วันนี้คงเป็นวันหยุดยาววันสุดท้ายของใครหลายๆ คน
พรุ่งนี้เป็นวันทำงานวันแรกของศักราชใหม่
แต่สำหรับตลาดหุ้นในวันนี้เปิดเป็นวันแรก
พอดีมีโอกาสได้ดูข่าวเห็นว่าหุ้นขึ้นหลายจุด นักวิเคราะห์
(บางคน)
ให้ทัศนะว่าคงเป็นเพราะนักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในนโยบายของรัฐบาลมากขึ้น
หลังจากเมื่อปีที่แล้วตลาดหุ้นไม่คึกคักอย่างที่มีการคาดการณ์เอาไว้
เพราะ ต้องประสบกับความไม่เชื่อมั่นในรัฐบาล
ตลอดจนปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้
ยังไงก็ขอให้ตลาดหุ้นคึกคักอย่างนี้ตลอดไปนะคะ
เอาล่ะ พูดถึงเรื่องการเงิน
การลงทุนในระดับมหภาคกันมาพอหอมปากหอมคอแล้ว
เรามาเริ่มคุยกันเรื่องงานที่กำลังทำอยู่ดีกว่าค่ะ
เมื่อวานนี้ผู้วิจัยได้พูดถึงเกี่ยวกับการพัฒนา
คุณอำนวยของเครือข่ายฯและของกลุ่มไปแล้ว
ทีนี้ถ้ามาลงดูในรายละเอียดกันว่าจะดำเนินการอะไรต่อไป
ผู้วิจัยขอยอมรับตามความจริงว่ายังคิดไม่ออกเหมือนกันค่ะ
(เพราะนั่งคิดอยู่คนเดียว อีก 1-2
วันถ้ากลับไปถึงลำปางคงจะชัดเจนขึ้นค่ะ)
จากการที่ได้มีการพูดคุยกับประธานกลุ่มแม่ทะป่าตัน
เห็นว่าทางกลุ่มเตรียมตัวรับการประชุมสัญจรอย่างเต็มที่
ทางประธานกลุ่มฯได้เข้ามาพูดคุยกับผู้วิจัยว่าต้องการให้ทางกลุ่มจัดเตรียมอะไรบ้าง
ผู้วิจัยจึงได้แนะนำไปว่าให้พูดถึงการบริหารจัดการแต่ละกองทุน
การขยายสมาชิก
และการเชื่อมประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ซึ่งกลุ่มแม่ทะป่าตันนั้นทำได้ดีในทุกด้าน
เพียงแต่อาจยังไม่ครอบคลุมทั้งกระบวนการค่ะ
ทีนี้ถ้าหากจะออกแบบการพัฒนาคุณอำนวย
โดยเริ่มต้นที่การประชุมสัญจรที่กลุ่มแม่ทะนั้น
ในช่วงบ่ายผู้วิจัยจะเป็นคุณอำนวย (จำเป็น) ก่อน
โดยจะเริ่มจากการพัฒนาทักษะในเรื่องการสร้างสัมพันธภาพ
โดยให้คณะกรรมการแต่ละคนแนะนำตัวอง
(ความจริงไม่ต้องแนะนำก็ได้ค่ะ เพราะ
ทุกคนก็รู้จักกันอยู่แล้ว
แต่ผู้วิจัยเห็นว่าน่าจะมีหัวข้อนี้อยู่ด้วย เพราะ
คงจะมีผู้เข้าร่วมเวทีอยู่บางส่วนที่คณะกรรมการเครือข่ายฯไม่รู้จัก
แต่ในการแนะนำตัว
ถ้าจะให้ดีคงต้องคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาเสริม
มากกว่าที่จะให้แนะนำตัวธรรมดาค่ะ แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออกค่ะ
ความจริงแล้วจะว่าคิดไม่ออกก็ไม่ใช่
เท่าที่คิดออกในตอนนี้คิดว่าน่าจะให้แนะนำตัวเป็นเพลง
หรือเป็นกลอน แบบให้คล้องจองกันไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าทำอย่างนี้อาจทำให้คณะกรรมการเครียดแทนสนุกก็ได้ค่ะ
แต่ถ้ากรรมการไม่เครียด คนที่จะเครียดแทนก็คือ
ผู้วิจัยนี่แหละค่ะ)
หลังจากนั้นก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการพัฒนาศักยภาพคุณอำนวยในเรื่องของความรู้
ผู้วิจัยคิดว่าข้อมูลที่ทางกลุ่มเตรียมไว้
(การบริหารจัดการ การขยายสมาชิก
การเชื่อมประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)
จะสะท้อนให้เห็นความรู้ที่กลุ่มมีเป็นอย่างดีค่ะ
จะให้เวลาทางกลุ่มในการนำเสนอประมาณ 30-45 นาที
(ในส่วนนี้ถ้ามองว่าเป็นการพัฒนาในด้านความรู้ให้กับคุณอำนวยที่มาร่วมในวงการเรียนรู้ก็ได้
แต่แน่นอนว่าในอีกทางหนึ่งการนำเสนอของกลุ่มนั้นก็เป็นการพัฒนาทักษะในเรื่องการสื่อสารไปด้วยในตัว)
ในระหว่างการนำเสนอผู้วิจัยจะถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ
เก็บเอาไว้ด้วย
เมื่อนำเสนอเสร็จในส่วนต่อไปคงจะเป็นเรื่องของการตั้งคำถาม
คิดว่าในส่วนนี้คณะกรรมการคงมีการแลกเปลี่ยนหรือซักถามอยู่แล้ว
พระเอก
นางเอกของเวทีในช่วงนี้แน่นอนว่าคงเป็นคณะกรรมการเครือข่ายฯแน่นอน
โดยผู้วิจัยจะสวมบทผู้ช่วยพระเอก นางเอก
ในการแทรกคำถาม
(ในกรณีที่เห็นว่ามีประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน
หรือไม่มีการถาม)
หากพูดถึงการตั้งคำถาม
ผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสารในส่วนนี้มาบ้างแล้ว (นิดหน่อย) ค่ะ
ขอนำมาถ่ายทอดให้ฟังนะคะ
แต่ในการประชุมสัญจรครั้งนี้คิดว่าจะยังไม่สรุปให้คณะกรรมการฟังค่ะ
(เพราะ
รู้สึกว่าถ้าเริ่มต้นด้วยการสรุปแบบวิชาการอย่างนี้จะทำให้บรรยากาศดูตึงเครียดค่ะ
อยากลองใช้เทคนิคเหมือนที่พิจิตรดูค่ะ คือ
เสริมทักษะต่างๆเข้าไปก่อนสักระยะหนึ่ง
เมื่อคุณอำนวยเริ่มมีความเข้าใจและเรียนรู้ไปด้วยกันแล้วค่อยสรุป
น่าจะทำให้คุณอำนวยไม่งง
และไม่รู้สึกเครียดจนเกินไป)
ทักษะการตั้งคำถาม
1.เริ่มต้นด้วยการถามทีม
ไม่เจาะจงคนใดคนหนึ่ง
2.หยุดรอเพื่อเปิดโอกาสให้ทีมมีเวลาพิจารณาคำถาม
3.แสดงการรับรู้เมื่อสมาชิกตอบคำถาม
4.มองหาสัญญาณว่ามีผู้ใดต้องการตอบ เช่น สบตา
โน้มตัวมาข้างหน้า เป็นต้น
5.ถ้าไม่มีใครตอบ
- ถามสมาชิกว่าต้องการการอธิบายคำถามหรือไม่
- อาจเปลี่ยนคำถาม
6.หลีกเลี่ยงคำถาม ใช่-ไม่ใช่
ประเภทคำถาม
1.คำถามปลายเปิด
-
อย่างไร
- อะไร
- ทำไม (ถ้าไม่จำเป็น
ไม่ควรตั้งคำถามว่าทำไม เพราะ อาจทำให้ผู้ตอบรู้สึก
อึดอัดได้)
คำถามปลายเปิดเป็นคำถามที่มีประโยชน์ในการกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
2.คำถามเจาะลึก
ขึ้นต้นด้วย -
ช่วยเล่า , บรรยาย
-
ช่วยอธิบาย
-
ช่วยบอกหน่อย
เช่น
ช่วยเล่าหน่อยสิคะว่าตอนนี้ทางกลุ่มมีแผนในการเชื่อมประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างไรบ้าง?
3.คำถามโยนลูก
ใช้เมื่อสมาชิกถามคำถามเกี่ยวกับเนื้อหา
คุณอำนวยควรโยนลูกไปให้สมาชิกคนอื่นในทีมเป็นผู้ตอบ
เช่น
คำถามนี้ควรตอบโดยผู้มีประสบการณ์โดยตรง
มีใครเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้บ้าง/ท่านคิดว่าอย่างไร
4.คำถามสะท้อนเพื่อความเข้าใจหรือคำถามสรุป
ใช้ถามเพื่อสะท้อนว่าเข้าใจประเด็นของผู้พูดว่าอย่างไร
เช่น
- ช่วยตรวจสอบด้วยนะคะ
ดิฉันเข้าใจว่าคุณสำลีพูดว่า......................
- ตอนนี้เราคุยกันถึงไหนแล้ว
ขอความกรุณาให้ใครสักคนช่วยสรุปหน่อย
(ตรงนี้คงเป็นการฝึกทักษะการฟังและการเล่าเรื่องไปในตัวค่ะ)
5.คำถามสะท้อนเพื่อความรู้สึก
- สะท้อนความรู้สึกของสมาชิกภายในกลุ่ม
- ตรวจสอบเพื่อการปรับบรรยากาศในการประชุม
- ใช้เมื่อบรรยากาศตึงเครียดเท่านั้น
เช่น
คุณรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับข้อเสนอในที่ประชุมเมื่อสักครู่ใช่ไหม
หมายเหตุ : พึงระวังว่าสิ่งสะท้อนเป็นความรู้สึกของสมาชิก
ไม่ใช่การชี้นำของคุณอำนวย
6.คำถามปลายปิด
เป็นคำถามจำกัด........... ใช่/ไม่ใช่
คำถามปลายปิดจะมีประโยชน์สำหรับการอภิปรายที่เลื่อนลอย
วกวน
ข้อเสนอแนะ
- ควรให้มีความสมดุลระหว่างคำถามปลายเปิด
กับคำถามปลายปิด
-
ควรใช้คำถามต่อเนื่อง
ความจริงแล้วในเรื่องของการตั้งคำถามนั้น ตอนที่ไปพิจิตร
ผู้วิจัยได้มีโอกาสเข้าร่วมพัฒนาทักษะนี้ด้วย
จำได้ว่าตอนนั้นพิธีกรให้ผู้เข้าร่วมจับกลุ่มๆละ 3 คน
โดยให้ชื่อกิจกรรมนี้ว่า สัมภาษณ์ “คนดัง”
ใน 3 คนนี้จะมีบทบาทที่แตกต่างกัน คือ
คนที่หนึ่งเป็นนักข่าว ทำหน้าที่เป็นผู้ตั้งคำถาม
(ผู้สัมภาษณ์) คนที่สองเป็นนางงาม/นายแบบ
ซึ่งเป็นผู้ตอบคำถาม (ผู้ให้สมภาษณ์)
คนที่สามคือผู้สังเกตการณ์
จะทำหน้าที่ค้นหาว่านักข่าวใช้คำถามประเภทไหน
ปฏิกิริยาของผู้ตอบคำถามเป็นอย่างไร
พิธีกรจะให้เวลาประมาณ 5 นาที
หลังจากนั้นก็จะให้แต่ละทีมนำเสนอ
ผู้วิจัยจำได้ว่าตอนนั้นแต่ละคนที่เข้าร่วมดูสนใจกันมาก
คนถามก็พยายามตั้งคำถามให้ครบทุกชนิด
ส่วนคนตอบก็ลุ้นว่าคนถามจะถามว่าอย่างไร
ตัวเองก็ต้องคิดคำตอบอยู่ตลอดเวลา
ส่วนคนสังเกตการณ์นั้นดูเหมือนจะเอาเป็นเอาตายในการสังเกตและฟัง
ผู้สังเกตแทบทุกคนจะมีกระดาษโน้ตเอาไว้ติดตัวคอยจดว่าคนถามถามอะไร
คนตอบตอบอย่างไร
ถ้าจะปรับกิจกรรมนี้ให้เข้ากับกิจกรรมที่เราทำอยู่
ตอนนี้เท่าที่ผู้วิจัยคิดได้ก็คงจะให้ทีม แม่ทะเป็นผู้ตอบ
ส่วนคณะกรรมการเป็นผู้ตั้งคำถาม
ส่วนผู้วิจัยคงเป็นผู้สังเกตการณ์
(แต่คงไม่ใช่ผู้วิจัยคนเดียว
เดี๋ยวอยู่ในเวทีคงมีคณะกรรมการที่ทำหน้าที่นี้โดยไม่รู้ตัวค่ะ)
วันนี้ขอเล่าแค่นี้ก่อนนะคะ เพราะ
ต้องไปทำงานที่ค้างไว้
(ประกอบกับยังคิดไอเดียต่อไปไม่ออกค่ะ)
พรุ่งนี้ค่อยคุยต่อนะคะ ถ้ามีข้อเสนอแนะจะดีมากค่ะ
(ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอแนะบางส่วน
หรือข้อเสนอแนะให้ล้มวิธีการก็ได้ค่ะ) แล้วจะรอนะคะ
(หลายหัวดีกว่าหัวเดียวค่ะ ฮิ ฮิ!)
ช่วยกันหน่อเยนะคะ