การถอดบทเรียนเป็นเครื่องมือที่นักพัฒนากล่าวถึงและใช้กันมากเครื่องมือหนึ่ง เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราพัฒนางานไปสู่เป้าหมายได้ ได้เรียนรู้ พัฒนางาน พัฒนาตนเอง และพัฒนาองค์กร เรียกว่าไม่เรียนไม่รู้ ไม่ลงปฏิบัติ ไม่พัฒนา
วันนี้ (๓ กรกฎาคม ๒๕๕๐) ได้มีโอกาสได้ถ่ายทอดความรู้เรื่องการถอดบทเรียนให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับอำเภอและตำบล เรื่องการถอดบทเรียน เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินงานโครงการสร้างเสริมสุขภาพในพื้นที่ มีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วม ๑๕ คน แต่ละคนล้วนมีโครงการสร้างเสริมสุขภาพในชุมชนซึ่งได้รับงบประมาณจาก สปสช. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวันนี้จึงเป็นการปูพื้นฐานเรื่องการจัดการความรู้และการถอดบทเรียน และที่สำคัญคือการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การถอดบทเรียนซึ่งกันและกัน
ผมเองได้มีโอกาสเล่าเรื่องการถอดบทเรียนจากประสบการณ์ตรงของผม ข้อจำกัด และข้อพึงระวังที่มักจะพบในการถอดบทเรียนที่ผมสั่งสมมาจากการจัดกระบวนการเรียนรู้ในการถอดบทเรียนเรื่องต่างๆ ประเด็นที่ควรคำนึงในการถอดบทเรียน
· ผู้จัดการอยากให้ทำโดยไม่ได้รู้ว่าถอดบทเรียนหัวใจคืออะไร แต่อยากทำเพียงให้คนอื่นรู้ว่าได้ทำเท่านั้น
· เป้าหมายหลัก คืออะไร ? ถ้าไม่ชัดความรู้ที่ถอดมาอาจไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้
· การเตรียมสถานที่ที่พร้อม เงียบสงบ และเหมาะแก่การเรียนรู้แบบครุ่นคำนึง หลายครั้งที่พบว่าจัดในสถานที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้
· กลุ่มเป้าหมายที่พร้อมในการเรียนรู้ ไม่มีเวลาสำหรับการเรียนรู้ ไม่ชอบครุ่นคิด อยากทำให้เสร็จๆ ไปเท่านั้น
· ผู้ช่วยการจัดการถอดบทเรียน หลายครั้งทำคนเดียว ทั้งบทบาทคุณอำนวย และคุณกิจ ซึ่งเป็นการยากมากในการเรียนรู้
· การจัดการขุมความรู้ คือได้บทเรียนการเรียนรู้แล้วไม่ได้นำมารวบรวมเป็นคลังความรู้การแลกเปลี่ยนรู้
วันนี้ถือเป็นการติดอาวุธให้กับทีมสุขภาพทั้ง ๑๕ โครงการ ต่อจากนี้ทีมทั้งหมดก็จะนำเครื่องมือนี้ไปปรับใช้ในการพัฒนางานโครงการในพื้นที่ต่อไป เรียกว่าวันนี้ได้รู้จักจักรยานและเทคนิคการขี่จักรยานแล้ว เหลือเพียงอย่างเดียวคือการขึ้นอานแล้วปั่นไปเท่านั้นเอง
ไม่มีความเห็น