2548)</p><p style="margin: 0in 0in 0pt 0.5in; text-align: justify" class="MsoNormal"> 3. นักเรียนที่จบไม่พร้อมรุ่น จะได้รับการสอนซ่อมเสริมช่วงภาคเรียนฤดูร้อน และสามารถจบหลักสูตรก่อนเปิดภาคเรียนในปีการศึกษาถัดไป</p><p style="margin: 0in 0in 0pt 0.5in; text-align: justify" class="MsoNormal"> นกุล สมาโนตม์ ผู้รายงาน </p>