ผมได้โอกาสได้ร่วมประเมินโครงการกับ ผศ.ดร ฉลาด จันทรสมบัติ : การติดตามและประเมินโครงการพัฒนาชุมชนแบบพึ่งตนเองและยั่งยืนนิมิตรวมใจ จังหวัดร้อยเอ็ด ผมอยากนำเสนอผลประเมินโครงการ เพื่อจะเป็นแนวทางในการพัฒนาชุมชน หรือแง่คิดแก่นักวิชาการ ทุกคนครับ เพราะ ถือว่าชุมชนให้ความรู้ หรือเป็นขุมทรัพย์ทางความรู้ก็ว่าได้..
สรุปผลการประเมินโครงการ ดังนี้
1. ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนและเป็นพื้นที่พึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ ระดับอำเภอ
1.1 ด้านการมีส่วนร่วม ชุมชนมีการประชุมทุกเดือน เมื่อได้รับข่าวสารมาจากหน่วยงานราชการทางอำเภอ องค์การบริหารส่วนตำบล มีลงบัญชีรายชื่อสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมทุกครั้งเป็นลายลักษณ์อักษร มีการร่วมคิดร่วมตัดสินใจ และหาแนวทางป้องกันร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันในทุกเรื่อง โดยการยกมือลงความเห็นเสียงส่วนใหญ่และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน มีการแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบโดยชัดเจน ด้านการมีส่วนร่วมแต่ละหมู่บ้านจะมีส่วนร่วมมากน้อยที่แตกต่างกันตามระดับเกณฑ์การดำเนินงานหมู่บ้าน A , B และ C ตามลำดับ คือหมู่บ้านระดับดี (A) จะมีระดับการมีส่วนร่วมมากกว่าหมู่บ้านในระดับอื่นๆ ทั้งนี้เพราะการดำเนินงานในแต่ละหมู่บ้านจะมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป แต่เมื่อมองถึงปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาและการดำเนินงานในชุมชนทุกชุมชนยังมีความเห็นว่าการมีส่วนร่วมเป็นปัจจัยที่สำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาชุมชน
1.2 ด้านภาวะผู้นำ จากการสนทนากลุ่มกับชุมชน ผู้นำที่ต้องการของชาวบ้านโดยสรุป คือ เป็นคนดี มีความเสียสละ มีความเป็นธรรม เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับชุมชน ภายใต้การดำเนินงานของโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ ผู้นำที่เป็นทางการจะมีบทบาทในการประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนผู้ปกครองและเด็กในโครงการเข้าร่วมกิจกรรม หรือนัดหมายการเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งจากการประเมิน พบว่า ด้านภาวะผู้นำเป็นอีกด้านหนึ่งที่ทุกชุมชนมีผู้นำที่ตรงกับความต้องการชองสมาชิกสามารถทำงานและประสานงานที่ดีในการพัฒนาชุมชนได้ แต่ยังค่อนข้างที่จะมีเพียงผู้นำที่เป็นทางการเท่านั้นส่วนผู้นำที่ไม่เป็นทางการ (อาสา) ยังมีไม่ครบทุกหมู่บ้าน จึงจำเป็นที่จะต้องมีการสร้างและค้นหาผู้นำที่มีคุณสมบัติดังกล่าวในการร่วมพัฒนาชุมชนให้มีมากขึ้นต่อไป
1.3 ด้านโครงสร้างกลุ่มองค์กรชุมชน การดำเนินงานทุกชุมชนมีการจัดตั้งกลุ่มองค์กรชุมชนที่หลากหลายในชุมชน ซึ่งมีความสอดคล้องกับบริบทของชุมชนในแต่ละชุมชน แต่บางชุมชนอาจเป็นการจัดตั้งโครงสร้างองค์กรแบบหลวมๆ ไม่มีกลุ่มบุคคลรับผิดชอบที่ชัดเจนบ้างแต่ไม่มากนัก แต่ในชุมชนมีผู้นำกลุ่มและสมาชิกที่ชัดเจน ส่วนมากเป็นกลุ่มองค์กรทางเศรษฐกิจเป็นหลัก กลุ่มองค์กรที่เกิดขึ้นจากการสนับสนุนของโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ จะมีไม่ครอบคลุมในทุกหมู่บ้านส่วนมากจะมีเฉพาะในหมู่บ้านระดับ (A) และหมู่บ้านระดับ (B) ส่วนหมู่บ้านระดับ (C) จะไม่มีกลุ่มองค์กรเลย นอกจากนี้กลุ่มองค์กรดำเนินกิจกรรมก็ยังไม่ต่อเนื่อง เพราะโครงสร้างกลุ่มองค์กรชุมชนส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มที่ถูกจัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐเป็นหลัก คนในชุมชนมีส่วนร่วมอยู่ในระดับที่น้อย
1.4 ด้านการประเมินสภาพปัญหา ทุกชุมชนมีการประเมินปัญหาของชุมชนร่วมกันโดยมีหน่วยงานของรัฐเป็นตัวขับเคลื่อน เช่น ทำแผนแม่บทชุมชน แผนพัฒนาชุมชน 3- 5 ปี ที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของสมาชิกในชุมชนให้ยั่งยืน มีการประเมินอดีตของชุมชน แต่การขับเคลื่อนโดยชุมชนเองส่วนมากจะเห็นในหมู่บ้านระดับ (A) ซึ่งจะมีรูปแบบการดำเนินงานที่เด่นและแตกต่างอย่างชัดเจนกับหมู่บ้านอื่น โดยเฉพาะขั้นตอนการคิด วางแผน และวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขแต่ส่วนมากจะเป็นการประชุมหารือกันผ่านเวทีการประชุมประจำเดือน ยังไม่มีการจัดเวทีเพื่อสรุปบทเรียนการดำเนินงานโครงการฯ โดยตรงและที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการขาดการจดบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรในทุกหมู่บ้านประกอบกับแผนที่เกิดขึ้นจากการระดมของคนในชุมชนเองยังขาดการผักดันไปสู่เชิงนโยบายขององค์กรภาครัฐ และไม่มีการปฏิบัติอย่างจริงจัง การดำเนินงานยังยึดติดอยู่กับนโยบายขององค์กรภายนอกที่เป็นเจ้าของทุนมากกว่าความต้องการของชุมชน
1.5 ด้านการระดมทุน ส่วนใหญ่ทุนภายในชุมชนมาจากการระดมในรูปของหุ้น และสมาชิกในชุมชนระดมทุนในลักษณะแรงงาน วัสดุอุปกรณ์ วัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับการผลิตของกลุ่มองค์กร โดยส่วนมากจะเป็นทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล ให้ความช่วยเหลือด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาชีพเสริม สำนักงานเกษตรอำเภอส่งเสริมอาชีพฝึกทักษะ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ ส่งเสริมอาชีพฝึกทักษะ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ให้ความรู้โรคภัยไข้เจ็บการป้องกันเบื้องต้น มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยโดยโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ จะส่งเสริมอาชีพฝึกทักษะอาชีพ ทุนการศึกษาเด็ก อบรมศึกษาดูงาน แล้วนำไปสู่การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีศักยภาพในด้านการระดมทุนที่ดีในระดับหนึ่ง เช่น บ้านโนนจาน บ้านหนองส่วย ตำบลโนนสง่า บ้านหนองมะเขือ บ้านโนนท่อน ตำบลสระบัว บ้านแสนสี บ้านค้อ ตำบลดอกล้ำเป็นต้น สิ่งที่ทุกหมู่บ้านได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย คือ การส่งเสริมด้านการศึกษา ส่วนการสนับสนุนกลุ่มอาชีพยังไม่ครอบคลุมทุกหมู่บ้านโดยเฉพาะหมู่บ้านระดับ (C)
1.6 ด้านทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ จุดเด่นของชุมชนที่สำคัญที่สุดในด้านทักษะการคิดวิเคราะห์ของทุกชุมชน คือ ชุมชนมีการประชุมร่วมกันกับสมาชิกอย่างต่อเนื่องทุกเดือน เมื่อได้รับข่าวสารมาจากหน่วยงานราชการ อำเภอ องค์การบริหารส่วนตำบล มีลงบัญชีรายชื่อสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมทุกครั้ง มีการร่วมคิด ตัดสินใจ และหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกันในทุกเรื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นรูปแบบการยกมือลงความเห็นเสียงเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจากการประเมิน พบว่า หมู่บ้านที่มีศักยภาพในด้านทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ที่ดีในทุกหมู่บ้านแต่ในบางหมู่บ้านไม่สามารถผักดันไปสู่เชิงนโยบายหรือประเด็นสาธารณะได้ เนื่องจากขาดผู้นำในการเปลี่ยนแปลงที่อาสาเข้ามาขับเคลื่อนงานเพื่อส่วนร่วมอย่างจริงจัง
1.7 ด้านการเชื่อมโยงกับเครือข่าย การดำเนินงานพัฒนาในแต่ละชุมชนมีการประสานงานจากหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรเอกชนเพื่อขอรับการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมอาชีพฝึกทักษะ ทุนการศึกษา จากหน่วยงานภาครัฐ คือ องค์การบริหารส่วนตำบล สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ ธนาคารเพื่อการเกษตร สำนักงานสาธารณสุขอำเภอและภาคเอกชน คือ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประทศไทย เป็นต้น แต่บางชุมชนยังเป็นการเชื่อมโยงแบบหลวมๆ ยังไม่ชัดเจนมากนักและส่วนใหญ่ยังเป็นการเชื่อมโยงกันภายในชุมชนเป็นหลัก ส่วนประโยชน์ที่ได้รับจากการเชื่อมโยงคือการที่สมาชิกเข้าใจบทบาทหน้าที่ของหน่วยงาน ไม่เกิดการซ้ำซ้อนในการทำงานระหว่างเครือข่าย มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งในและนอกชุมชน มีการบูรณาการงบประมาณ และประสานแผนของหน่วยงานต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น การทำปุ๋ยอินทรีย์ กลุ่มเลี้ยงโค เลี้ยงกบในบ้านหนองมะเขือ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องระหว่างกันเกิดความร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ด้านการเชื่อมโยงเครือข่าย พบว่า เกือบทุกหมู่บ้านยังค่อนข้างที่จะอยู่ในระยะการพัฒนากลุ่มในชุมชนเป็นหลักการเชื่อมโยงเครือข่ายกิจกรรมกับภายนอก จึงยังค่อนข้างที่มีอยู่ในระดับที่น้อย
1.8 ด้านบทบาทของหน่วยงานสนับสนุน หน่วยงานที่เข้ามามีบทบาทในการหนุนเสริมกระบวนการทำงานในหมู่บ้านเป้าหมายจะมี 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ สำนักงานเกษตรอำเภอ ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้จะดำเนินงานภายใต้นโยบายของรัฐบาลในสมัยนั้น เช่น กลุ่มด้านเงินทุน กลุ่มอาชีพ และหน่วยงานองค์กรภาคเอกชนที่สำคัญคือโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ รูปแบบการดำเนินงานของทั้งสองกลุ่มจะมีความแตกต่างกันออกไปตามนโยบายหรือภารกิจขององค์กรนั้น แต่การเป้าหมายหลักของทั้งสองกลุ่มคือ การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ในการประกอบอาชีพ ฝึกอบรม ศึกษาดูงาน และสนับสนุนเงินทุนในบางครั้ง เน้นไปที่การพัฒนาให้ชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้
1.9 ด้านความสามารถในการพัฒนา การดำเนินงานด้านการพัฒนาในหมู่บ้านเป้าหมายทุกหมู่บ้านยังต้องการองค์กรที่ปรึกษาจากหน่วยงานภายนอกให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพราะทุกหมู่บ้านยังเคยชินกับการเป็นผู้รับการพัฒนาและรูปแบบกิจกรรมที่หน่วยงานต่างๆ นำเข้าไปจะเป็นกิจกรรมที่เคยดำเนินการประสบผลสำเร็จในพื้นที่อื่นๆ แต่ขาดการคิดวิเคราะห์ถึงความเหมาะสม สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ จึงไม่นำไปสู่การเกิดกระบวนการเรียนรู้ คิดค้นองค์ความรู้ใหม่ๆ กิจกรรมเด่นๆ ที่ประทับใจของชุมชนส่วนมากจะเป็นการดำเนินงานด้านกิจกรรมเงินทุนและสวัสดิการ
1.10 ด้านองค์ความรู้เด่นในชุมชน ชุมชนส่วนใหญ่จะมีองค์ความรู้เด่นอยู่ทุกหมู่บ้านขึ้นอยู่กับบริบทชุมชน ซึ่งมีความเหมือนและความแตกต่างกันในแต่ละชุมชน แต่องค์ความรู้เด่นๆ ที่ทุกหมู่บ้านมีคล้ายๆ กันคือการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับใช้กับการประกอบอาชีพแบบดั้งเดิม เช่น การเพาะเห็ดฟางแบบโรงเรือน การเลี้ยงกบ เลี้ยงปลาในกระชังแทนการเลี้ยงแบบธรรมชาติ และที่เห็นเด่นชัดในทุกหมู่บ้านคือ การบริหารจัดการกลุ่มองค์กรด้วยสัจจะวาจา การไก่เกี่ยข้อพิพากด้วยระบบประณีประนอมยอมความ ทำให้การบริหารจัดการกลุ่มดำเนินไปอย่างเป็นระบบไม่เคยมีกรณีข้อพิพากทางกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินงานของกลุ่ม
1.11 ด้านการจัดการความรู้ของของกลุ่มและองค์กรชุมชน การจัดการความรู้ของกลุ่มและองค์กรชุมชนส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านที่กำลังพัฒนา การจัดการความรู้ของชุมชนจึงยังไม่ค่อยมีระบบการจัดการความรู้และการถ่ายทอดความรู้ที่เป็นระบบมากนัก เป็นความรู้ที่อยู่ในตัวคนเป็นหลัก(Tacit Knowledge)ยังไม่ได้มีการจัดเก็บไว้ในเอกสารที่ชัดเจน(Explicit Knowledge) แต่ชุมชนยังมีจุดเด่นอยู่ในเกือบทุกชุมชน คือ ชุมชนมีผู้นำที่เข้มแข็ง มีวิสัยทัศน์กว้างไกล รู้จักนำหลักความพอเพียงมาใช้ในหมู่บ้านและทำเป็นตัวอย่างชาวบ้านคอยแนะนำและกระตุ้นให้เกิดความรู้ โดยชาวบ้านซึมซับความต้องการไปทีละนิดในการเปลี่ยนความคิด และพัฒนาตัวเองไปด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งผลต่อการพัฒนาความสามารถในการจัดการความรู้ที่ดีได้ในอนาคตส่งผลให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งได้ สรุปผลการเรียงลำดับปัจจัยแห่งความสำเร็จที่ชุมชนมีความเห็นร่วมกันว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญที่ชุมชนมีและควรมีการพัฒนาให้มากขึ้นเพื่อส่งผลต่อการพัฒนาชุมชนให้มีความยั่งยืนต่อไปสามารถสรุปและเรียงลำดับตามความสำคัญได้ดังนี้ ด้านการมีส่วนร่วม ด้านภาวะผู้นำ ด้านบทบาทของหน่วยงานสนับสนุน ด้านองค์ความรู้เด่น และด้านการจัดการความรู้ขององค์กรชุมชน
2. ผลการประเมินปัจจัยแห่งความสำเร็จในการดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนและเป็นพื้นที่พึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ ระดับตำบล
2.1 ตำบลดอกล้ำ
2.1.1 ด้านการมีส่วนร่วม ทุกหมู่บ้านจะมีระดับการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนอยู่ในระดับมากต่อประเด็นสาธารณะ ทั้งในส่วนของการร่วมคิด ร่วมปฏิบัติ และร่วมรับผิดชอบ จึงส่งผลให้หมู่บ้านเหล่านี้จะมีกิจกรรมการดำเนินงานที่ต่อเนื่องทั้งในส่วนของกิจกรรมที่เกิดขึ้นจากการสนับสนุนของโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ และกิจกรรมที่ต่อเนื่องและเกิดขึ้นจากการขับเคลื่อนของคนในชุมชนเอง เกิดเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนของคนในชุมชนทั้งที่เป็นทางการคือการประชุมประจำเดือน และไม่เป็นทางการคือการพูดคุยกันในกลุ่มองค์กรแตกต่างจากหมู่บ้านในระดับอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน เช่น บ้านค้อ บ้านแสนสี ซึ่งจะมีกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันที่หลากหลายและต่อเนื่อง
2.1.2 ด้านภาวะผู้นำ ภาวะผู้นำเป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีผลต่อการดำเนินงานของชุมชนอยู่ในระดับมาก โดยเฉพาะผู้นำที่เป็นทางการซึ่งถือว่ามีความสำคัญกับการขับเคลื่อนงานพัฒนาในชุมชน นอกจากนี้ยังพบว่าในการดำเนินงานภายใต้โครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ หากหมู่บ้านไหมมีตัวแทนชุมชน หรือที่เรียกว่า “อาสา” ประจำหมู่บ้านเข้าไปบริหารงานในโครงการจะส่งผลให้หมู่บ้านดังกล่าวจะมีระดับการดำเนินงานอยู่ในระดับดี (A) นอกจากนี้แล้วการที่จะทำให้การดำเนินงานโครงการและกิจกรรมพัฒนาในหมู่บ้านดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้นำทางการและผู้นำทางธรรมชาติถือว่ามีความสำคัญมาก หากหมู่บ้านใดมีผู้นำที่มีความรู้ความสามารถ เสียสละ มีความซื้อสัตย์ สุจริตและมีคุณธรรม เป็นผู้อำนวยและเอื้อประโยชน์ให้เกิดเวทีการเรียนรู้แลกเปลี่ยนระหว่างลูกบ้านกับหน่วยงานภายนอกก็จะส่งผลให้การดำเนินงานภายใต้โครงการของชุมชนอยู่ในระดับดีกว่าหมู่บ้านอื่นๆ เช่น บ้านโนนจาน บ้านหนองส่วย ตำบลโนนสง่า บ้านหนองมะเขือ บ้านโนนท่อน ตำบลสระบัว บ้านแสนสี บ้านค้อ ตำบลดอกล้ำ ซึ่งทุกหมู่บ้านมีผู้นำที่ตรงตามลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น
2.1.3 ด้านโครงสร้างกลุ่มองค์กรชุมชน จะมีตัวบ่งชี้ความสำเร็จอย่างหนึ่งที่แตกต่างจากตำบลอื่นๆ คือ การมีกลุ่มองค์กร และกิจกรรมที่หลากหลายซึ่งรูปแบบกิจกรรมก็จะแตกต่างกันออกไปตามศักยภาพของพื้นที่ และความต้องการของชุมชนและเป็นกิจกรรมที่เกิดจากการสนับสนุนของทั้งหน่วยงานภาครัฐ และการสนับสนุนจากองค์กรพัฒนาเอกชน ซึ่งรูปแบบกิจกรรมที่สนับสนุนก็จะมีทั้งแตกต่างกันและมีการบูรณาการเข้าด้วยกันจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ หน่วยงานภาครัฐจะเน้นไปที่ การส่งเสริมกลุ่มอาชีพ และกลุ่มเกี่ยวกับสถาบันทางการเงินชุมชน เช่น กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มกองทุนเงินต่างๆ ส่วนหน่วยงานภาคเอกชนโดยเฉพาะมูลนิธิศุภนิมิตฯ จะเน้นการส่งเสริมกิจกรรมด้านการศึกษาของเด็ก และการประกอบอาชีพเสริมของผู้ปกครอง เช่น การเพาะเห็ดฟาง เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา เลี้ยงโคเนื้อ ซึ่งหมู่บ้านในระดับดีจะมีกลุ่มองค์กรดังกล่าวและมีการดำเนินงานอย่างชัดเจน
2.1.4 ด้านการประเมินสภาพปัญหา การดำเนินงานของหมู่บ้านตำบลดอกล้ำ จะมีรูปแบบการดำเนินงานที่เด่นและแตกต่างอย่างชัดเจนกับตำบลอื่น โดยเฉพาะขั้นตอนการคิด วางแผน และวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพราะเป็นตำบลนำร่อง แต่ส่วนมากจะเป็นการประชุมหารือกันผ่านเวทีการประชุมประจำเดือน ยังไม่มีการจัดเวทีเพื่อสรุปบทเรียนการดำเนินงานโครงการโดยตรงและที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการขาดการจดบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรในทุกหมู่บ้านประกอบกับแผนที่เกิดขึ้นจากการระดมของคนในชุมชนเองยังขาดการผักดันไปสู่เชิงนโยบายขององค์กรภาครัฐ และไม่มีการปฏิบัติอย่างจริงจังการดำเนินงานยังยึดติดอยู่กับนโยบายขององค์กรภายนอกที่เป็นเจ้าของทุนมากกว่าความต้องการของชุมชน
2.1.5 ด้านการระดมทุน ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะส่งผลถึงความสำเร็จในการพัฒนาชุมชนเพื่อการพึ่งตนเอง ในส่วนของการดำเนินงานภายใต้การสนับสนุนของโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ พบว่า หมู่บ้านที่ประสบผลสำเร็จในระดับ A ในตำบลมีการระดมทุนภายในเพื่อการดำเนินงานหนุนเสริมหน่วยงานภายนอกอยู่ในระดับสูง เช่น แรงงาน เงินหุ้น วัสดุอุปกรณ์ ที่ใช้ในการดำเนินงานของกลุ่มองค์กร ได้แก่ ไม้ไผ่ หญ้าคา ใช้ทำโรงเรือนเพาะเห็ด นอกจากนี้ในบางกลุ่มองค์กร บางหมู่บ้าน ยังมี่การระดมเงินทุนสมบทเพื่อเป็นงบดำเนินการและกระตุ้นให้สมาชิกรู้สึกถึงความเป็นเจ้ากิจการร่วมกันอีกด้วย
2.1.6 ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ ชุมชนมีการประชุมร่วมกันกับสมาชิกอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ซึ่งจากการประเมิน พบว่า หมู่บ้านที่มีศักยภาพในด้านทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ที่ดีในระดับหนึ่ง เช่น บ้านดอกล้ำมีความสนใจที่จะผักดันแผนกิจกรรมของกลุ่มไปสู่เชิงนโยบายขององค์ปกครองส่วนท้องถิ่น และมีการบูรณาการแผนไปสู่การปฏิบัติกับหน่วยงานภาคีต่างๆ ที่ดำเนินงานในชุมชน
2.1.7 การเชื่อมโยงกับผู้อื่น ถือว่าเป็นจุดเด่นของตำบลดอกล้ำ มีการเชื่อมโยงภาคีในการทำงานทั้งในระดับเครือข่ายกลุ่มองค์กร เครือข่ายหมู่บ้าน และเครือข่ายในระดับอำเภอ โดยมีหมู่บ้านแม่ข่ายในเรื่อง เช่น เครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์ เครือข่ายกลุ่มปุ๋ยชีวภาพ นอกจากนี้ยังมีการประสานงานกับเครือข่ายกับหน่วยงานและองค์ภาครัฐในการหนุนเสริมความรู้ด้านวิชาการ และงบประมาณ เช่น องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ สำนักงานเกษตรอำเภอ และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในพื้นที่คือ ธนาคารพาณิชย์และแหล่งเงินทุนต่างๆ ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งของชุมชนที่จะนำไปสู่การพึ่งพาตนเองได้
2.1.8 บทบาทของหน่วยงานสนับสนุน หน่วยงานที่เข้ามามีบทบาทในการหนุนเสริมกระบวนการทำงานในตำบลดอกล้ำจะมี 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ สำนักงานเกษตรอำเภอ และหน่วยงานองค์กรภาพเอกชนที่สำคัญคือโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ รูปแบบการดำเนินงานของทั้งสองกลุ่มจะมีความแตกต่างกันออกไปตามนโยบายหรือภารกิจขององค์กรนั้น แต่การเป้าหมายหลักของทั้งสองกลุ่มคือ การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ในการประกอบอาชีพ ฝึกอบรม ศึกษาดูงาน และสนับสนุนเงินทุนในบางครั้ง เน้นไปที่การพัฒนาให้ชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้
2.1.9 ความสามารถในการจัดการงานพัฒนา หมู่บ้านพร้อมที่จะรับการพัฒนาทุกหมู่บ้าน แต่ยังไม่มีหน่วยใดเข้าไปวางแผนระยะกลาง (3-5 ปี)หรือระยะยาว (6-10 ปี)พัฒนาอย่างจริงจัง ทั้งที่ผู้นำชุมชน ชาวบ้านพร้อมรับการพัฒนาเพราะเป็นหมู่บ้านขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ คนในหมู่บ้านส่วนมากเป็นเครือญาติพี่น้องกัน จึงมีความพร้อมที่จะรับการพัฒนาและค่อนข้างที่จะมีความสามารถที่จะจัดการพัฒนาความเข้มแข็งของชุมชนได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งสมาชิกในชุมชนมีความคิดที่จะพัฒนาชุมชนของตนเองอย่างต่อเนื่องแต่ปัจจุบันยังขาดการสนับสนุนที่ต่อเนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2.1.10 องค์ความรู้เด่น การดำเนินงานที่ผ่านมาในพื้นที่ยังไม่มีองค์ความรู้เด่นๆ ทั้งนี้เนื่องจากยังไม่มีการดำเนินกิจกรรมกลุ่มองค์กรที่ชัดเจน จะพอมีบางในส่วนของหมู่ที่อยู่ในระดับดี เช่น การเรียนรู้ค้นหาสูตรการเพาะเห็ดฟางให้ได้คุณภาพด้วยการลองถูกลองผิด บ้านหนองมะเขือ คิดค้นหาสูตรปุ๋ยที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่บ้านโนนท่อน เพราะการดำเนินงานที่ผ่านมาส่วนมาจะเน้นที่การส่งเสริมการศึกษาของเด็ก โดยผ่านกลไกของโรงเรียนและสถานศึกษาในพื้นที่เป็นหลัก
2.1.11 การจัดการความรู้ของกลุ่มองค์กรชุมชน ในระยะแรกชุมชนยังไม่มีความมั่นใจต่อแนวทางการดำเนินงานของมูลนิธิฯ จึงส่งผลให้แต่ละหมู่บ้านมีครอบครัวในอุปการะจำนวนน้อย แต่หลังจากมีการดำเนินงานไประยะหนึ่งชุมชนจึงให้ความไว้วางใจและสนใจให้ลูกหลานเข้าร่วมโครงการมากขึ้น และให้ความร่วมมือในการดำเนินงานของโครงการฯ นอกจากนี้ในบางหมู่บ้านยังมีการบูรณาการแผนและประสานงบประมาณจากหน่วยงานอื่นๆ ในพื้นที่มาหนุนเสริมกิจกรรมของโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ อีกทางหนึ่ง ส่งผลให้งานพัฒนาในหมู่บ้านมีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่อยู่ในระดับดี A เช่น บ้านค้อ บ้านแสนศรี เป็นต้น
2.2 ตำบลสระบัว
2.2.1 ด้านการมีส่วนร่วม ชุมชนให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะเป็นอย่างดี แต่ในการดำเนินงานของโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ ชุมชนมีส่วนร่วมอยู่ในระดับที่น้อย โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่อยู่ระดับต้องปรับปรุง การร่วมคิดร่วมวางแผนในการดำเนินงานจะน้อยกว่าหมู่บ้านอื่นๆ ทั้งนี้เพราะโครงสร้างการบริหารงาน และกลไกการทำงานของโครงการเน้นการทำงานกับกลุ่มเป้าหมายเด็กและโรงเรียนมากกว่าชุมชน ประกอบกับการประสานงานโดยผ่านตัวแทนชุมชน คือ “อาสา” อำนาจการตัดสินใจบางอย่าง จึงขาดการประชุมหารือร่วมกับชุมชน ส่งให้ปัญหาและความต้องการของชุมชนในบางเรื่องไม่ได้รับการนำไปสู่การแก้ไขนำไปสู่การให้ความสนใจเข้าร่วมกาจกรรม แต่ชุมชนก็ยังสนใจที่จะเข้ามามีส่วนร่วมหากมีโอกาสจึงถือได้ว่าชุมชนยังมีส่วนร่วมอยู่ในระดับที่น้อย ในการร่วมคิดร่วมวางแผนดำเนินงาน เช่น บ้านเขวาโคก
2.2.2 ด้านภาวะผู้นำ จะมีการแต่งตั้งผู้ครองเข้ามาเป็นผู้ประสานงานระหว่างโครงการกับชุมชน เรียกว่าอาสา ซึ่งเป็นตัวเชื่อมข้อมูลข่าวสารระหว่างเจ้าหน้าที่โครงการกับชุมชนและเด็ก แต่จากการดำเนินงานที่ผ่านมาชุมชนไหนมีอาสาที่มีความรู้ความสามารถและมีภาวะผู้นำสูงก็จะส่งผลให้งานโครงการในหมู่บ้านดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีกิจกรรมการดำเนินงานที่ต่อเนื่อง เช่น ในส่วนของบ้านดอนดู่ไม่มีอาสาส่งผลให้ในหมู่บ้านไม่มีกิจกรรมในส่วนของผู้ปกครอง หรือครอบครัวจะมีเฉพาะกิจกรรมของเด็ก การดำเนินงานในหมู่บ้านที่เข้าข่ายในลักษณะนี้ การดำเนินงานจะประสานผ่านผู้นำชุมชนที่เป็นทางการเพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งข่าว หรือนัดหมายในการพบปะในบางโอกาส และในหมู่บ้านที่มีการเปลี่ยนผู้นำใหม่จะไม่ค่อยมีบทบาทในการดำเนินงานโครงการฯ เช่น บ้านบัวขาว
2.2.3 ด้านโครงสร้างกลุ่มองค์กรชุมชน จะมีอยู่สองลักษณะคือ กลุ่มกิจกรรมที่เกิดจากการจัดตั้งและส่งเสริมโดยหน่วยงานของภาครัฐ เช่น สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ สำนักงานเกษตรอำเภอ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มแม่บ้านแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร กลุ่มกองทุนและสวัสดิการชุมชน ซึ่งจะมีอยู่ในทุกหมู่บ้าน และอีกรูปแบบหนึ่งเป็นกลุ่มองค์กรที่จัดตั้งหรือส่งเสริมโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ เช่น เพาะเห็ดฟาง เลี้ยงปลา เลี้ยงกบ เลี้ยงโค ซึ่งจะมีไม่ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน
2.2.4 ด้านการประเมินสภาพปัญหา กิจกรรมที่ดำเนินในแต่ละหมู่บ้านของตำบลสระบัวจะมีอยู่ 2 ประเด็น คือ กิจกรรมเกี่ยวกับเด็ก และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้ปกครองหรือครอบครัวกิจกรรมทั้งสองอย่างจะแยกกันอย่างเห็นได้ชัด เช่น กิจกรรมเกี่ยวกับเด็กจะมีทางโรงเรียนเป็นผู้มีบทบาทและกลไกในการขับเคลื่อนงานครอบคลุมทุกหมู่บ้านเป้าหมาย ส่วนกิจกรรมของผู้ปกครองจะเน้นเรื่องอาชีพ รูปแบบกิจกรรมจะเน้นในเรื่องของการส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัว กลุ่มอาชีพ และแผนงานกิจกรรมจะมีรูปแบบที่คล้ายกัน การดำเนินกิจกรรมส่วนมากจะไม่ค่อยยั่งยืนทำพอหมดงบประมาณสนับสนุนแล้วก็จบไปไม่มีการสรุปบทเรียนเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข
2.2.5 ด้านการระดมทุน ตำบลสระบัวเป็นตำบลขาดใหญ่มีหมู่บ้านที่เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก และส่วนมากจะมีหมู่บ้านในระดับต้องปรับปรุง C เป็นส่วนใหญ่ งบประมาณสนับสนุนกลุ่มองค์กร และกลุ่มอาชีพโดยตรงจากโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ จะมีบ้างก็จะเป็นการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ เช่น การอบรมหรือศึกษาดูงาน จึงส่งผลให้ชุมชนยังไม่มีการระดมทุนในการดำเนินงานที่เกิดจากการส่งเสริมของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ในหลายหมู่บ้าน
2.2.6 ด้านทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ ส่วนมากจะไม่มีกิจกรรมที่ไม่ต่อเนื่องและบางหมู่บ้านยังไม่มีอาสาสมัครในชุมชนทำให้ไม่ค่อยมีกิจกรรม และในบางหมู่บ้านไม่มีกิจกรรมเลย ส่งผลให้ไม่ค่อยมีเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของกลุ่มเป้าหมาย ในส่วนของผู้ปกครองจะมีการพบปะกันเฉพาะในวันคริสต์มาสของแต่ละปี และในวันที่มีการแจกสิ่งของหรืออุปกรณ์การเรียนเท่านั้น นอกจากนี้ในชุมชนก็จะไม่ค่อยนำเรื่องเกี่ยวกับโครงการเข้ามาพูดคุยในเวทีระดับหมู่บ้าน ซึ่งมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอยู่สองอย่าง คือ กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการเมื่อเทียบกับจำนวนครัวเรือนในหมู่บ้านยังมีน้อย และชุมชนขาดการติดต่อและไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารเนื่องจากไม่มีอาสาประจำหมู่บ้าน เช่น บ้านดอนดู่ บ้านอีถุน บ้านบัวขาว เป็นต้น
2.2.7 ด้านการเชื่อมโยงกับผู้อื่น ที่ผ่านมามีการเชื่อมโยงกิจกรรมจากหน่วยงานองค์การบริหารส่วนตำบล สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ มูลนิธิศุภนิมิตฯ โดยโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเอง และยั่งยืนนิมิตรวมใจ และหน่วยงานภาคีการพัฒนาอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน การดำเนินงานกับหน่วยงานต่างๆ เหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชนได้มีความเป็นอยู่ที่ดีด้วยหลักการความเป็นอยู่แบบพอเพียง ซึ่งจะนำไปสู่ชุมชนเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้ และในบางหมู่บ้านก็มีการบูรณาการแผนงานของแต่ละหน่วยงานเข้าด้วยกัน ทำให้การดำเนินงานมีความยืดหยุ่นเอื้อประโยชน์ให้เกิดการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องของคนในชุมชนและกลุ่มองค์กร
2.2.8 ด้านบทบาทของหน่วยงานสนับสนุน ส่วนมากมีจะหน่วยงานของภาครัฐ คือ องค์การบริหารส่วนตำบล สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ สำนักงานเกษตรอำเภอ รูปแบบการดำเนินงานจะเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในช่วงนั้นๆ เช่น การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ในการประกอบอาชีพ ฝึกอบรม ศึกษาดูงาน และสนับสนุนเงินทุนในบางครั้ง นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานพัฒนาองค์กรเอกชน เช่น มูลนิธิศุภนิมิตฯ ซึ่งถือเป็นหน่วยงานหลักที่เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาชุมชนไม่น้อยไปกว่าหน่วยงานของภาครัฐ รูปแบบการดำเนินงานจะเน้นไปที่การพัฒนาให้ชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้ โดยเน้นพัฒนาเด็กเป็นศูนย์กลางผ่านสถานศึกษาในชุมชน
2.2.9 ความสามารถในการจัดการงานพัฒนา ผลสำเร็จจากการดำเนินงานของโครงการที่มีต่อชุมชนที่เห็นเด่นชัดและเป็นรูปธรรมสามารถนำไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีตามเป้าหมาย คือ การส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก และการสนับสนุนด้านการศึกษาของเยาวชน ซึ่งส่งผลให้ครอบครัวสามารถลดรายจ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลาน นอกจากนี้เด็กยังมีโอกาสเข้าถึงการบริการด้านการศึกษาที่สูงขึ้น เช่น การเข้าค่ายทักษะชีวิตร่วม
ขอบคุณที่พยายามทำในประเด็นดีๆ เรื่องดีๆ ให้ท้องถิ่น ขอให้ทำต่อเนื่องเพื่อท้องถิ่นจะได้เจริญและเข้มแข็งด้วยตัวเอง ขอเป็นกำลังใจ ทุกคนในประเทศไทยต้องร่วมกันทำสิ่งดีๆให้กับสังคม ในโอกาส หน้าที่ และความสามารถที่ทำได้