เมื่อหันกลับมาดูที่คุณครูผู้สอน รู้สึกว่าครูปฏิบัติงานไปวันๆ หรือว่าครูที่อยู่นานๆ เกิดความเบื่อหน่ายหรือถึงจุดอิ่มตัวในการทำงาน แต่พอพูดคุยแล้ว มีหลายประการที่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวครู ครูไม่รู้ ไม่ทราบข้อมูลความเป็นไปของโรงเรียน เมื่อดูข้อมูลการพัฒนา ก็ทราบว่าครูไม่ได้ไปอบรม สัมมนา ไม่สมกับอยู่ในจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางการศึกษา แต่ไปโทษคุณครูไม่ได้ ต้องเป็นข้อบกพร่องด้านบริหารจัดการแน่นอน และเมื่อมาวิเคราะห์ข้อมูลด้านบริหารจัดการที่มุ่งเน้นการพัฒนาเชิงระบบแล้ว พบว่าโรงเรียนควรพัฒนาด้านกายภาพ และด้านวิชาการ เป็นเบื้องต้น และในการพัฒนาให้ได้ผลนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาครูผู้สอนเป็นสำคัญในอันดับแรก เนื่องจาก จากข้อมูลเชิงประจักษ์ ครูขาดการเอาใจใส่ในสภาพความเป็นอยู่ของโรงเรียน ไม่แปลกใจที่มีครูบางคนพูดว่า อยู่ไปเรื่อยๆ ไม่กี่ปีก็จะเกษียณแล้ว อยู่เพื่อให้โรงเรียนยุบ หรือให้โรงเรียนยุบพร้อมครูเกษียณ จึงน่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่การจัดรูปแบบการเรียนการสอนของครู เน้นแต่รูปแบบการสอนโดยยึดหนังสือเรียนเป็นหลัก ครูเป็นผู้ป้อนข้อมูลใส่สมองให้นักเรียนท่องจำ ขาดการฝึกจิตวิญญาณให้นักเรียน หรือการสอนที่แยบยลในการหลอมรวมความคิด ความเชื่อ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ให้นักเรียนเรียนรู้ร่วมกัน และใช้วิถีชีวิตตามธรรมชาติในโรงเรียน และชุมชน ครูไม่ให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ ขาดความสำคัญในการเน้นให้ผู้เรียนรักถิ่น ความภาคภูมิใจในภาษาไทย และรักความเป็นไทย ครูขาดทักษะการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบ่งปันประสบการณ์ระหว่างกัน จึงไม่แปลกใจเลย ที่นักเรียนขาดระเบียบวินัย ย่อหย่อนคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตนไม่กลมกลืนกัน ซ้ำผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ค่อนข้างต่ำ และเมื่อดูข้อมูลผลการประเมินของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์กรมหาชน) ผลการประเมินรอบแรก โดยภาพรวมในทุกด้าน ทุกมาตรฐาน อยู่ ระดับ พอใช้ และใน 1 มาตรฐานด้านครู อยู่ในระดับ ปรับปรุง ซึ่งจากสภาพปัญหา ดังกล่าวข้างต้น โรงเรียนต้องดำเนินการบริหารจัดการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หมวด 4 มาตรา 22 ที่กล่าวว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้ และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ และคิดว่าปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้แล้ว โรงเรียนจึงคิดค้นนวัตกรรมเพื่อการบริหารจัดการโดยนวัตกรรม การพัฒนาครูสู่คุณภาพผู้เรียนโดยการใช้กลยุทธ์การสร้างเครือข่ายภาคีนอกระบบ โรงเรียนวัดทรายขาว
จงแปลงวิกฤตให้เป็นโอกาส เป็นคำพูดของนักปราชญ์ท่านหนึ่งการดำเนินการในครั้งนี้ จึงเป็นไปในรูปแบบของการแสวงหาความร่วมมือของผู้ที่มีความคิดไปในทิศทางเดียวกัน ในอันดับแรกก็เป็นการขายความคิด ในการสร้างทีมเครือข่ายการพัฒนาการศึกษา แก่เพื่อนครู เพื่อนผู้บริหารโรงเรียน ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และผู้นำผู้ปกครองนักเรียน ในลักษณะของการพูดคุยจากกลุ่มเล็กๆ ก่อน เมื่อทุกคนหรือส่วนใหญ่เห็นด้วย ก็ขยายความคิดจากกลุ่มเล็กๆ ไปเป็นในรูปขององค์กร ที่มีความสัมพันธ์ทางใจ อิงรูปแบบการบริหารจัดการในลักษณะของกลุ่มสัจจะของชุมชน ในการระดมทรัพยากรที่มีอยู่มาพัฒนาการจัดการศึกษาร่วมกัน และด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้าในการดำเนินการพัฒนา เพื่อลบล้างภาพเก่าๆ ที่ใครๆ มอง ให้เป็นภาพใหม่ที่พิสูจน์ได้ โดยการยึดเอาหลักการของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ที่พระองค์สั่งทหารหาญ ให้ทุบหม้อข้าวให้หมดแล้วไปตีเมืองจันทบุรี เพื่อเข้าไปกินข้าวในเมือง ในวันรุ่งเช้า นั่นคือ แรงบันดาลใจในการสร้างทีมงาน และการตัดสินใจ ดำเนินการตามขั้นตอนของการบริหารจัดการโรงเรียนนิติบุคคล โดยที่ได้ร่วมกับครูผู้สอนทำการศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ ข้อมูลสารสนเทศ ประเมินสภาพปัจจุบัน/ ปัญหาของโรงเรียน โดยการวิเคราะห์ SWOT ของโรงเรียน แล้วร่วมกันทบทวนวิสัยทัศน์ กำหนดพันธกิจ กำหนดเป้าหมาย กำหนดกลยุทธ์มาตรการและปฏิทินในการปฏิบัติงานจัดระบบการประสานงานเครือข่าย โดยดำเนินการประสานความร่วมมือจากโรงเรียนใกล้เคียง ผู้นำศาสนา ชุมชน องค์กรภาครัฐและเอกชน ในการประสานความร่วมมือกันพัฒนาการจัดการศึกษาพัฒนาครูผู้สอนให้มีความรู้ความสามารถในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ด้วยการ ส่งครูเข้า ประชุม อบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน ศึกษาเอกสาร และให้ครูนำผลการศึกษาเรียนรู้ กลับมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในที่ประชุมประจำเดือน โดยการจัดทำสรุปผล สำเนาให้เพื่อนครู และจัดทำเป็นคลังความรู้ เพื่อการศึกษาค้นคว้าในระดับโรงเรียนต่อไป และทำการนิเทศภายในติดตามการจัดการเรียนการสอน ในส่วนของความร่วมมือกับเครือข่าย ได้ดำเนินการพัฒนาครูร่วมกัน โดยการจัดทำแผนปฏิบัติงานร่วมกัน เช่น โครงการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาสู่แผนการจัดการเรียนรู้ แล้วครูนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ และจัดทำแผนนิเทศ ออกปฏิบัติการตรวจเยี่ยมเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในการที่ครูนำหลักสูตรไปใช้ ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารโรงเรียนได้เข้าร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การจัดทำแผนการใช้งบประมาณประจำปี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายโครงการด้วยกัน เช่น การนำนักเรียนไปศึกษาแหล่งรู้ ค่ายการเรียนรู้ต่างๆ เป็นต้น ในส่วนของชุมชนได้ประสานความร่วมมือกับผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา ในการใช้แหล่งเรียนรู้ และวิทยากรภูมิปัญญาท้องถิ่น มาร่วมจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และเพิ่มพูนความรู้ด้านทักษะชีวิต ใช้วิถีชีวิตประจำวันตามหลักศาสนา ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เช่น การจัดทำหลักสูตรทรายขาวศึกษา เป็นสาระเพิ่มเติม การระดมทรัพยากรเพื่อพัฒนาปรับปรุงอาคารสถานที่และบริเวณสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้มีบรรยากาศ ด้านกายภาพมีความเหมาะสมให้ครูสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ จากการที่โรงเรียนได้ใช้นวัตกรรมสร้างเครือข่ายนอกระบบ พัฒนาครูผู้สอนให้มีความรู้ความสามารถมีความตระหนักในการพัฒนาตนเอง พัฒนานักเรียน โรงเรียนได้ประสบความสำเร็จเชิงประจักษ์ ดังนี้ ด้านผู้เรียน ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นระดับดี ร้อยละ 80 ได้รับการพัฒนาตนเองเต็มศักยภาพร้อยละ 90 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับดี ร้อยละ 90 ผู้เรียนเป็นคน ดี เก่ง มีสุขอย่างสมดุลทั้ง 3 ด้าน ด้านครูผู้สอน มีความรู้ความเข้าใจหลักสูตรสถานศึกษามากยิ่งขึ้น มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสอน จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการจัดทำแผนการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ และใช้แผนการเรียนรู้ ร้อยละ 90 มีความรับผิดชอบมากขึ้น เข้าสอนตรงเวลา มีความกระตือรือร้นในการทำงาน ด้านชุมชน มีความศรัทธาต่อโรงเรียน ส่งบุตรหลานเข้าเรียนชั้นอนุบาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.43 และจ้างครูพี่เลี้ยงนักเรียนอนุบาล ให้โรงเรียน 1 คน มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของโรงเรียน สนับสนุนงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ พลังความคิดในการพัฒนาโรงเรียน มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียน (แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญา) ด้านสถานศึกษา ได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพทั่วทั้งระบบ อาคารสถานที่ มีบรรยากาศแห่งการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ และจากการที่ได้ปฏิบัติตามนวัตกรรมดังกล่าวข้างต้นแล้ว ผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของโรงเรียน และความคาดหวังของชุมชนโรงเรียนได้ดำเนินการต่อไปด้วยการพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรทรายขาวศึกษา เป็นสาระเพิ่มเติมจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนในสาระการเรียนรู้การงานเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม และจัดการเรียนรู้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นอย่างไรบ้างครับ นวัตกรรมด้านการบริหารของโรงเรียนวัดทรายขาว โรงเรียนประถมศึกษาเล็กๆ โรงเรียนหนึ่งที่อยู่หลังเขา ใช้นวัตกรรมที่มองดูแล้วไม่ยากอะไรใช่มั้ยครับ ใช้ทักษะกลยุทธ์พื้นฐานที่เต็มไปด้วยพลังในการหลอมรวมคนที่ได้ชื่อว่าปัญญาชน มาร่วมกันพัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพดีกว่าปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป แล้วมานึกเสียดายทีหลัง ดังข้อคิดในการใช้ชีวิต ตามพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่า “เป็นคนใจกล้าและเด็ดเดี่ยว เมื่อเหลียวกลับไปดูอดีต เราจะเสียใจในสิ่งที่อยากทำแล้วไม่ได้ทำมากกว่าเสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้ว” **** นี่คือเสี้ยวหนึ่งของโรงเรียนเล็กๆ ที่ผมได้พบและสัมผัสความเอื้อเฟื้อ โอบอ้อม เข้าใจ เข้าถึง จนคุณจะไม่รู้สึกว่านี่..เป็นชุมชน 2 วัฒนธรรมแต่อย่างใด นี่คือ...สังคมที่น่าอยู่ ที่พวกเราต้องการเห็นใช่ใหมครับ
ไม่มีความเห็น