เทคนิคการฝึกสมอง ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยะ


เรื่องดีดี มีมาเล่าสู่กันฟัง

ในเวลาที่ว่างจากการทำงาน ดิฉันก็จะมานั่งเปิดอ่าน blog ใหม่ๆเพื่อเป็นความรู้ เป็นอาหารที่ดีให้กับสมอง แล้วก็จะเปิดเมลล์ไปด้วยในเวลาเดียวกัน อย่างเช่นวันนี้ มีเมลล์ส่งมาให้() เป็นเรื่อง เทคนิคของการ ฝึกสมอง ของผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยะ จาก ม.ฮาร์วาร์ด คือ คุณ วนิษา เรซ เป็นเทคนิควิธการที่ดี สามารถปฏิบัติได้จริง รู้สึกชอบและคิดว่าจะนำมาปฏิบัติกับตัวเองได้ดีค่ะ

 ลองมาฝึกฝนด้วยกันนะคะ

9 เทคนิค ฝึกสมอง ไบรท์ "


    โดย วนิษา   เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้าน อัจฉริยภาพจาก ม.ฮาร์วาร์ด
ผู้หญิงสมัยนี้ อยากสวย ฉลาด และสุขภาพดี ทุกคน จึงพากันดูแลรูปร่าง ด้วยการออกกำลังกาย
เคร่งครัด เรื่องอาหารการกิน แต่ ไม่เคยมีใครสนใจว่าจะดูแลสมองอย่างไรให้มีสุขภาพดี ทั้งที่สมอง
เป็นอวัยวะ ที่ตัดสินใจทุกเรื่องของชีวิต เราจึงควรเอกเซอร์ไซส์สมองให้ไบรท์ด้วยเทคนิค ง่าย ๆ ต่อ
ไปนี้

1.       จิบน้ำบ่อย ๆ  (Drink water very often) สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมอง ก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำ หล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยว ซึ่ง ส่ง
ผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึง ควรดื่มน้ำบ่อย ๆ

2.     กินไขมันดี  (Enjoy good Omega 3) คน ไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมี  ไขมันดีไปทดแทนส่วนที่ สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย  ปลา ที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมัน ดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่ม
น้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสด ชื่น

3.     นั่งสมาธิวันละ 12 นาที  (Meditation 12 min a day) หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติ  และนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด  ๆ ทำ ให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ( ถ้า ทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน

4.     ใส่ความตั้งใจ (Program the brain: have specific intention) การตั้งใจในสิ่ง ใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่  เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบ ความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิด
ขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน

5.     หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ (Laugh and Smile) ทุกครั้งที่ ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน  ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่า กับเป็นการกระตุ้น ให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ

6.     เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน (Learn new thing everyday) สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กิน อาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมอง หลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยาก เรียนรู้และ สร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้าง สรรค์

7.     ให้อภัยตัวเองทุกวัน (Forgive yourself, reduce brain stress) ขณะที่การไม่ให้ อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้ เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลด
ภาระของสมอง

8.     เขียนบันทึก Graceful Journal (Write graceful journal, good things in life every day) ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิด ขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มี
ครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มี สุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่อง ดี
ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝัน ดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์

9.     ฝึกหายใจลึก ๆ (Deep breath) สมองใช้ออกชิเจน 20 25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่าง กาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่ง พลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจน เข้าสู่ร่างกายได้ มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอด ขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 % การมี สมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้น อยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดี ตาม
หมายเลขบันทึก: 127349เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2007 13:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 02:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท