เล่าเรื่องเมืองเกาหลี (2)

มาส่งรายงานอาจารย์ค่ะ

คราวที่แล้วอกหักกับเกาหลีด้วยเรื่องหน้าตาคนเกาหลี คราวนี้จะบอกว่าอกหักกับอาหารเกาหลี  ถ้าใครได้ดูละครเกาหลีเรื่องแดจังกึม  จะเห็นว่าหน้าตาของอาหารในเรื่องจะหน้าตาน่าทานมาก เมื่อละครแดจังกึมดังออกปานนั้น  เรามาเกาหลีช่วงนี้จึงไม่พลาดที่จะมีการตามรอยแดจังกึมอยุ่ในทริปท่องเที่ยว การไปตามรอยแดจังกึมก็โดยการพาไปเที่ยวโรงถ่ายละคร และตามไปทานอาหารที่ดังตามละคร อาหารเกาหลีที่ไกด์พาไปทาน 5 วันก็เท่ากับ 15 มื้อ เริ่มจากบะหมี่เกาหลี จืดชืดมากแต่มีดีตรงเส้นอร่อย เกาหลีก็ต้องคู่กับกิมจิเพราะฉะนั้นไม่ว่าท่านจะทานอะไรกิมจิจะต้องมาตั้งโต๊ะรอก่อนเพื่อน กิมจิก็คือผักดองผักทุกชนิดเกาหลีเอามาทำกิมจิได้หมด  แม้เราจะตั้งใจไปทานแค่บะหมี่ แต่บนโต๊ะก็จะเต็มไปด้วยสารพัดกิมจิ เช่น ผักกาดขาว แตงกวา หัวไชเท้า แม้กระทั้ง ถั่วงอกก็เป็นกิมจิ บนโต๊ะแม้จะมีอาหารหลักคือบะหมี่ถ้วยเดียว แต่จะมีจานเล็กๆ สารพัดกิมจิอีกเป็นสิบจานจนล้นโต๊ะอาหารอีกอย่างที่บ้านเราฮิตมากๆ  คือหมูย่างเกาหลี  แต่หมูย่างเกาหลีแท้ๆ กระทะย่างของเขาตรงกลางจะไม่นูนขึ้น แต่จะแบนราบธรรมดา หมูหมักเขาก็จะชิ้นใหญ่มาก เป็นชิ้นยาวๆ หมูกิโลหนึ่งคงจะหั่นได้ประมาณสามชิ้นเองมั้ง รสชาติหมูหมักเขาถ้ากินเปล่าๆก็จะมีรสชาติเหมือนหมูปิ้งไม้ละ 5 บาทบ้านเรานี่เอง เมื่อย่างหมูสุกเขาก็จะมีกรรไกรมาหั่นให้หมูเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วคีบเนื้อหมูใส่ใบผักกาดหอม คีบน้ำจิ้มทาบนหมูห่อใส่ปาก ทีบอกว่าคีบน้ำจิ้มเพราะน้ำจิ้มเขาจะทำข้นๆมีเต้าเจี้ยวบด ไม่อร่อยเท่าน้ำจิ้มบ้านเราแน่ๆ เกาหลีอุปกรณ์การกินเขาไม่มีช้อนส้อม  แต่เขาจะใช้ช้อนด้ามยาวๆ คู่กับตะเกียบเหล็ก มารยาทบนโต๊ะอาหารถ้าแบบสุภาพเขาจะไม่ใช้ตะเกียบคีบข้าวเข้าปากเขาจะใช้ตะเกียบคีบอาหารเท่านั้นส่วนข้าวต้องใช้ช้อนตัก แต่ถ้าทานแบบกันเองเพื่อนฝูงจะใช้ตะเกียบคีบข้าวเหมือนคนจีนก็ได้ เมื่อได้ทานหมูย่างเกาหลีแท้ๆแล้วจะคิดถึงหมูย่างเกาหลีไทยๆสุดชีวิต

 

[Mrs.Wanne Sukpaiboom]

ความจริงไปเกาหลีมีผักเยอะน่าจะกินผักเยอะๆจะได้ผอม   แล้วไม่ว่าจะเป็นหมูย่างหรือนำจิ้มอะไรมันจะรสเด็ดเท่าพี่ไทยบ้านเรา