ผมอดไม่ได้ที่จะแสดงความเห็นส่วนตัวแทรกขึ้นมาในตอนที่ ๑๐ นี้ เพราะ ศ. โมเสส เจ้าของบทความที่อ้างถึงในตอนที่ ๑ บอกว่า การมีระบบ Governance แบบใหม่ที่เอาจริงเอาจัง ก็เพื่อเข้าไปทดแทนระบบที่ควบคุมมหาวิทยาลัย ในลักษณะ overregulation และ micromanagement
Overregulation และ micromanagement เป็นลักษณะของการควบคุมมหาวิทยาลัยไทยในขณะนี้นะครับ แม้แต่มหาวิทยาลัยในกำกับรัฐก็ไม่เว้น เพราะระบบราชการ หรือระบบ bureaucracy มันฝังรากลึกเหลือเกินในสังคมไทย ฝังอยู่ในระดับวัฒนธรรมทีเดียว เผลอไม่ได้ เผลอทีไรโดนออกคำสั่ง และบางทีคนออกคำสั่งเป็นระดับเจ้าหน้าที่เด็กๆ เท่านั้น ร่างหนังสือส่งให้ “นาย” เซ็น นายที่ชื่อ “ซุนยัดเซ็น” ก็เซ็นปั๊บ เพราะมันเป็นผลงาน
Overregulation และ micromanagement นำมาซึ่งการรวมสถาบันเข้าอยู่ภายใต้ “เอกภาพ” คือมีกฎเกณฑ์เดียวกันหมด เพราะมันง่ายต่อผู้ควบคุม
แต่มันไม่ดีต่อบ้านเมือง เพราะมันทำให้สถาบันอุดมศึกษาของเราพัฒนาสู่สภาพเหมือนกัน (homogeneous) โดยไม่รู้ตัว ในขณะที่สังคมต้องการสถาบันอุดมศึกษาหลายแบบ (heterogeneous) และจริงๆ แล้วในขณะนี้เราก็มีความหลากหลายอยู่แล้ว แต่จะโดนระบบ Overregulation และ micromanagement ทำให้ค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่สภาพ homogeneous
สภาพนี้ ประเทศไทยขาดทุน/เสียประโยชน์ ผู้ได้รับประโยชน์คือคนใน “Super - governance” ต่อระบบอุดมศึกษา เพราะได้ exercise อำนาจของตน
วิจารณ์ พานิช
๑ ส.ค. ๕๐
ไม่มีความเห็น