มันเกิดจากความรัก ส่วนหนึ่งก็คือโยมแม่ได้ปลูกฝังอาตมาเอาไว้ตั้งแต่เป็นเด็กเพราะทุกๆ วัน ที่มีพระมาบิณฑบาตผ่านหน้าบ้าน โยมแม่จะให้ช่วยตักบาตรด้วย กระทั่งมีอยู่วันหนึ่งโยมแม่ทำงาน เหมือนกับจะยุ่งเหลือเกินไม่สามารถตักบาตรได้เหมือนทุกวัน โยมแม่ก็เลยให้อาตมาตักบาตรแทน ครั้งแรกที่ได้ตักบาตรเอง มันเกิดเป็นปีติมีความสุขมาก ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยให้แม่ตักบาตร โดยอาตมาเป็นผู้ตักบาตรเอง ตั้งแต่นั้นมาไม่ว่าโยมแม่จะไปวัดฟังเทศน์ที่ไหน ก็จะพาอาตมาไปด้วยทุกครั้ง ทำแบบนี้อยู่หลายปีจนเรียนอยู่ชั้น ป.5-ป.6 เป็นโรงเรียนที่กำแพงติดกับวัด อาตมานั่งเรียนอยู่ในโรงเรียน มองด้านข้างเห็นพระมาเรียนที่วัดเป็นร้อยๆรูป อาตมาเห็นมันเป็นความคิดในใจว่า ถ้าจบ ป.6 เมื่อไหร่ต้องไปบวชเป็นพระแน่ๆ เพราะอยากเรียนกับพระ สีเหลืองของจีวรมองแล้วมันสวยมันสง่างามมาก จึงเป็นภาพพิมพ์ในดวงใจที่งดงาม พอเรียนจบ ป.6 เห็นเพื่อนๆ ไปเรียนต่อกัน แต่อาตมามีคำตอบในใจแล้วว่า อย่างไงก็ต้องบวช
สิ่งสำคัญที่ท่านฝากไว้อยากให้ทุกคนมีไว้ในสังคมคือ “ สติ จะบอกว่า อะไรควรอะไรไม่ควร เราจะได้ไม่หลงไปตามกระแสโลกาภิวัตน์ ปัญญา จะทำให้เราดำเนินชีวิตอยู่บนความถูกต้องที่ดีงาม เดินทางสายกลาง จะไม่ทำให้เราประมาทในชีวิต ทำอะไรก็จะไม่วิ่งไปซ้ายสุดขวาสุด ”
สำหรับโครงการดีดีแบบนี้ จะส่งผลให้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีบุคลากรที่มีคุณธรรม จริยธรรมตามมาตรฐานทางคุณธรรม จริยธรรมของข้าราชการ และพนักงานของมหาวิทยาลัยมหาสารคามไม่มีความเห็น