คุณบ่าววีร์อย่าไปแค่ที่เตารีดครับ
แม้ว่าตัวการใหญ่โดยตรงจะเป็น อุตสาหกรรม แต่เราอย่าลืมว่าการกระตุ้นสำนึกส่วนรวมทำให้บริษัทพวกนี้ต้องแสดงบทบาทคืนสังคมโดยการออกมาตรการต่างๆเพื่อลดอัตราการผลิต co2 ของตน(แ่ค่ลดนะครับ ไม่ละ ไม่เลิก)
ส่วนที่เราไม่ค่อยรู้ตัวและไม่ค่อยคิดกัน คือ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของพวกเราเป็นส่วนที่เราสามารถช่วยคนละไม้ละมือได้ อย่าไปติดว่าแค่เราคนตัวเล็กๆคนเดียวประหยัดได้นิดเดียวจะไปช่วยอะไรได้
เราต้องเชื่อว่าอีกหลายๆคนคิดอย่างเราและกำลังร่วมมือกันทำเ่ท่าที่มีโอกาส พลังเหล่านี้เป็นพลังของมวลชนที่เกิดขึ้นจากการตระหนักรู้ในหม้ออุ่นๆที่กำลังจะต้มปลาทุกตัวในโลกให้สุกอร่อย ไม่ทำก็เดินหน้าไปหาหายนะแน่นอน นอกจากต้องทำแล้วยังต้องหยุดไอ้พวกที่มันก้มหน้าก้มตาต้มโลกด้วย(ทำไปได้)
ต้นไม้ต้นหนึ่งดูด Co2 ได้เท่าไหร่ คุณบ่าววีร์จะหลงโจทย์ไปหาคณิตศาสตร์ที่ตายตัวแล้วแหละครับ ที่จริงแล้วมันเหมือนถามประชาชนแต่ละคนกินข้วได้คนละกี่จาน สมมุติว่าตอบ 2 จาน เพราะฉะนั้นประชาชนพันคนกินข้าว 2000 จานรึเปล่า แต่ถ้าบอกว่าแค่คุณลดชม.การใช้ไฟฟ้า ปิดไฟที่ไม่ใช้ จำนวนต่อ 1 ดวงที่คุณปิดได้ กับปริมาณเวลาหนึ่ง ชม. คุณจะลดการสร้าง co2 ที่เกิดจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าได้เ่ท่ากับ 1 ตันต่อปีอะไรทำนองนี้จะเห็นเป็นรูปธรรมกว่า ค่าพวกนี้เป็นค่าประมาณ ที่นักวิทยาศาสตร์เองก็รู้แก่ใจว่าป็นตัวตั้งที่ก่อให้เกิดสำนึกมากกว่า
วัตถุประงสค์โดยหลักที่จริงของกรเผยแพร่สารเหล่นี้ คือ
. หยอดน้ำหนักให้ทุกคนตะหนักขึ้นมาอีกนิดว่าโลกกำลังเกิดอะไรขึ้น จะมีสำนึกก็รีบซะ
2.หวังผลประชาชนส่วนรวมที่จะก่อให้เกิดการผลักดันต่อบริัษัทและพวกที่ผลิต co2 ตัวเอ้รู้จักถอยๆไปบ้าง เพราะโลกนี้มันมีผลกระทบทั่วถึงกัน ไม่ต่างับห้องเล็กๆที่คนนึงที่มุมห้องกำลังติดเตาถ่านคนที่หายใจไม่ออกก็มี คนที่เืดือดร้อนก็มี เขามีสิทธิอะไรที่จะมาทำแบบนี้ ทั้งที่โลกใบนี้เขาไม่ใช่เจ้ของ(พอดีห้องนี้มันกว้างหน่อยไงครับ กว่าจะรู้สึกตัวกัน) ผลกำไรที่เขาได้ เขาก็ไม่ได้ให้ส่วนรวมสักหน่อย เข้ากระเป๋าตูมๆ
3. การสร้างการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับมาตรการการดูแลโลกที่เป็นรูปธรรมทันเวลา
ที่จริงมีอีกหลายวุตถุประสงค์ แต่ 3 อย่างนี้เป็นหัวใจของการเผยแพร่รณรงค์ครับ อย่างน้อยใ้นขั้นเริ่มต้น แค่กระตุ้นสำนึก หรือเตือนให้คนเริ่มคิด และตระหนักได้ก็สำคัญมากก่อนที่จะผลักดันให้เกิดกระแสถัดๆไป
นอกจากน้นรู้แล้วยังต้องช่วยกันป่าวประกาศบอกต่อ เพื่อให้เกิดกระแสในวงกว้าง เพราะพวกหน้าหนาที่ผลิต CO2 จะได้ถอยๆไปบ้างหลังจากที่มั่วนิ่มผลิต แน2 มาจนถึงเดี๋ยวนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าผลกระทบจะเกิดตั้งแต่สิบกว่าปีก่อนนู้นเสียอีกครับ
เอามาฝากสองส่วนครับ
อันนี้คงจะถูกใจคุณบ้าง ที่จริงผมเอามาฝากให้แล้วแต่อยู่อีกกระทู้
http://gotoknow.org/blog/thaikm/59875
อันที่สองนี่ เป็นเรื่องอะไรลองไปอ่านดูครับ