beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

ซวยงัก (กำเนิดปาท่องโก๋ ๑)


เป็นพงศาวดารจีน ในสมัยราชวงศ์ซ้อง/ซ่ง (พ.ศ. 1503-1819)

   ชื่อเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่อง"ซวย" ในภาษาไทยนะครับ แต่ "ซวยงัก" เป็นพงศาวดารจีน ในสมัยราชวงศ์ซ้อง/ซ่ง (พ.ศ. 1503-1819) เริ่มเรื่องเมื่อเตียคังเอี๋ยนได้เป็นปฐมกษัตริย์พระนามว่า "ซ้องไทโจ๊วฮ่องเต้" และมีกษัตริย์ปกครองประเทศจีนเรียงลำดับไปดังนี้

         

ลำดับ 

 

ชื่อฮ่องเต้ 

จำนวนปีที่ครองราชสมบัติ 

หมายเหตุ 

 1.

 

ซ้องไทโจ๊ว

 16 ปี

 

 2.

 

ซ้องไทจง

 22 ปี

 

 3.

 

ซ้องจินจง

 25 ปี

 

 4.

 

ซ้องยินจง

 42 ปี

 

 6.

 

ซ้องซินจง

 18 ปี

 

 7.

 

ซ้องเตียดจง

 15 ปี

รวม 142 ปี

 8.

 

ซ้องฮุยจง

 

ต้นเรื่องซวยงัก

         

   เริ่มเรื่องเมื่อ พระเจ้าซ้องฮุยจงฮ่องเต้ เสวยราชย์ (ชาติก่อนเป็นเทพารักษ์) ชอบบูชาเทพยาดาและเทพารักษ์ วันหนึ่งทำคำอธิษฐานถึง"เง็กเซียนฮ่องเต้" (ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์) เขียนผิดเป็นคำหยาบไป เง็กเซียนฮ่องเต้ขัดเคืองสั่งให้ "มังกรหนวดแดง" ไปเกิดเป็นบุตรเจ้าเมือง ไตกิมก๊ก

(ราชวงค์กิม เผ่าแมนจู)
   

   หลวงจีนชั้นผู้ใหญ่ผู้หนึ่งกำลังเทศนาให้เหล่าเทวดาฟัง ทันใดนั้น "ค้างคาว" เพศเมียตัวหนึ่งฟังธรรมเพลินไปจึงถ่ายอุจจาระมาถูกเทวดา "นกอินทรี" อยู่ในที่นั้นด้วย โกรธค้างคาวจึงบินไปจิกค้างคาวตาย ค้างคาวตายไปก็มีจิตอาฆาตจะไปเกิดเป็นมนุษย์คอยจองเวรนกอินทรี  

    หลวงจีนผู้วิเศษจึงสั่งให้ นกอินทรีไปเกิดเป็นมนุษย์เพื่อใช้เวรให้หมดและไปช่วยเจ้าแผ่นดินซ้องปราบมังกรหนวดแดงด้วย

   เมื่อนกอินทรีบินไปหาที่จุติ ไปพบ "มังกร" ตัวหนึ่งเล่นน้ำอยู่ที่แม่น้ำอึ้งโห จึงบินลงไปโฉบจิกเอาตามังกรบอดไปข้างหนึ่ง มังกรตัวนั้นก็มีความอาฆาตคิดจะตอบแทนนกอินทรีให้ได้

    นกอินทรีไปจุติอยู่ในท้องของนาง"เอียวสี" ภรรยา "งักหัว" เศรษฐีเมืองเซียงจิว เมื่อครบกำหนดนางเอียวสี คลอดบุตรเป็นชายได้ชื่อว่า "งักฮุย"  เมื่องักฮุยเกิด (ประมาณ พ.ศ. 1646) ได้ 3 วัน มังกรตาบอดมีความอาฆาต ก็ตามมาที่เมืองเซียงจิวทำให้ฝนตกหนักน้ำท่วมราษฎรตายกันทั้งตำบล งักหัวบิดางักฮุยก็ถึงแต่ความตาย ส่วนมารดางักฮุยนางเอียวสีอุ้มบุตรลงไปอยู่ในโอ่ง งักฮุยกับมารดาจึงรอดตาย

   เมื่อเง็กเซียนฮ่องแต่แจ้งว่ามังกรที่แม่น้ำอึ้งโหทำให้น้ำท่วมราษฎรตาย จึงสั่งให้เอาตัวมังกรไปประหาร เมื่อมังกรตาบอดจะตาย มีใจเจ็บแค้นนกอินทรี จึงไปเกิดเป็นมนุษย์เพื่อคอยล้างผลาญนกอินทรีอยู่ที่เมืองเปียนเหลียน (เมืองหลวงราชวงค์ซ้อง)

   งักฮุยพอโตขึ้นก็ได้เรียนตำราพิชัยสังคราม พระเจ้าซ้องฮุยฮ่องเต้ชราภาพลงก็มอบเวรราชสมบัติให้ไทจือปกครอง พระนามว่า "ซ้องคิมจงฮ่องเต้" (เป็นกษัตริย์ที่โง่เขลา)

   ฝ่ายพวกฮวนเมืองไตกิมก๊ก (เผ่าแมนจู) อยู่ฝ่ายเหนือนอกเขตแดนจีน ส่งสายลับมาสืบความที่เมืองเปียนเหลียน ได้ทราบความเป็นไปแล้ว ลังจู้เจ้าเมือง จึงส่งบุตรชายคนที่ 4 ชื่อ "กึมงิดตุด" (มังกรหนวดแดง) เป็นแม่ทัพมาตีเมืองจีน (สมัยตอน beeman เรียนชั้นประถมปีที่ 4 ได้เรียนพงศาวดารจีนเรื่อง "ซวยงัก" ตอน "กิมงิดตุด" ตีเมืองลูอันจิวด้วย..ท่านผู้อ่านท่านใดเรียนร่วมสมัยกับ beeman บ้างครับ)

   กึมงิดตุด แม่ทัพฮวน ตีเมืองหน้าด่านของจีนจนเข้ามาถึงแดนเมืองหลวง เตียปังเชียงอัครมหาเสนาบดีของจีน ขุนนางกังฉิน สมคบกับแม่ทัพฮวน เจรจาให้ พระจ้าซ้องคิมจงฮ่องเต้ยอมแพ้ แล้วส่งพระอนุชาชื่อ "เตียอ๋อง" ไปเป็นตัวประกัน โดยมีขุนนางชื่อ "ชีนไคว่" (มังกรตาบอด) ติดตามไปด้วย พอเตียอ๋องไปถึงค่ายแม่ทัพฮวน ก็ถูกทหารฮวนลากลงมาจากม้าด้วยกำลังแรงขาดใจตาย เตียปังเชียงจึงไปลวงให้ พระเจ้าซ้องคิมจง ส่งพระอนุชาอีกองค์หนึ่งชื่อ "คังอ๋อง" ไปเป็นตัวประกันแทน กิมงิดตุด ชอบใจรูปร่างของคังอ๋องอยากให้เป็นกษัตริย์แทนพระเจ้าซ้องคิมจง จึงให้เตียปังเชียงไปลวง พระเจ้าซ้องคิมจง และไทเซียงฮอง (บิดากษัตริย์คืออดีตพระเจ้าซ้องฮุยจง) ให้ออกมานอกเมืองเปียนเหลียนแล้วจึงจับตัวส่งให้ขุนนางคุมไปอยู่เมืองไตกิมก๊ก

   พอกิมงิดตุดจัดแจงเมืองเปียนเหลียนเรียบร้อยแล้ว (ขนทรัพย์สมบัติไป) จึงให้เตียปังเชียงดูแลเมืองเปียนเหลียน ส่วนตัวเองก็ยกทัพกลับไปเมืองไตกิมก๊ก

  กษัตริย์ 2 พระองค์เมื่อไปถึงเมืองฮวน ก็ถูกนำไปคุมขังไว้ในหลุมมืด ส่วนคังอ๋องนั้นได้อยู่กับกิมงิดตุดสุขสบายดี พอปีหน้าฟ้าใหม่ กิมงิดตุดก็ยกกองทัพไปตีหัวเมืองขึ้นของเมืองเปียนเหลียน คังอ๋องก็ติดตามไปด้วย

  คังอ๋อง (พระราชบุตรที่เก้าของไทเซียงฮอง) หนีกิมงิดตุดข้ามแม่น้ำไปได้ ไปอยู่ที่เมืองกิมเหลง (เมืองหลวงเก่า) ตั้งตัวเป็นกษัตริย์นามว่า "พระเจ้าซ้องเกาจงฮ่องเต้" (พ.ศ. 1670-1704) แล้วมีหนังสือประกาศไปถึงหัวเมืองทั้งปวงให้ยกทหารมาช่วยที่เมืองกิมเหลง

   ถึงตอนนี้ราชวงศ์ซ้องเริ่มตั้งแต่พระเจ้าซ้องเกาจงเมืองหลวงจะอยู่ที่เมืองกิมเหลงแล้วย้ายไปเมืองนิ่มอัน เรียกว่า น่ำซ้อง หรือซ่งฝ่ายใต้  ส่วนก่อนหน้านั้นกษัตริย์ 9 พระองค์ ครองราชย์รวม 167 ปี ตั้งเมืองหลวงที่เมืองเปียนเหลียนเป็น ซ่งฝ่ายเหนือ

สรุปตัวละครในที่นี้

         
 

อดีต 

 

ไปเกิดเป็น

หมายเหตุ

1.  มังกรหนวดแดง   กิมงึดตุด บุตรเจ้าเมืองไตกิมก๊ก
2. นกอินทรี   งักฮุย แม่ทัพแผ่นดินซ้อง
3. มังกรตาบอด   ชีนไคว่(ฉินข้วย/ ชิงไกว่) อัครมหาเสนาบดี
4. นางค้างคาว   นางเฮงสี ภรรยาชีนไคว่

  

     
  หนังสือ "ซวยงัก"  
  หนังสือพงศาวดารจีน
เรื่อง "ซวยงัก"
 
     
หมายเลขบันทึก: 11039เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2005 22:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอบคุณมาก ๆ ครับที่ทำให้ได้ทราบตำนานของปาท่องโก๋  ซึ่งก็เป็นขนมโปรดของกระผมด้วยครับ   เอ..แล้วซาลาเปา ที่มักขายคู่กับปาท่องโก้ล่ะครับ  จะมีตำนานบ้างหรือเปล่าครับ

 

spyman135  Tel. 0 - 4726 - 4538

  • คุณ spyman คงอ่าน 5 ตอนรวดแล้วครับ ถึงได้มาแสดงความคิดเห็นไว้ในตอนที่ ๑
  • เรื่อง "ซาลาเปา" คงมีตำนานแน่ครับ แต่ผมยังไม่ได้ค้นคว้า เอาไว้ว่างๆ ก็จะเขียนอีกครั้งครับ
  • ตอนนี้ผมทราบแต่ตำนาน "หม่านโถ" ครับ เอาไว้ผมเล่าพร้อมกับเรื่อง "ซาลาเปา" แล้วกันครับ
หม่านโถว  มาจากคำว่า  ศีรษะของชาวแมนจู  มันมีประวัติ  ขอให้อัพเดท  พอทราบประวัติมาบ้างอยากอ่านให้ละเอียดกว่านี้  อย่าให้รอนานนะคะ  ขอบคุณค่ะ

ขอประทานโทษที่เข้ามาโพส แต่อยากจะเพิ่มเติม เรื่อง ปาท่องโก๋ ครับ

ประวัติ ปาท่องโก๋ นั้น มีมานานแล้ว แต่จริงๆแล้ว คิดว่า ท่านเจ้าของกระทู้ คงทราบ

ปาท่องโก๋ ที่คนไทยเกือบทั้งประเทศ (ยกเว้นภาคใต้) เรียกชื่อนั้น จริงๆ ชื่อ ของ ขนม

แป้งทอดน้ำมัน ที่ติดกันเป็นคู่ เขาเรียก ว่า อิ้ว จา ก้วย ผมเอง เป็น คนจีน ทางภาคใต้ ก็เรียก แบบนี้มาตั้งแต่เด็กครับ

อิ้ว จา ก้วย แปล ตรง ตัว ว่า ขนม ทอดน้ำมัน

ที่ จีน ที่ ฮ่องกง และ ที่สิงคโปร เขาก็เรียก อิ้ว จา ก้วย หรือ บางถิ่น เรียก ว่า จาโก้ย

มีแต่เมืองไทย เกือบทั้งประเทศ ยกเว้น ภาคใต้ บาง ท้องถิ่น ที่เรียกถูกต้อง

ส่วน ปาท๋องโก๋ นั้น คือ ขนม สีขาว หวานๆ แปลตามตัว ปาท่องโก๋ คือ ขนม น้ำตาลขาว ครับ

มีคนไทยหลายคน ไปรับประทาน ติ๋มซำ ที่ ฮ่องกง แล้ว สั่ง ปาท่องโก๋ เขาก็ ยกขนมน้ำตาลขาว มาให้

ก็ไปว่าเขายกมาผิด พอพูดไปพูดว่า ก็ไปบอกเขาว่า อิ้ว จา ก้วย ที่เรียก ถูก ต้อง ที่เมืองไทย เขาเรียก ว่า ปาท่องโก๋ ครับ

จีนที่เขาเรียกมาถูก ก็เลย งง ครับ

เด็กรุ่นใหม่ ผมเดา ว่า ก็ คงไม่ทราบ ครับ

นี่แหละ ครับ การ เพี้ยน ทาง ภาษา ของ คนไทย ที่เพี้ยน จนเรียกผิดกันจนติดปาก

สาเหตุของการเรียกผิดเนื่องจาก

สมัยก่อน เวลา เขาขาย เขาจะขายคู่กัน โดยเฉพาะ เวลาไปหาบขาย หรือ ไปเดินขาย เขาจะตะโกนว่า

อิ้วจาก้วย ปาท๋องโก๋

คนมักจะชอบกิน อิ้วจาก้วย มากกว่า แต่ได้ยิน เฉพาะ คำที่ตะโกน ตอนหลัง

คนไทยจึงคิดว่า อิ้วจาก้วย ที่ตนเอง ชอบกิน นั้น คือ ปาท่องโก๋

จึงเรียกผิดมาตั้งแต่จากนั้น

คนปัจจุบันบางคน ก็ออกมาบอกว่า กทม เขาเรียก ปาท่องโก๋ แต่ ทางใต้

เขาเรียก อิ่ว จาก้วย

ที่ถูกต้อง คือ ไม่ใช่ ที่ถูกต้อง ตาม ภาษา และ ชื่อ ของ เขา จริง ๆ คือ

อิ่ว จา ก้วย หรือ จาโก้ย ที่ คนทางใต้เขาเรียกนะครับ

ปาท่องโก๋ คือ ขนม น้ำตาลขาว นิ่มๆ

มีขายเหมือนกัน ที่ใต้ แต่ไม่ค่อยมีคนชอบกินครับ

บอกไว้ให้ทราบนะครับ แต่จะไปแก้ไขให้ถูกต้อง คงไม่ชินปากคนไทยแล้วละครับ

เพราะบางคน เรียก ผิด มาตั้งแต่เกิด แล้ว ละครับ

  • ขอบคุณ คุณแมคครับ ที่มาช่วยเติมเต็ม
  • หากใครอ่าน comment นี้ แนะนำให้อ่านบันทึกนี้ควบคู่กันไปด้วยครับ http://gotoknow.org/blog/beesman/11362

ฝันถึง เลยมา searchเพราะตอนนั้นจำได้แค่ว่า ครูให้อ่านเป็นตัวแทนโดยอ่านแทนตัวละคร เล็กเต็งและสะดุด กับตัวละคร กิมงิดตุด(ให้หลังมา 43 ปี)ถึงเพิ่งรู้ ว่ามาจาก เรื่อง ซวยงัก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท