โค้ชส้ม Citrus
Miss. ปรีดิ์ฤทัย โค้ชส้ม ตั้งจิตญาณพัฒน์

ใครคิดว่าอัจฉริยภาพเป็นพรสวรรค์ ต้องลองอ่าน "อัจฉริยะสร้างได้"


แนวคิดใหม่ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องของสมอง เป็นเพราะมนุษย์มีโอกาส และเทคโนโลยีที่จะศึกษาความละเอียดอ่อนของสมองได้มากขึ้น จนรู้ว่าสมองทำงานอย่างไร

    วันนี้เจ้านายส่งไฟล์บทความมาให้อ่าน เป็นเรื่องของอัจฉริยภาพสร้างได้ (สงสัยอยากให้เรามีความหวัง)  ซึ่งให้สัมภาษณ์ หรือตัดตอนมาจากหนังสือ ชื่อว่า "อัจฉริยะสร้างได้" นอกจากนั้น ผู้เขียน คือ คุณวนิษา เรซ ยังไปออกรายการสัมภาษณ์ จับเข่าคุย เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ใครไม่มีโอกาสได้ดู ลอง click ไปที่นี่ค่ะ นอกจากนั้นเธอยังคว้ารางวัลล้านที่ 15 จากรายการอัจฉริยะข้ามคืน

http://tv.sanook.com/vdo/player.php?contentID=219165

 

รีบดูกันนะคะ เพราะเดี๋ยวเขาจะนำออกไปเสียก่อน ส่วนหนังสือ ก็ขายดีจนขาดตลาด

 

      หลักๆ ก็เหมือนกับที่เราเคยศึกษาจาก Tony Buzan ที่พูดถึงการฝึกความคิดสร้างสรรค์ และการใช้เครื่องมือ mind map นอกจากนั้น ที่เคยเขียนบันทึกเกี่ยวกับการทำอะไรให้ได้ โดยเฉพาะการฝึกทักษะใหม่ๆ ควรทำต่อเนื่องไม่หยุดเลยอย่างน้อย 21 วัน (magic number) ได้รับการยืนยันแล้ว

     

      ที่เป็นเช่นนี้เพราะสมองจะสร้างเส้นใยประสาทใหม่ เมื่อคนเราเริ่มการเรียนรู้สิ่งใหม่ เช่น ไปเล่นโยคะ เล่นเปียโน ฝึกภาษา และเส้นใยจะแข็งแรงใน 2 วันแรก หากเราเลิก ละ ไม่ทำต่อ เส้นใยนั้นจะถูกสมองสั่งให้ตัดขาด  เมื่อกลับมาฝึกใหม่ก็จะงอกใหม่แต่ไม่แข็งแรงเหมือนเดิม   ทว่าถ้าเราทำต่อเนื่อง เส้นใยจะอยู่อย่างแข็งแรงและเมื่อครบ 21 วันจะมีไขมันมาหุ้มเส้นใย ซึ่งยากจะถูกตัดขาดอีก

 

     ดูวิดีโอคลิปนี้แล้วทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้น ว่าบางเรื่องทำไมทุกวันนี้ยังทำไม่ได้  ก็คงเป็นด้วยเหตุเช่นนี้เอง

     ขออนุญาตนำข้อความที่ได้จากใน web sanook มาแปะไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ เพราะน่าจะช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้เกิดขึ้นกับพวกเรา

ทิปส์ในการพัฒนาสมอง

1. จิบน้ำบ่อย ๆ
ส มองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยวซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ

2. กินไขมันดี
ค นไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย ปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น

3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที
หล ังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ (ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน

4. ใส่ความตั้งใจ
ก ารตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิดระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรม เราให้ไปสู่เป้าหมายนั้นทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้นทั้งสองอย่างจึงเป็นเ สมือนสิ่งเดียวกัน

5. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ
ทุกครั้งที่ย ิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อ ยๆ

6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน
สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่
ค ุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีนซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และสร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์

7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน
ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง

8. เขียนบันทึก Graceful Journal
ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี
ข อบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์

9. ฝึกหายใจลึก ๆ
สมองใช้ออกชิเจน 20-25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง
ค วรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่สามารถหายใจเอาออกชิเ จนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %

การมีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่าง ในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม


หมายเลขบันทึก: 113910เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2007 21:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะ

P

อ่านเหมือนกันค่ะ หนังสือเล่มนี้

จะมีเรื่องสมาธิด้วยค่ะ สมองต้องผ่อนคลายค่ะ ถึงจะมีจินตนาการสร้างสรรค์ค่ะ

ยังมีเรื่องราวอีกมากที่เราหลงลืมไปว่าแท้ที่จริงเราก็สามารถทำได้เช่นกัน

สวัสดีค่ะ

พี่ sasinanda

ขอโทษค่ะพี่ ช่วงนี้ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนเพื่อนๆ และเขียนบันทึกเลย แม้จะหยุดหลายวันแต่ก็มีภารกิจหลายอย่าง

เรื่องหนังสือ หาซื้อได้แล้วค่ะ ขายดีมาก ทำตลาดดี ยังอ่านไม่จบเลยค่ะ เรื่องสมองต้องผ่อนคลายจึงจะคิดได้ดี อันนี้จริงทีเดียวค่ะ เดี๋ยวจะมีเล่าเรื่องในบันทึกถัดไปค่ะ ขอบคุณพี่มากๆ ค่ะ ที่ช่วยหยิบประเด็นนี้มาให้ค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ

P
ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมเยียนกันค่ะ สำหรับเรื่องความสามารถซ่อนเร้น ที่เราไม่รู้ก็คือจุดบอด ที่เราต้องค้นหาให้เจอ บางทีอาจทำให้ชีวิตเรามีความสุขขึ้นก็ได้ ตอนนี้ตัวเองพยายามลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เกิดแรงบันดาลใจอยากไปเรียนดนตรีไทย แต่คิดว่าต้องกินทีละคำ ทำทีละอย่าง เพราะรู้สึกว่ามีเรื่องรออยู่หลายเรื่องมาก (หลังอ่านหนังสือเล่มนี้ ยิ่งอยากทำเรื่องที่ไม่เคยทำมากขึ้นค่ะ)

ได้ทำหลายอย่างคล้ายๆกับที่แนะนำค่ะ   รู้สึกว่าได้ผลดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท