สมุนไพรกับการพัฒนาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

สูตรความงามที่ผมจำได้ มีส่วนผสมดังนี้ มะขามเปียก 1 ส่วน แตงกวา 1 ส่วน โยเกิร์ต 1 ขวด น้ำผึ้งรวง 1 ส่วน ขมิ้นชันผง 1 ส่วน มะเขือเทศ 1 ส่วน นำมาผสมคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน จนเป็นน้ำแล้วนำไปพอกหน้าก่อนนอนประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยล้างน้ำสะอาดออก ทำทุกวันจะเห็นผล ผิวสวย อ่อน นุ่ม กว่าวัย มีน้ำมีนวล

เคยมีคำกล่าวของ นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข) กล่าวว่า... " สมุนไพรเป็นภูมิปัญญาไทยมาแต่โบราณที่ผ่านมาเราได้ละทิ้งความสนใจมานาน และได้หันไปนิยมการแพทย์แผนตะวันตก แต่ในขณะนี้ความตื่นตัวทางด้านการแพทย์แผนตะวันออก กำลังอยู่ในความสนใจของประชาชนคือ มองเรื่องสุขภาพ แบบองค์รวมโดยการบำบัดด้วยการแพทย์ทางเลือก" .... ก็แสดงว่าเรื่องสมุนไพรกับสุขภาพของคนไทยเปลี่ยนไปในทิศทางที่มีความสำคัญมากขึ้น และเป็นเรื่องใกล้ตัวและในอนาคตประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในสังคมโลก

ซึ่งเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2550 ได้ฟังการพูดคุยบอกเล่าจากคุณเสถียร แสงอรุณ นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาการแพทย์แผนไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ บ้านนายจำลอง จำนงค์พันธ์ หมู่ที่ 6 บ้านล้อมปุด ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง ซึ่งได้รับเชิญมาบรรยายและเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทยแก่สมาชิกกลุ่มสมุนไพรโดยมีสมาชิกเข้าร่วมรับฟังประมาณ 50 คน

คุณเสถียร เล่าให้ฟังว่า การปลูกพืชสมุนไพรดีอย่างไร มีประโยชน์ต่อมนุษย์อย่างไร และสามารถดำเนินงานในรูปแบบเศรษฐกิจครัวเรือนจนถึงระดับพัฒนาเป็นธุรกิจได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไร

ผมได้เพิ่มเดิมข้อมูลในฐานะผู้ประสานงานและรับผิดชอบในพื้นที่โครงการอนุรักษ์และส่งเสริมพืชสมุนไพรว่าพื้นที่ปัจจุบันประเทศไทยมีสมุนไพรที่ใช้เป็นยาและเครื่องสำอางค์ประมาณ 500 ชนิด บางหน่วยงานที่รับผิดชอบได้พัฒนาและปรับปรุงเพื่อใช้ประโยชน์ทางยามีมูลค่าไม่ต่ำกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะมีการผลิตอัตราการขยายตัวของตลาดสมุนไพรของไทยและทั่วโลกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ต่อปี

คุณเสถียร และคณะฯ ที่มาบรรยายแก่สมาชิกเล่าว่าขณะนี้สมุนไพรที่ควรปลูกและแปรรูปที่สำคัญและรายได้ในท้องถิ่น เช่น กวาวเครือ ขมิ้นชัน ตะไคร้หอม บุกเนื้อทราย พญายอ พริกไทย ไพล ฟ้าทะลายโจร มะแว้งเครือ ส้มแขก หญ้าหวาน หางไหล อบเชย โดยเฉพาะ ขมิ้นชัน เป็นพืชล้มลุกอายุหลายปีมีส่วนของลำต้นใต้ดินเรียกว่า เหง้า ซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย และสายให้สี ทำให้เหง้ามีสีเหลืองเข้มและมีกลิ่นเฉพาะ ลำต้นเหนือดินสูง 30-90 ซม. ปลูกแล้วดูแลรักษาให้ดีแล้วจะให้ผลผลิตปีละ 3,000 กิโลกรัม/ไร่ อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 11 เดือน

ตะไคร้หอม เป็นไม้ล้มลุก แตกหน่อเป็นกอเหมือนตะไคร้แกง ที่โคนต้นมีกาบเป็นชั้นๆ หุ่มด้วยลำต้นเป็นปล้องๆ ลำต้นเป็นสีม่วง ลำต้น ใบใหญ่ และยาวกว่าตะไคร้แกง มีกลิ่นฉุนกว่า ดอกออกเป็นช่อยาวใหญ่ สีน้ำตาลแดงคล้ำ อายุเก็บเกี่ยว 6-8 เดือน ผลผลิต 1 ตัน/1 ครั้ง/ไร่ การแปรรูป ใบสดต่อน้ำมันหอมระเหย = 1 ตัน = 1 ลิตร สกัดเป็นน้ำมันเพื่อใช้กำจัดหนอน แมลง ยุง ได้เป็นอย่างดี ส่วนการปรุงยาสมุนไพรที่มีขั้นตามกรรมวิธีของไทยมีหลายวิธีที่นิยมมากที่สุดมีอยู่ 5 วิธีคือ ยาชง ยาต้ม ยาดอง ยาผง ยาลูกกลอน

คุณเสถียร เล่าต่อมาว่าการเก็บรักษาสมุนไพร ตลอดจนเทคนิคการเตรียมสมุนไพร ก็มีความสำคัญมาก เพราะหากเก็บไม่ถูกวิธีหรือเก็บรักษาไม่ถูกต้อง จะเกิดเชื้อรามีหนอน เปลี่ยนกลิ่น เปลี่ยนสี ทำให้ยาสมุนไพรเสื่อมคุณภาพลงทำให้ได้ผลไม่ดี ต่อฤทธิการรักษา หรือสูญเสียฤทธิทางการรักษาได้ ฉะนั้นจึงต้องเก็บรักษาให้แห้ง สถานที่เก็บจะต้องแห้ง เก็บรักษาชนิดยาให้เป็นหมวดหมู่ มีการป้องกันแมลง มด หนู

โดยสรุปเรื่องสมุนไพรพูดเท่าไหร่ก็ไม่หมดอบรมเป็นปี ก็ยังไม่รู้แจ้ง แต่สิ่งควรทำเพื่อให้สอดคล้องตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงควรให้สมาชิกทุกคนปลูกอย่างละ 3-5 ชนิด มาจำหน่ายที่กลุ่ม กลุ่มจะเป็นผู้บริหารจัดการตามระเบียบข้อบังคับมีคณะกรรมการแต่ละฝ่ายรับผิดชอบ ประชุมร่วมกันทุกเดือน เชิญวิทยากรมาเล่าประสบการณ์อย่างวันนี้มีปัญหา ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมรับผิดชอบ และร่วมรับประโยชน์ กลุ่มก็จะได้เข็มแข็งและยั่งยืน

คุณโชคชัย หนึ่งในคณะ ผู้มาแชร์ประสบการณ์เล่าให้ฟังถึงสรรพคุณของสมุนไพรชนิดต่างๆ ฟังแล้วท่านผู้อ่านครับน่าปลูกเกือบทุกชนิดเลย และสามารถนำไปปรุงเป็นยาได้เอง หรือที่เรานำมาปรุงเป็นอาหารเราก็มีสมุนไพรอยู่แล้ว นี้แหล่ะอาหารไทยเลยดังเกือบทั่วโลก เช่น ต้มยำกุ้ง ยกตัวอย่างสูตรความงามที่ผมจำได้ มีส่วนผสมดังนี้ มะขามเปียก 1 ส่วน แตงกวา 1 ส่วน โยเกิร์ต 1 ขวด น้ำผึ้งรวง 1 ส่วน ขมิ้นชันผง 1 ส่วน มะเขือเทศ 1 ส่วน นำมาผสมคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน จนเป็นน้ำแล้วนำไปพอกหน้าก่อนนอนประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยล้างน้ำสะอาดออก ทำทุกวันจะเห็นผล ผิวสวย อ่อน นุ่ม กว่าวัย มีน้ำมีนวล หากได้ผลประการใดกรุณาบอกต่อนะครับ ยังมีอีกหลายสูตร หลายขนาน หากผู้ใดสนใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่: คุณเสถียร แสงอรุณ นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาการแพทย์แผนไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี โทร.007-295671-2 มือถือ 081-5975889 หรือนายจำลอง จำนงค์พันธุ์ โทร.086-2772314 แล้วคุณจะไม่ผิดหวังเลยล่ะครับ

เขียนใน GotoKnow โดย ลุงขนุน
ใน ส่งเสริมการเกษตรด้านไอที

คำสำคัญ (Tags): #คนสุราษ#เกษตรท่าฉาง#เกษตรสุราษฎร์ฯ#เกษตรอินทรีย์

หมายเลขบันทึก: 108006เขียนเมื่อ 2 กรกฎาคม 2007 12:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน