กลับมาถึงบ้านสภาพน่าหดหู่ใจแห้งแล้งข้าวแห้งแดงและหลายบิ้งก็ไม่ได้ทำ น้ำในบ่อก็แห้งขอดแทบจะไม่มีเลย อยู่กับธรรมชาติอาศัยฟ้าฝนธรรมชาติ เมื่อฝนฟ้าไม่ตกก็ลำบากในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม โบราณจึงกล่าวว่า ไม่รู้ฟ้าไม่รู้ดิน ไม่รู้เบื้องบน อีกทั้งไม่รู้เบื้องล่าง(ใต้ดิน) บาดาลที่เจาะก็ยังใช้การไม่ได้ทรายเข้าอุดตันต้องรอให้มาแก้ไขอีก
วันรุ่งขึ้นโทรไปบอกเดียวจะมาบ่าย รอตลอดวัน เย็นก็ไม่มา โทรอีกมีแต่สัญญาณไม่มีคนรับสาย สองสามครั้ง จึงเลิกโทร เงินก็จ่ายไปแล้วบางส่วน ก็คิดว่าเงินที่เบิกมาจะไม่จ่ายหากว่าที่เจาะไม่สามารถใช้การได้เพราะไม่เป็นไปตามที่ตกลง ซึ่งก็เป็นแต่เพียงลมปากแบบสัญญาชาวบ้านๆ บวกกับความซื้อๆของชาวนาคนหนึ่ง ไหนเลยความคิดและไหวพริบจะทันพ่อค้าหรือนักธุรกิจ
เปิดคอมให้แม่และพี่ดูภาพต่างๆที่ถ่ายไว้รวมทั้งภาพพ่อสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงเจ็บป่วยนอนอยู่โรงพยาบาล ทั้งคู่ร้องไห้ คิดสงสารพ่อที่ทรมานมากจากความเจ็บป่วยด้วยมะเร็งก่อนเสียชีวิต ก็บอกว่าพ่อไปดีแล้วสิ้นสุดความทรมานแล้ว ก็ไม่หยุดร้อง จึงต้องปิดและหาเรื่องอื่นมาคุยเปลี่ยนอารมณ์ เปลี่ยนความคิด ความคิดนี้หยุดยากแต่สามารถเปลี่ยนได้ไม่ยาก เมื่อความคิดเปลี่ยนอารมณ์ก็เปลี่ยน อย่าให้ชีวิตจมอยู่ในความทุกข์ต้องให้ลอยเหนือความทุกข์
ไม่มีความเห็น