กำหนดเป้าหมายงานสู่แรงจูงใจ


นักส่งเสริมการเกษตรที่ลงปฏิบัติงานกับชุมชนและเกษตรกร

               ในปัจจุบันนี้ กระแสการวัดคนทีผลงาน   เริ่มมาแรงทุกขณะ ทั้งในภาครัฐและเอกชน ที่เริ่มเอาแนวคิดนี้มาใช้อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นทุกวัน   ความแรงของกระแสดังกล่าวนี้คงไม่มีใครจะสามารถหยุดมันได้   ประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่ว่า แล้วเราในฐานะคนทำงานจะต้องปรับตัวกันอย่างไร จึงจะช่วยการนำพาองค์กรที่เราสังกัดอยู่  ได้ไปสู่เป้าหมายหรือไปสู่วิสัยทัศน์ขององค์กร

 

                   ถ้าหากไม่มีการแข่งขัน การพัฒนาองค์กรจะมีน้อยหรือไม่มีเลย เพราะว่าบุคลากรในองค์กรส่วนหนึ่งจะบอกว่า เราไม่พัฒนาก็ยังอยู่ได้  ในชีวิตคนเราก็เช่นกัน ถ้าไม่มีอะไรมาบีบบังคับ เรามักจะปล่อยชีวิตไปแบบเรื่อยฯสบายฯ  การแข่งขันนี้ไม่ได้หมายความเพียงแต่การแข่งขันกับผู้อื่น  แต่รวมถึงการแข่งขันกับตัวเราเอง  แข่งขันกับเวลา หรือแข่งขันกับสถิติ

 

                 การทำงานต้องตั้งเป้าหมาย  โดยเฉพาะนักส่งเสริมการเกษตร ที่ลงปฏิบัติงานกับชุมชนและเกษตรกร  จะต้องตั้งเป้าหมายในการทำงานอยู่ตลอดเวลา  ต้องมีการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง  พร้อมกับฝึกทักษะในการปรับฐานคิดหรือการพัฒนาวิธีคิด  ผมจะขอบอกกล่าวถึงประเด็นที่เราควรเริ่มต้นในการพัฒนามีดังนี้คือ

                  

               1. ตั้งเป้าหมายในการพัฒนางาน โดยให้มองแผนงาน,โครงการ,กิจกรรมต่างฯเป็นกิจกรรมที่สนับสนุนให้เป้าหมายงานนั้นได้บรรลุผล

               2.  คิดและทำอย่างเป็นระบบ      ควรจะมองให้เชื่อมโยงจากเป้าหมายงานแล้ว   ต้องวิเคราะห์ว่าจุดเริ่มต้นอยู่ที่ไหน จุดสิ้นสุดอยู่ที่ไหน  สิ่งที่องค์กรต้องการนั้นคืออะไร แล้วให้ลองเขียนเป็นคู่มือวิธีการในการปฏิบัติงานเป็นลายลักษ์อักษร    เพื่อนำไปปฏิบัติดู    หากติดขัดตรงจุดไหนก็แก้ไขที่คู่มือ   จากนั้นนำไปใช้ให้ติดเป็นนิสัย ไม่ใช่ทำงานแบบออาศัยกึ๋นและเก๋า เพียงอย่างเดียว

               3.  จัดลำดับความสำคัญของงานก่อนลงมือทำ  ให้พิจารณาจากปัจจัยสองประการคือ ความสำคัญและความเร่งด่วน  งานไหนที่สำคัญและเร่งด่วนก็ทำก่อน  งานไหนสำคัญมากแต่เร่งด่วนน้อยก็จัดเวลาให้เหมาะสม

               4.  ควรใช้เวลาในการวางแผน     การวางแผนควรแบ่งเวลาให้นานหน่อย  คิดให้รอบคอบ คิดหลายฯมุม คิดหลายฯแนวทาง  หลายฯทางออก และหลายฯทางเลือก   เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละทางเลือก    ถ้าหากเราได้วางแผนที่ดีแล้ว เมื่อลงมือปฏิบัติจะใช้เวลาน้อยลง   ประสิทธิภาพของงานมันจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

                5. วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน    พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้  ควรมีการทบทวนกระบวนการและวิธีทำงานเป็นระยะฯว่าการทำงานในเรื่องนั้นที่ผ่านมามีข้อบกพร่องหรือไม่  ถ้ามีก็ปรับปรุงแก้ไขค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งบางครั้งจะส่งผลดีในระยะยาว

                    สรุปว่า การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานไม่ใช่เรื่องยาก   แต่ยากที่จะเริ่มลงมือทำมากกว่า และหากนักส่งเสริมการเกษตรท่านใดยังไม่มีแรงจูงใจในการพัฒนางาน   มัวแต่คิดว่าทำไปก็เท่านั้น ผลงานเท่าเดิม  ทำไปผู้นำองค์กรก็ไม่เห็นความสำคัญ ฯลฯ  ผมจะขอแนะนำว่าลองคิดเสียใหม่ว่าเราจะต้องพัฒนาศักยภาพของตนเองคือจุดเริ่มต้นของผลงาน     เราจะทำงานแบบมีความสุขและมีความสุขเมื่อได้ทำงาน     ณ.วันนี้เราต้องสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเองแล้วครับยังไม่สายสำหรับการเริ่มต้นและลงมือทำ 
คำสำคัญ (Tags): #แรงจูงใจ
หมายเลขบันทึก: 107752เขียนเมื่อ 1 กรกฎาคม 2007 10:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม 2012 13:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  •  ไม่เริ่มนับ 1 แล้วเมื่อไร จะถึง 10
  • ขอบคุณครับ ที่แบ่งปัน

สวัสดีครับหนุ่มร้อยเกาะ    ขอบคุณครับที่มาแวะเยี่ยมและลปรร.ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท