ปีกมาร(๑)


คราวนี้มาเรียนรู้กฎหมายครอบครัวกันนะครับ

ปีกมาร

อัยการชาวเกาะ

           บทความชิ้นนี้เขียนตั้งแต่ผมรับผิดชอบงานด้านคุ้มครองสิทธิประชาชนอยู่ที่สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต เมื่อประมาณปี ๒๕๔๖ ตอนนั้นละครปีกมารกำลังดัง เห็นว่าจะเป็นประโยชน์เกี่ยวกับกฎหมายครอบครัว จึงเอามาลง blog ให้อ่านกันครับ

            หลังจากขึ้นตำแหน่งอัยการจังหวัดประจำกรม รับผิดชอบงาน ส...ซึ่งคิดว่างานผมที่ทำอยู่น่าจะน้อยลง ก็ให้บังเอิญมีเหตุเภทภัย เนื่องจากคำสั่งของสำนักงานอัยการสูงสุดบอกว่า ใครที่ขึ้นตำแหน่งใหม่ในจังหวัดเดิมให้รับสำนวนเก่าไปว่าความจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เล่นเอาอัยการชาวเกาะอย่างผมตาเหลือกเลย ไหนจะต้องไปว่าความทุกเช้า บางทีก็ต้องว่าตอนบ่ายด้วย กลับมาถึงสำนักงาน ชาวบ้านมานั่งรอกันตาแป๋ว บางกรณียกโขยงกันมาขอให้ไปดูที่ดินที่เกิดเหตุและช่วยแก้ปัญหาเรื่องทางเข้าออกให้ด้วย เมื่อบอกว่าไม่มีเวลาก็ขอให้ไปดูหลังเลิกงานก็ได้เขาจะรอ แล้วจะให้ผมทำยังไง ผมก็ต้องไปดูที่เกิดเหตุหลังเลิกงานลุยโคลนเข้าไปเลย เท่านั้นยังไม่พอ ตอนแรกเมื่อรู้ข่าวว่าได้ตำแหน่ง ตามวิธีปฏิบัติก็คือเมื่อขึ้นตำแหน่งนี้ ก็ทำงานบริหารไป วางแผนออกเผยแพร่กฎหมาย ให้ความรู้กับประชาชน เห็นว่าในแต่ละวันเรายังพอมีเวลาว่าง ใครเชิญมาให้สอนหนังสือก็จะยินดีรับสอนให้เลย ซึ่งค่าสอนต่อชั่วโมงน้อยกว่าเงินเดือนของผมที่คำนวณออกมาเป็นชั่วโมง ๔ - ๕ เท่าเพราะถือว่าเป็นการให้วิทยาทาน และผมต้องการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ให้กับเด็กเหล่านั้นด้วย แถมยังไปรับปากสถาบันราชภัฏภูเก็ต ไปสอนระดับปริญญาตรีให้ที่จังหวัดพังงาเสาร์อาทิตย์อีกวันละ ๕ ชั่วโมง เท่ากับว่าใน ๑ สัปดาห์ ผมจะไม่มีเวลาว่างเลย

            เวลากลับถึงบ้านก็แทบหมดแรง อาบน้ำทานข้าวเสร็จแทบจะไม่ได้ทำงานอื่นเลย ใช้เวลาพักผ่อนกับการดูโทรทัศน์ มีอยู่วันหนึ่งเปิดไปเจอละครช่อง ๓ เห็นบทบาทของคุณดวงใจ หทัยกาญจน์ เกรี้ยวกราดกับลูกสะใภ้ พอลูกชายกลับมาก็ทำบทอ้อนว่าลูกสะใภ้ไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ เอ๊ะ ละครเรื่องนี้เป็นละครชีวิตที่เข้าแฮะ แม้จะดูน้ำเน่า และเวลาดูมันก็เครียดนะ เอาเถอะดูแล้วก็ดูให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเองและผู้อื่น ทำน้ำเน่ามาให้เป็นน้ำสะอาดซิ และจะได้ทำหน้าที่ของผมได้อย่างเต็มที่ นี่ก็เลยเป็นที่มาของบทความเรื่องนี้ อารัมภบทมายาวเฟื้อยเพื่อจะบ่นว่างานหนักเท่านั้นเอง แฮ่……..

            พร้อมหรือยังครับ ตามผมมาดูละครเรื่องนี้กันดีกว่า มันเป็นเรื่องของ คุณนายสลัก แม่ม่ายผัวตาย เลี้ยงลูกชายคนเดียวคือ ภูฉาย ด้วยความรักสุดหัวใจ ประคบประหงมจนลูกชายจบการศึกษาโดยที่ไม่มีแฟน (ผิดปกติของคนวัยนี้ แต่ก็ให้คะแนนความน่าเชื่อถือได้ เพราะเรื่องนี้ภูฉายจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยม) แล้วทำงานเป็นรองผู้จัดการธนาคาร วันหนึ่งภูฉายมีอายุ ๓๐ ปีแล้วกามเทพแผลงศรให้พบกับ ศลัยลา สถาปนิกสาว ผู้มีความเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วเขาก็รักกัน (ทำไมความรักของภูฉายมันอืดขนาดนี้ก็ไม่รู้ เดี๋ยวนี้ขอขึ้น ม.๑ ม.๒ ก็เริ่มรู้ว่าการมีสามีเป็นอย่างไร เฮ้อ….)และได้แต่งงานกันท่ามกลางความไม่พอใจของคุณนายสลัก แต่ก็จำยอม

       ชีวิตสมรสของคนทั้งสองไม่มีความสุขเลยเพราะคุณนายสลักหวงลูกชายเหมือนจงอางหวงไข่ จะต้องให้ลูกชายอยู่ด้วยกับตนตลอดเวลา ทำให้ชีวิตสมรสของภูฉาย และ ศลัยลา ไม่มีความสุข เพราะภูฉายห่วงแม่ คุณนายสลักหวงลูก นัดจะทำเรื่องที่เป็นส่วนตัวก็ไม่ได้ (อะแฮ้มผมหมายถึงจะไปกินข้าวนอกบ้าน ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง อย่าคิดลึกไปถึงตอนเข้านอนนะ แฮะๆๆ) คุณนายสลักจะต้องมีเรื่องเป็นลมให้ภูฉายกลับบ้านทุกครั้ง จนศลัยลารับไม่ได้

         จนกระทั่งศลัยลาคลอดลูก ก็ถูกคุณนายสลักใช้เล่ห์เพทุบายเอาหลานไปเลี้ยงเองที่บ้านไม่ยอมให้ศลัยลากับภูฉายแยกครอบครัวไม่ยอมให้จ้างพี่เลี้ยง และเข้าไปนอนในห้องของภูฉายกับศลัยลาด้วย (เฮ้อเวรกรรม ขอโทษ..ท่านผู้อ่านที่เป็นเมียทั้งหลาย เคยเจอแม่ผัวแบบนี้ไหมครับ คุณคิดจะทำอะไร อ๊ะขอให้คิดอย่างเดียวนะครับ อย่าทำอย่างที่คิด) และแล้ว ศลัยลาก็ตัดสินใจแยกกันอยู่กับภูฉาย โดยการรับงานไปคุมงานที่ต่างจังหวัด และที่นั่นก็ได้รู้จักกับลายสือเพื่อนสนิทของน้องชายศลัยลาเอง และถูกลายสือตื๊อจนหัวใจศลัยลาหวั่นไหว และรักกันโดยที่ไม่มีเรื่องเพศสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง

    เมื่อศลัยลาเสร็จงานกลับมาบ้านก็เจอลูกเล่นของคุณนายสลักอีกครั้งจึงตัดสินใจหย่าขาดกับภูฉาย เมื่อภูฉายไม่ยอมหย่าก็ต้องปรึกษา ภมร เพื่อนซึ่งเป็นทนายความและหลงรักศลัยลา ซึ่งก็ยุให้หย่าและได้คุยกับคุณนายสลักให้พาภูฉายไปหย่าขาดกันที่สำนักงานเขต แต่เมื่อภูฉายไม่ยอมหย่าดำเนินการฟ้องหย่าให้ ฝ่ายคุณนายสลักเห็นว่าไม่อาจพูดให้ลูกชายฟ้องหย่าศลัยลาได้แล้ว จึงถือโอกาสตอนที่ลูกชายเมาให้เซ็นชื่อในใบแต่งทนาย ฟ้องศลัยลาหาว่าคบชู้ และพาลูกน้องบุกเข้าไปในบ้านศลัยลา จับคนใช้มัดและขนทรัพย์สินในบ้านซึ่งเป็นของศลัยลาออกไปโดยถือว่าเมื่อศลัยลาแพ้คดีก็ไม่ต้องมาแบ่งทรัพย์สินกันอีก แต่เรื่องคดียังไม่ทันดำเนินการไปถึงไหน คุณนายสลักก็ช็อกหมดสติไปเพราะเมื่อภูฉายหมดความอดทนก็พูดในสิ่งที่อัดอั้นใจอยู่นานว่า คุณนายสลักนั่นแหละเป็นคนทำลายชีวิตภูฉายจนพังพินาศและคุณนายสลักกำลังฆ่าเขา

          ระหว่างที่ภูฉายดูแลมารดาอยู่ที่โรงพยาบาล  ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกของภูฉายกับศลัยลาป่วย        เป็นไวรัสลง กระเพาะ ทำให้ศลัยลารู้ถึงความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่กำลังสูญเสียลูก จึงให้อภัยคุณนายสลักเมื่อคุณนายสลักได้ยินลูกสะใภ้ยอม อดทนเพราะรู้ว่าความรักของแม่ที่มีต่อลูกเป็นอย่างไร จึงสำนึกผิดและเรื่องราวก็จบลงอย่างมีความสุข

            กว่าจะสรุปเรื่องจบลงแค่นี้ ผมต้องอ่านบทละครตั้งหลายหน้า และในละครเรื่องนี้เรามีข้อกฎหมายให้วิเคราะห์หลายเรื่อง และเรายังมีเรื่องศีลธรรมจรรยาให้พูดถึงกันอีก ผมว่ามันเหมาะที่เราจะมาวิเคราะห์เรื่องนี้กันกับเรื่องที่เป็นความจริงในสังคมยุคปัจจุบัน

            เอาละ ผมจะเริ่มละนะเรื่องแรกก็คือความเป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย ซึ่งกำหนดว่าการสมรสโดยชอบด้วยกฎหมายนั้นจะต้องจดทะเบียนสมรส เรื่องนี้มีการฟ้องหย่ากันแสดงว่า ภูฉายกับศลัยลา จดทะเบียนสมรสกันแน่นอน   มิฉะนั้นจะไม่มีเรื่องของการฟ้องหย่า เพราะการสมรสจะสิ้นสุดลงตามกฎหมายนั้น มีเหตุอยู่ ๓ ประการ คือ ความตาย การหย่า กับศาลพิพากษาให้เพิกถอน

ในส่วนของการหย่า นั้น กฎหมายเขาบอกว่า

การหย่านั้นจะทำได้แต่โดยความยินยอมของทั้งสองฝ่ายหรือโดยคำพิพากษาของศาล

การหย่าโดยความยินยอมต้องทำเป็นหนังสือและมีพยานลงลายมือชื่ออย่างน้อยสองคน

 หากตกลงกันได้ด้วยดี ก็ไม่ต้องไปถึงศาล จูงมือกันไปอำเภอหรือที่ว่าการเขตแล้วจดทะเบียนหย่ากันเลย อ้อ อย่าลืมเอาบัตรประชาชนกับใบสำคัญการสมรสติดตัวไปด้วยนะ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ต้องหาคนกลางคือศาล เดี๋ยวนี้ที่ภูเก็ตเรามีศาลจังหวัดภูเก็ตแผนกเยาวชนและครอบครัว แล้วนะครับ คดีอย่างนี้หากเกิดขึ้นที่ภูเก็ต ศลัยลาต้องฟ้องภูฉายที่ศาลจังหวัดภูเก็ตแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวนะครับ แต่หากจังหวัดไหนไม่มีศาลเยาวชนและครอบครัว ก็ฟ้องที่ศาลจังหวัดนะครับ แต่ถ้าเป็นที่กรุงเทพมหานคร ก็ฟ้องที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางครับ

            ว้ากระดาษหมดแล้ว กำลังมันอดใจรอตอนต่อไปหน่อยนะครับ  เอท่านทราบไหมครับว่า  ทำไมละครเรื่องนี้จึงตั้งชื่อว่า ปีกมาร  ใครเป็นมาร แล้วปีกมันเกี่ยวอะไรด้วย งงจริงๆผับเผื่อย 
หมายเลขบันทึก: 131703เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2007 20:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม 2012 23:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • สวัสดีครับ
  • แวะมาเก็บเกี่ยวครับ
  • 555555  ผมคงยังไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้ คงอีกนานครับ
  • เพราะผมยังโสดอยู่เลยครับท่าน
  • รักษาสุขภาพนะครับ

ขอบคุณที่แวะมาทักทาย

เกี่ยวได้เยอะไหมครับ แฮ่..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท