ดิฉันมีลูกเป็นออทิสติก 1 คน เป็นลูกชายคะ อายุ 8 ขวบ สถานภาพตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ป.3 ในโรงเรียนปกติ ขอเล่าย่อๆว่า พบว่าลูกมีอาการออทิสติกเมื่ออายุได้ 8 ขวบ 10 เดือน ได้ทำการรักาาโดยนักกิจกรรมบำบัดเป็นเวลาปีกว่าๆ หมอก็บอกว่าอาการดีแล้ว เกือบเหมือนปกติ (หาย 85% จากความคิดของตนเอง แต่หมอบอกว่าหาย 100%)จนดีขึ้นมากพูดได้ปกติ เขียนหนังสือได้ อ่านหนังสือได้ดีมาก โดยที่ไม่เคยสอนเขาอ่านเลย แต่ยังมีอาการทางด้านสื่อสาร คือ จะไม่เก็บอะไรไว้ในใจ จะพูดออกมาหมด แม้แต่สิ่งที่ไม่ควรพูด อยู่ดีๆก็จะพูดมาลอยๆ แต่แม่รู้เรียนนะคะ เพราะชินแล้ว แต่คนอื่นจะไม่เข้าใจ อ้อ เขาเรียนได้ 92% ขึ้นไปคะ สรุปปัญหากรเรียนไม่มี แต่มีปัญหาด้านสื่อความและด้านสังคม ปัญหาที่พึ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้คือจะพูดซ้ำๆในสิ่งที่ตนเองชอบ และฝังใจ และทำอะไรเชื่องช้ามาก ทำการบ้าน 10 ข้อ ใช้เวลา 2 ชม.กว่า เพราะ สนใจมองสิ่งรอบตัวเป็นประจำ ถ้าเตือนก็จะทำทีหนึ่ง ถ้าเดินออกไป ก็จะสนใจสิ่งอื่นอีก อยากได้คำแนะนำบ้างคะ ว่าจะทำยังไงดี เพราะวิเคราะห์แล้ว ก็ไม่ได้เป็นเด็กสมาธิสั้น เพราะไม่ถึงกับเขียนหนังสือกลับหัว ถ้าชอบทำอะไรก็จะทำได้นานเหมือนเด็กปกติ ยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์บ้างคะ เพราะจริงๆแล้ว ถ้าไม่บอกให้คนอื่นรู้ว่าลูกเป็นอะไร เขาจะไม่รู้เลย เพราะเหมือนเด็กปกติมาก แต่พ่อแม่คนไหนกำลังพบปัญหานี้อยู่ ยินดีให้คำปรึกษาคะ
อาการของลูกชายคุณนัทเหมือนลูกชายมาก อายุก็ใกล้เคียงกันเลยค่ะ โดยเฉพาะอาการนี้ใช่เลย
"อาการทางด้านสื่อสาร คือ จะไม่เก็บอะไรไว้ในใจ จะพูดออกมาหมด แม้แต่สิ่งที่ไม่ควรพูด อยู่ดีๆก็จะพูดมาลอยๆ แต่แม่รู้เรียนนะคะ เพราะชินแล้ว แต่คนอื่นจะไม่เข้าใจ "
ไม่ทราบว่าคุณนัทมีวิธีแก้ไขอย่างไรคะ แต่ลูกชายน่าจะแย่กว่าตรงที่บางครั้งก็กระตุ้นต้วเองแบบยกมือขึ้นมามอง หรือซอยเท้าน่ะค่ะ ถามไม่ค่อยตอบ เหมือนแบบไม่ได้ฟังน่ะค่ะ ต้องถามย้ำหลายครั้ง
แล้วไม่ทราบว่าน้องปรึกษาคุณหมอที่รพ.ไหนคะ เคยทานยาหรือเปล่า อยากพาลูกชายไปบ้างน่ะค่ะ
สวัสดีค่ะคุณตุ้ม น้องนัทไม่เคยกินยา ฝึกแต่กิจกรรมบำบัด เน้นกระตุ้นปลายประสาทและสมาธิ ฝึกกล้ามเนื้อมือ ตอนแรกพาไปหาหมอที่โีรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ อาจารย์หมอสุรชัยเป็นวินิจฉัย แล้วส่งต่อให้นักกิจกรรมบำบัดรักษาต่อที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก (บ้านอยู่พิษณุโลกค่ะ) ตอนเริ่มรักษา อายุ 1 ปี 10 เดือน ฝึกแบบเข้มข้น ประมาณ 1 ปี ฝึกในที่นี้คือ นวดตัว ฝึกกิจกรรมที่เน้นกระตุ้นปลายประสาท ทำกิจกรรมเหมือนเด็กปกติ จะต้องไปโรงพยาบาลอาทิตย์ละ 3 วัน ครั้งละ 1 ชม. ที่เหลือนำวิธีที่นักกิจกรรมบำบัดบอกมาทำต่อที่บ้าน ขอเน้นว่า พ่อกับแม่เป็นบุคคลที่สำคัญที่สุด ฝึกพูดกับกระจก คือแม่จะพูดให้เขาฟังแล้วให้เขาดูในกระจกแล้วออกเสียงตาม เริ่มด้วยคำว่า อา และ ว คือคำว่า"เอา" เพราะว่าเวลาเขาจะกินนมเขาจะไม่บอก จะพูดเป็นคำที่ไม่รู้เรื่อง โดยตั้งเงื่อนไขว่าถ้าเขาจะกินนมต้องพูดว่า อา-วอ (เร็วๆจะออกเสียงเป็นเอา) นวดตัวด้วยผ้าที่หยาบๆ เอาแปรง(แปรงอาบน้ำขนนิ่มๆ)ปัดตามตัว กอดแน่นๆ ให้บ่อยที่สุด พานั่งรถเที่ยว เพราะเขาจะได้ไม่อยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ถ้านั่งมอเตอร์ไซด์ได้จะดี เพราะ เขาจะมองได้ทั่วทิศ ผ่านอะไรก็จะพูดให้เขาฟัง เช่น หมา ไก่ พระ ต้นไม้ ทำอย่านี้ทุกวัน ได้ประมาณ 4 เดือน เขาเจอหมา ก็จะเรียกหมาได้ชัดเจนเลย แล้วเรียกพ่อกับแม่ ได้ในเดือนถัดมา
ถ้าหากคุณตุ้มสนใจ ให้ลองไปที่โรงพยาบาลมหาราชะเชียงใหม่ดู โดยตรวจที่แผนกกุมารเวชก่อน เมื่อหมอวินิจฉัยแล้ว ให้ลองไปที่คณะเทคนิคการแพทย์ เขาจะมีเด็กที่เป็นออทิสติกอยู่ เขาจะแนะนำดีมาก พร้อมกับจะให้แบบฝึกและวิธีการรักษามา ถ้าหากเราอยู่ต่างจังหวัด ก็นำแบบฝึกไปพบนักกิจกรรมบำบัดในโรงพยาบาลที่เราอยู่ใกล้ ให้เขาแนะนำต่อ จะได้สะดวกเวลาพาไปรักษาค่ะ
หากมีอะไรสงสัยเพิ่ม ยินดีให้ข้อมูลด้วยความจริงใจค่ะ
พี่นัทอย่าทำลายนะจ๊ะโอเคเพื่อนพี่นัทดีใจ
เรื่องเด็กพิเศษที่ครูเข้าใจและพ่อแม่เข้าใจ
ใครไม่พบกับตนเองและไม่ได้สอนเด็กพิเศษเรียนร่วมกับเด็กปกติ ก็ไม่ทราบว่ามีความหนักใจมากน้อยแค่ไหน ทั้งคนเป็นแม่คนเป็นครูต้องระวังและดูแลอย่างดียิ่งมากกว่าเด็กปกติมีเวลาให้กับเขามากๆตั้งแต่การทานอาหาร การเรียนร่วมการเขียนและการเข้ากลับเพื่อนๆ การถูกล้อเรียนต้องดูแลมากที่สุด ยิ่งเด็กที่พ่อแม่ไม่ยอมรับสภาพลูกในความเป็นจริง โทษครูไม่ดูแลลูกสอนลูกเขาไม่รู้เรื่องฯ"นัท"เป็นลูกที่โชคดีที่สุดที่มีแม่ที่เข้าใจ ขอให้กำลังใจ