สุดท้ายเด็กสาวก็ยังคงทนกับการทารุณและทรมานอยู่อย่างนี้...แม้ในช่วงวันอีด..วันที่ทุกคนในครอบครัวออกไป
สนุกสนานหาความสุข...ก็ยังไม่เหลียวแลเธอ...ยังคงต้องเฝ้าบ้านทำงานบ้านต่อไปโดยไร้ซึ่งความเมตตา!!.....
ส่วนพ่อของเธอนั้นเราไม่ได้พบเจอเลยนอกจากไม่กี่ครั้ง....ตอนที่มารับเงินค่าจ้างและหลังจากนั้นเขาก็จะส่งคนอื่น
ที่เป็นญาติกับเขามารับแทนตลอด....และเธอก็ไม่เคยที่จะได้พบกับแม่และพี่น้องของเธอนอกเสียจากในโอกาสที่สำคัญ
ที่สุด3ครั้งเท่านั้น!!....ครั้งแรกตอนที่พี่คนโตเสียชีวิต!...ครั้งที่สองตอนที่เธอป่วยหนักจนเรากลัวว่าจะติดไปยังลูกของเรา
และครั้งที่3 ตอนที่พ่อของเธอเสียชีวิต!!!.....
....ดิฉันจะร้องไห้ทุกครั้ง...ที่ดิฉันนึกถึงความโหดร้ายทารุณที่เราได้กระทำต่อเด็กสาวที่น่าสงสารนั้น....ในบางครั้งสามี
ดิฉันจะช๊อตเธอด้วยไฟฟ้า...จะเฆี่ยนเธอด้วยสายไฟฟ้า...และบ่อยครั้งที่เราให้เธออดอาหารตลอดทั้งคืนในยามฤดูหนาว
จนกระทั่งเธอหลับไปด้วยความหิว...ดิฉันนึกไม่ออกเลยว่าเธอเคยนอนหลับโดยที่ไม่เคยหลั่งน้ำตาแม้ซํกครั้ง...ตลอดระยะ
เวลาหลายๆปีที่อยู่กับเรา!!....ไม่เคยเลยที่จะนอนโดยที่ไม่ร้องไห้!!!.....
...ท่านอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไมเธอถึงยังทนอยู่ได้โดยไม่คิดที่จะหนีจากครอบครัวของดิฉัน???
ดิฉันจะตอบให้ว่าทำไม....
...เด็กสาวนั้นในตอนที่ย่างเข้าวัยสาว....ครั้งหนึ่งเธอได้ออกไปจากบ้านเพื่อซื้อกับข้าวแล้วก็ไม่กลับมา...สามีดิฉันจึงได้
ถามยามเฝ้าประตู...จึงรู้ว่าเธอพูดคุยอยู่กับชายวัยเดียวกับเธอที่ทำงานเป็นช่างในซอยเดียวกันมาเป็นเวลานานแล้ว....และ
อาจเป็นไปได้ว่าเธอตกลงที่จะแต่งงานกับเขาเพื่อให้พ้นจากการถูกทุกข์ทรมาณในบ้านของดิฉัน...
แต่ก็ไม่ถึงอาทิตย์สามีของฉันก็หาเธอพบที่ที่เธอหลบซ่อนอยู่และนำเธอกลับมา...และเมื่อเธอกลับมาถึงบ้าน...
เราด็เริ่มทำการบรรเลงต้อนรับเธอด้วยบทลงโทษที่แสนจะทรมาณต่างๆนานา!!...สามีดิฉันก็เริ่มทุบตีเธอและซ๊อตเธอด้วย
สายไฟฟ้า...ลูกชายดิฉันก็ลงมือกระทืบเธอด้วยความสะใจ!!...นอกจากลูกสาวดิฉันที่รู้สึกเจ็บแทนและสงสารเธอจากการกระทำ
ของพ่อและพี่ชาย.....
...ในที่สุดเด็กสาวรับใช้ก็ปลงและยอมจำนนต่อชีวิตที่ถูกทารุณของเธอและอยู่กับเราต่อไป....ทุกครั้งที่เธอทำพลาดหรือไม่ถูกใจ
เธอก็จะถูกทุบตีทรมาณจากเรา...และในวันที่เราไปเที่ยวมีความสุขในวันหยุด...เราก็จะทิ้งเศษอาหารที่เหลืออาทิตย์หนึ่งให้เธอไปทาน...
ต่อมาเธอเริ่มมีอาการผิดปกติทีละนิดทีละนิด...จาน..แก้วที่อยู่ในมือของเธอเรื่มหล่นและหลุดจากมือเธอบ้าง...หกล้มบ้าง...เธอจะเรื่ม
เดืนอย่างระมัดระวังมากเป็นพิเศษจนเรารู้สึกแปลกใจ....เราจึงนำเธอไปหาหมอเพื่อตรวจอาการ...คุณหมอจึงยืนยันกับเราว่า...
การมองเห็นของเธอเรื่มอ่อนลงไปมาก...และเธอจะเริ่มมองไม่เห็นแม้สิ่งที่อยู่ตรงเท้าเธอ...ถึงกระนั้นเราก็ไม่ได้ให้ความเมตตาต่อเธอเลย
แม้แต่น้อย..และยังคงให้เธอทำงานบ้านทุกอย่างเหมือน...และบ่อยครั้งที่เธอออกไปซื้อของมาผิดและก็ถูกทำโทษ...จนกระทั่งหลายๆครั้ง
ที่ยามเฝ้าบ้านพาเธอไปซื้อเพราะความสงสารและไม่อาจทนดูเธอถูกทรมาน!!...
...วันเวลาผ่านไปอย่างนี้จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็หนีออกจากบ้านไปอีกครั้งหลังจากที่ตาเธอเริ่มจะบอดสนิทและไม่ได้กลับมาอีก...
แต่ในครั้งนี้เราไม่ได้ตามหาเธออีกเหมือนครั้งที่ผ่านมา...
...วันเวลาได้ผ่านไปเป็นปี...สามีดิฉันเกศียรจากงาน...จนลูกของดิฉันเติบโตจบการศึกษาจากมหาลัย...และทำงาน....
แต่งงานมีครอบครัว...เราทุกคนมีความสุขมากในวันที่ลูกชายดิฉันแต่งงาน....และเรายิ่งดีใจเข้าไปอีกเมื่อรู้ว่าภรรยา
ของลูกชายดิฉันท้อง...เพราะเรากำลังจะมีหลาน...เรารอเวลาที่เธอจะคลอดมาหลายเดือน...จนกระทั่งเธอคลอดหลาน
คนแรกของเรา...พวกเราต่างก็รอใจจดใจจอเพื่อจะดูหน้าหลาย....แต่เมื่อเราเข้าไปดูหน้าหลาน...กลับต้องเสียใจ!!..
เพราะหลานคนแรกมองไม่เห็น....ตาบอดสนิท!!!...เราพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษา...แต่ก็ไร้ประโยชน์!!..
ในที่สุดพ่อแม่ของเด็กก็ยอมรับในความเป็นจริง....แล้วเราก็ส่งหลานเราให้กับสถานสงเคราะห์เด็กตาบอด.....
หลังจากนั้นภรรยาของลูกชายดิฉันก็ไม่ยอมที่จะตั้งท้องอีก...เพราะกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำ!!!...
แต่หลังจากที่หมอและพวกเราช่วยกันพูดปลอดใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์อย่างเกิดขึ้นอีกเธอจึงสบายใจ....
แล้วเธอก็ตั้งท้องอีกครั้งที่สอง...และคลอดออกมาเป็นเด็กสาวที่น่ารัก...และหลังจากที่หมอได้ตรวจเด็กแล้ว..ก็ได้ให้แสดง
ความยินดีกับครอบครัวเรา...และยืนยันว่าเด็กน้อยมองเห็นตามปกติเหมือนๆกับเด็กทั่วๆไป.....เมื่อได้ฟังอย่างนี้
แล้วเราต่างก็ชื่นใจและดีใจกันทั่วหน้า...วันเวลาผ่านไปได้7เดือนกว่าๆ..เราสังเกตุพฤตกรรมของเด็กสาวว่า
เธอมองไปในทิศทางเดียวเท่านั้น!!....เราจึงนำเธอยังโรงพยาบาลเพื่อตรวจดวงตาของเธอ...
และเมื่อหมอทำการตรวจสายตาของเด็กน้อย...เราก็ได้รับข่าวที่สะเทือนใจยิ่งนัก!!..นั่นก็คือเด็กน้อยจะมองเห็น
เฉพาะแสงสว่างสลั่วๆเท่านั้น...และมีแนวโน้มว่าเด็กจะบอดสนิท!!...เมื่อได้ฟังเช่นนี้สามีดิฉันกระทบกระเทือนจืตใจ
อย่างหนัก!!...กลายเป็นคนหงุดหงิดง่าย...เกลียดทุกอย่างเหมือนคนเสียสติ..หมอจึงแนะนำให้เราพาสามีดิฉัน
ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลประสาท!!...
...ดิฉันรู้สึกผิดหวังและเสียใจมาก...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ดิฉันนึกถึงเด็กสาวคนหนึ่ง...ที่เคยอยู่รับใช้ครอบครัว
ของดิฉัน...และถูกเรากลั่นแกล้งทำทารุณต่างๆนานาและหนีออกไปด้วยตาที่บอดจากการที่ถูกเรากลั่นแกล้งขึ้นมา!!...
และฉันก็คิดทันทีว่า...นี่คงจะเป็นผลตอบแทนจากการกระทำของเราต่อเด็กผู้หญิงคนนั้นซินะ!!...
(2)
..ตั้งแต่นั้นมา...ภาพของเด็กสาวที่น่าสงสารที่เราไม่เอาใจใส่ดูแลจนทำให้ตาของเธอบอดคนนั้น
ปรากฏอยู่ในความคิดของดิฉันตลอดเวลา....ทำให้ฉันอยากพบเจอเธอเพื่อที่จะไถ่บาปจากการกระทำของครอบครัว
ของฉันต่อเธอ...หลังจากที่ดิฉันถามข่าวคราวของเธอและตามหาเธอมานานพอสมควร...จึงได้รู้ว่า..ทำงานและพักอยู่ที
มัสยิดแห่งหนึ่ง...แล้วดิฉันก็ไปหาเธอ...เพื่อนำเธอกลับอยู่กับเราอย่างน้อยที่สุดก็ช่วงที่ดิฉันยังมีลมหายใจ...ถึงแม้ว่า
เธอจะเคยถูกเราทุกข์ทรมานมานาน...แต่เธอก็ยังอุตสาห์ดีใจที่รู้ว่า..ดิฉันตามหาเธอ...แต่ชวนเธอกลับไปอยู่ด้วย....
แล้วเธอก็ยอมกลับมาอยู่กับดิฉันอยู่...เธอยืนขึ้นมาพร้อมๆกับเดินอย่างระมัดระวังไปกับดิฉัน...และดิฉันจับมือเธอเพื่อ
จูงและนำทางเธอกลับไปยังบ้านของเรา...ตั้งแต่นั้น...ดิฉันกลับกลายเป็นคนที่ต้องคอยดูแลและเอาใจใส่เธอพร้อมๆกับ
หลานดิฉันที่บอดทั้งสองคน...เพื่อชดเชยในสิ่งที่ครอบครัวของดิฉันได้กระทำต่อเธอ...และสิ่งที่ดิฉันหวังไม่มีอะไรนอก
จากการอภัยโทษจากพระผู้เป็นเจ้าในความผิดที่ดิฉันและครอบครัวได้ทำลงไป....และดิฉันขอบอกแด่ท่านที่ไม่มีจิดเมตตา
ต่อผู้อื่นไว้ว่า...แท้จริงนั้นอัลลอฮฺทรงมีอยู่และมองเราอยู่ตลอดเวลา...ฉะนั้นหากคิดจะทำอะไรเพื่อให้คนอื่นเดือดร้อนเล้ว
ซักวันหนึ่งการกระทำนั้นจะสนองตอบเราอย่างแน่นอน...เหมือนอย่างดิฉัน....ดิฉันหวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับดิฉันนี้จะเป็น
อุทาหรณ์ให้กับทุกๆครอบครับที่อาศัยอยู่ในสังคม...โดยเฉพาะครอบครัวที่มีคนงานคอยรับใช้......จบ.
วิเคราะหื เรื่องราว ทำกรรมแล้วย่อมได้รับผลกรรม
ในโลกนี้ยังมีคนเช่นนี้อยู่อีกหรือ?
ครับคุณ rampaipun
ในโลกนี้ยังมีคนเช่นนี้อยู่อีกมาก มาย เพื่อให้คนในสังคมมีจิตสำนึกในการกระทำ
ของตน ... ไม่มีใครหนีกระทำของตัวเองพ้น
หรอกครับจะอยู่แค่ช้าหรือเร็วเท่านั้น
การที่เราได้ทรมานคนอื่นหรือทำให้คนอื่นสูญเสีย แน่นอนที่สุดอัลลอฮจะตอบแทนเราโดยการให้ใจเรานั้นเป็นทุกข์ทรมานและต้องสูญเสียเป็น 2 เท่า และในเรื่องนี้อัลลอฮได้ตอบแทนกับครอบครัวนี้โดยการได้หลานที่น่ารักแต่ตาบอดทั้งสองคน รู้ตัวก็สายเกินแก้ซะแล้ว.................................................