ชั่วโมงนี้ขอเสนอผลงานของ น.ส. สาธิกา ห่อเย็น นักเรียนชั้น ม. ๕ ปี ๒๕๕๐ เขียนจากข้อความเริ่มเรื่องที่ครูกำหนดให้ ใช้เวลาสรางสรรค์ผลงาน ๒ ชั่วโมง อ่านแล้วโปรดช่วยวิจารณ์ด้วยนะคะเพื่อการพัฒนาของผุเรียนและครู ขอบคุณค่ะ อแน แอ่น แอ๊น....... หมู่บ้านแห่งความทรงจำ
หมู่บ้านแห่งความทรงจำ
สีคราม
นางสาวสาธิกา ห่อเย็นม. ๕ / ๑ / ๑ / ๒๕๕๐
“ ใครๆก็ช่วยคุณไม่ได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าคุณไม่คิดที่จะออกมาจากหมู่บ้านวันนี้ก่อนที่มันจะจมหายไปกับสายน้ำ” เสียงเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยร้องเร่งเตือนชาวบ้าน เมื่อสิ้นเสียงของเจ้าหน้าที่ ชาวบ้านต่างก็วิ่งวุ่นวายกับการเก็บข้าวของอย่างอลหม่าน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่กำลังวุ่นที่จะไปเก็บข้าวของ ของตัวเอง จนไม่สนใจคนรอบๆข้าง แต่ในความวุ่นวายอลหม่านก็มีหญิงชราคนหนึ่งที่นั่งนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับหมู่บ้านนี้ “ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับคุณยาย ” ผมถามพร้อมกับเดินเข้าไปหาคุณยาย “ บ้านคุณยายอยู่ที่ไหนครับเดียวผมจะไปช่วยคุณยายเก็บของ ” ผมพูดต่อ “ ไม่...ไม่ต้องหลอก ” “ เอ๊ะทำไมคุณยายพูดแบบนี้ล่ะครับ ” “ ยายอยู่ที่นี่ มาตั้งแต่เด็กๆ ที่นี่คือความทรงจำของยาย ถ้ายายจะตาย ยายก็ขอตายอยู่ที่นี่ ” “ แต่น้ำจะท่วมนะครับเจ้าหน้าที่เขาก็มาบอกเตือน ” “ พ่อหนุ่มไปเหอะ ยายรู้จักที่นี่ดี ยายจะไม่ทิ้งและจะไปไหนทั้งนั้น ” “ ไม่...ผมก็ไม่ไป ” ผมพูดขึ้นเมื่อนึกถึงความทรงจำ ที่ทำให้มีความสุขและเกิดความรู้สึกที่ดีๆ ที่ไม่อยากจะทิ้งที่นี่ไปไหน หมู่บ้านที่วุ่นวายก็เริ่มสงบลงเหมือนกับหมู่บ้านร้าง “ คุณยายมองผมแบบนี้ทำไมครับ ” “ ทำไมพ่อหนุ่มถึงไม่ไป ” “ ก็ผมรักที่นี่นี่ครับ ที่นี่เป็นที่ๆ ผมเกิด คุณพ่อคุณแม่ ญาติพี่น้องของผมรวมถึงคนที่ผมรัก ก็เกิดที่นี่ผมจึงมีความผูกพันกับที่นี่มากครับ” เสียงน้ำไหลดังมาแต่ไกล ตั่งแต่บนเขาที่ๆ มีต้นไม้ต้นเล็กต้นใหญ่ ที่คอยโต้แรงน้ำทำให้น้ำที่ไหลมาไม่แรงมากนัก “ คุณยายมากับผมนะครับผมมีที่ๆ หนึ่งที่อยากจะพาคุณยายไปมันเป็นที่ๆ ผมใช้เก็บความทรงจำของผม ” ผมพาคุณยายไปทีแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆ เขาใหญ่ที่นั่นมีถ้ำเล็กๆ พอให้คนเดินเข้าไปได้ “ คุณยายเข้าไปก่อนซิครับ ”ภายในถ้ำมืดสลัว เล็กน้อยแต่ก็สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในถ้ำได้ ในนั้นมีหีบเล็กๆ หลายหีบ “ หีบเหล่านั้นเป็นความทรงจำของผมเอง ” ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นคุณยายมองหีบเหล่านั้นอย่างสงสัยผมเปิดหีบใบหนึ่งขึ้นในนั้นมีรูปถ่ายผมหยิบรูปถ่ายขึ้นมาดู “ พ่อหนุ่มยิ้มอะไรรึ ” “ เธอคนนี้คือผู้หญิงที่ผมอยากใช้ชีวิตอยู่ด้วย ครับแต่เธอไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เธอสัญญากับผมว่าเธอจะกลับมาพร้อมกับความสำเร็จของเธอ เธอเป็นคนในหมู่บ้านนี้เกิดที่หมู่บ้านนี้เหมือนกับผม เธอเป็นทั้งแม่ ทั้งพี่ ทั้งน้อง และเพื่อนในเวลาเดียวกันผมใช้ถ้ำแห่งนี้ เป็นสถานที่ๆ ผมสัญญากับเธอ ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะรอเธออยู่ตรงนี้ ในถ้ำนี้ผมเคยมาแอบร้องไห้เวลาที่ผมมีปัญหา แต่เธอก็ตามหาผมจนพบแล้วคอยปลอบโยนผม เธอมักพูดว่า ปัญหาแค่นี้ไม่สามารถบังดวงอาทิตย์ได้ หากเธอมองปัญหาของเธอหลายมุมมองแล้ว เธอก็จะเห็นแสงสว่างของดวงอาทิตย์ ถ้าเธอไม่มัวแต่หันหลังวิ่งหนีมัน ”ผมนึกถึงคำพูดเหล่านี้ได้ดี เพราะเวลาที่ผมมีปัญหาผมก็จะคิดถึงคำพูดนี้เสมอๆ “ เวลาที่ผมคิดถึงเธอ ผมก็จะมาที่นี่ เพราะ ที่นี่มันเป็นที่ๆ เก็บความทรงจำ ของเราไว้ ” ผมได้เปิดหีบอีกหีบหนึ่งใกล้ๆ กับหีบของผม ในนั้นมีกระดาษแผ่นเล็กๆ หนึ่งแผ่นที่พับอยู่ ซึ่งผมไม่เคยรู้เลยว่ากระดาษแผ่นนี้คืออะไร ผมค่อยๆ แกะกระดาษแผ่นนั้นอย่างเบามือที่สุด เพราะมันเป็นกระดาษเก่า ในนั้นมีข้อความว่า “ กว่าพัฒน์จะได้อ่านกระดาษแผ่นนี้ พัฒน์ก็คงจะโตเป็นผู้ใหญ่กว่าเดิม คงจะเป็นคนที่มีเหตุผลมากกว่าเดิม คงจะไม่ขี้แยแบบก่อนแล้วซินะ ฉันมีสิ่งที่ติดค้างพัฒน์อยู่ จำได้ไหมตอนที่พัฒน์บอกฉันว่า พัฒน์รักฉัน และ ขอฉันแต่งงานฉัน ฉันจะกลับมาแต่งงานกับเธอ เมื่อเธอพร้อมที่จะดูแลฉัน ” “ ผมเกือบจะทิ้งความทรงจำของผมไปเพียงเพราะกลัวในสิ่งที่มันยังไม่เกิดขึ้น ” “ แต่ชีวิตของพ่อหนุ่มยังอยู่ได้อีกยาวไกล แต่ทำไมถึงเอามาทิ้งไว้อย่างนี้ ” “ ครับชีวิตของผมกับคุณยายยังอีกยาวไกล คุณยายต้องเชื่อผมนะครับว่าเราต้องไม่ตาย เราจะต้องอยู่ อยู่คู่กับหมู่บ้านแห่งความทรงจำของเรา