ผมไปคราวนี้ในฐานะผู้นำเสนอผลงานวิจัยร่วมกับเพื่อน ๆ ผู้นำเสนออีกหลายคนโดยถูกจัดให้เป็นกลุ่มต่าง ๆ ตามเนื้อหาของงานวิจัยที่นำเสนอ โดยงานนี้มีผลงานที่เสนอเพื่อพิจารณานำเสนอบนเวทีจำนวนมากและถูกคัดเลือกเพียง 12 บทความในการนำเสนอ
งานคราวนี้มีการปาฐกถาพิเศษสองท่านคือ ดร.สุเนตร สุตินทรานนท์และ คุณสุจิตต์ วงษ์เทศ ซึ่งเป็นเสมือนนักวิชาการชั้นแนวหน้าของไทยที่มาจากสองระบบคือท่านหนึ่งเป็นนักวิชาการในระบบราชการส่วนอีกท่านเป็นนักวิชการอิสระ ซึ่งทั้งสองท่านได้สำแดงความเป็นตัวตนอย่างชัดเจน ซึ่งรูปแบบการเชิญองค์ปาฐกที่แตกต่างกันนี้มีความหมายที่ดีและหลากมุมซึ่งสอดคล้องกับงานคราวนี้
ในส่วนของบทความที่นำเสนอมีผลงานที่ตีพิมพ์และรวบรวมในบทความ(มีจำหน่ายเล่มละ150บาท)จำนวน 12 บทความ 12 ท่านแต่ความจริงบนเวทีไม่ครบตามกำหนดการณ์ที่แจ้งซึ่งน่าเสียดายพอสมควรกับสี่บทความที่ไม่มีการนำเสนอบนเวที งานนี้มีความหลากหลายมากทั้งเนื้อหาที่เป็นทั้งเรื่อง
• ศิลปะงานช่างและสถาปัตยกรรม
• ภาษา วรรณกรรม และคติชนวิทยา
• ประศาสตร์และโบราณคดี
• พิธีกรรม ความเชื่อ
• ดนตรีและการแสดง
• การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ส่วนตัวนักวิจัยมีทั้งเพศหญิงและชายสลับกันไป นอกจากนั้นยังพบนักวิจันรุ่นเด็กไปจนถึงนักวิชาการระดับ รศ. แต่น่าเสียดายที่ขาดนักวิจัยชาวบ้านไปเสียหน่อยเพราะส่วนมากเน้นไปที่นักวิจัยในระบบมาก อาจจะมีผมเพียงคนเดียวกระทังที่ไม่ได้สังกัดองค์กรไหนเป็นชาวบ้าน100%
พี่บางทราย
//ไม่รู้จะร้องเพลงอะไร ไม่มีวิจัยจากชุมชน ยังดีที่มีออตต่อท้าย ไม่งั้นมีหวังไฟท้ายไฟแดงก็ไม่เจอ อิอิ
พ่อครูฯครับ
ได้ไปสำรวจผ้ากาบบัว ผ้าสวยเมืองอุบล มาไหมคะ
ส้มตำเมืองอุบล อร่อยไหม?
พี่อุบลครับ
ป้าแดงครับ