สวัสดีครับ....คุณตันติราพันธ์ ครับ......แล้วได้คำตอบหรือยังว่า พระท่านขณะบิณฑบาตร ท่านมีความรู้สึกอย่างไร? .........
หลากหลายครับ ผมเองก็เคยบวชเรียนมา 2 ปี เต็มสอบได้นักธรรมตรี เสียดายนักธรรมโทไม่ได้สอบครับ ถ้าแบ่งหยาบ ๆ ก็ประมาณ 4 ประเภท (แบ่งเองครับไม่มีตำรา) หนึ่งเหมือนบัวโผล่พ้นน้ำครับ บิณฑบาตร เพื่อยังอัตภาพไปวัน ๆ (ขอแค่พอฉันท์ และฉันท์แค่พอประมาณ) ความรู้สึกจะไม่ยินดียินร้ายกับอาหาร เพราะนำมาเพื่อบำบัดความหิวเก่า บรรเทาความหิวใหม่เท่านั้น
สอง บัวปริ่มน้ำ คือต้องฝึกฝนอยู่อีกนิดก็เข้าถึงธรรมแล้ว จะยังถามถึงว่าอาหารต้องเป็นอาหารที่คละเคล้ากันในบาตร(ติดเทคนิค) ฉันท์มื้อเดียว ทานง่าย การออกบิณฑบาตรยังต้องใช้พระคาถาสะกดใจไว้ ไม่ให้สนใจ.....(ภิกษุหนุ่มในเมืองมักจะสอดสายตาจึงทำให้อาบัติได้ง่าย)ผ่านการอบรมอีกนิดก็จะไม่ใยดีต่อโลก
สาม เป็นบัวกลางน้ำ แม้ว่าจะเป็นผู้ทรงศีลอยู่แล้ว ก็ยังต้องสำรวมกิริยาให้ตลอด การบิณฑบาตรก็เช่นกัน มีศีลกำหนดอยู่ไม่น้อยกว่า 10 ข้อ ภิกษุที่เป็นบัวกลางน้ำมักจะสอดสายตาไปมา และเกิดการปรุงแต่งได้ง่าย ยังใยดีกับรสชาดอาหาร สีสรรของอาหาร ยังเลือกว่าสิ่งนี้ดีเก็บไว้ และความรู้สึกที่ว่าอยากได้สิ่งของอาหารที่ดีอยู่เสมอ......คงต้องได้สดับตรับฟังจากพระอริยะเสียก่อนจึงจะตั้งตนเป็นบัวชั้นที่ สองได้
สี่บัวใต้น้ำ เป็นภิกษุที่ไม่ได้เข้ามาศึกษาพระธรรม ปฏิบัติธรรม มุ่งแต่ความอยากเป็นที่ตั้ง มักนิยมยินดีกับอาหารราคาแพง และรสอร่อยเป็นที่ตั้ง ยังต้องฝึกอีกมากถึงจะเข้าใจว่า การบวชเรียนเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างไร?
ถ้าเราบิณฑบาตรเพราะคิดว่าเขาหวังบุญกุศล ตอบว่าใช่ครับ....การที่เขาได้ทำบุญกับคนที่เป็นเนื้อนาบุญถือว่าได้ทำบุญมากกว่าภิกษุธรรมดา 10 เท่าครับ เขาก็จะทำบุญไปจนกว่าเราจะได้อริยะสงฆ์ เขาก็จะได้บุญกุศลไปอีก 100 เท่าครับ....
แต่ถ้าเราต้องบิณฑบาตรเองนั่นหมายถึงให้เราปล่อยวางครับ ไม่ยึดติดกับอาหารที่ต้องมีรูปมีรสมีกลิ่นที่ถูกใจ......ถ้าเป็นบางวัด เราต้องทานอาหารเหลือจากพระก็เพื่อให้ไม่คิดว่าเราวิเศษ(ข้าวก็จะเป็นข้าวปั้นรวมจากการบิณฑบาตรของพระท่านนั่นเองคละเคล้ากันทั้งหมด มีวัตถุประสงค์การบำบัดความหิวเก่า และบรรเทาความหิวใหม่เท่านั้น (ไม่ติดในรูป ไม่ติดในรสชาต ไม่ติดในกลิ่น)...เป็นการฝึกฝนเรื่องราคะจริต หรืออสุภะ(ไม่งามทั้งปวง
คงตอบได้ไม่ครอบคลุมครับ ...ขอบคุณครับ
ขออนุโมทนาบุญที่ให้ธรรมทานนะคะ ไม่ทราบจริงๆว่าการบิณฑบาตร มีวัตถุประสงค์ และอานิสงส์ใดบ้าง ส่วนตัวแค่อยากจะแทนความรู้สึกของตนเองเท่านั้น แล้วก็ได้ข้อสรุป ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเสียอีก รู้แต่ว่า เราจะเอาความดีไปตอบแทนเขา อีกอย่างการปลีกวิเวกคราวนี้ เป็นความต้องการของตนเอง และอยากศึกษาวิถีของครูบาอาจารย์ หรือผู้ที่ตั้งใจปฎิบัติธรรมอย่างเอกอุกในป่าเขาลำเนาไพรด้วย ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ได้ความรู้อย่างไม่เคยได้รู้มาก่อนจริงๆค่ะ
สวัสดีค่ะ
คุณคำสุวรรณ์ โชคดีที่ได้บวช ดิฉันเองคงหมดโอกาสแล้วชาตินี้ ขออนุโมทนาบุญอย่างยิ่งค่ะ