นกปากซ่อมกับหอยกาบ


เมื่อใดที่รู้ว่าตัวเองทำพลาดไปแล้ว ก็มีความกล้าหาญพอที่จะยอมรับผิดและปรับปรุงแก้ไข ไม่ดันทุรังเถียงข้างๆคูๆไม่กลัวหน้าแตก คนที่รู้จักแพ้ รู้จักถอยอย่างนี้่ แทนที่จะเป็นการบั่นทอนศักดิ์ศรีของตัวเอง ตรงกันข้าม กลับจะเป็นที่รักที่เคารพเกรงใจของคนอื่นๆ

เมื่อวาน (29 มิถุนายน 2550) ได้อ่านหนังสือพิมพ์ เจอ คอลัม "คิดดี...ดี" ของหนังสือพิมพ์คมชัดลึก รู้สึกว่า อ่านแล้วอยากมาเล่าทุกคนฟังค่ะ .....    

  กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....

ในวันที่ฟ้าโปร่งอากาศแจ่มใส มีหอยกาบตัวหนึ่งนอนผึ่งแดดอยู่ที่หาดทรายชายทะเลมันเปิดเปลือกหอยทั้ง 2 ข้าง ออกรับแสงแดดอันอบอุ่นอย่างสุขสบาย ในขณะนั้นเองมีนกปากซ่อมตัวหนึ่ง เดินหาอาหารอยู่ในบริเวณใกล้าเครียง มองเห็นเนื้อสีแดงของหอยกาบตัวนั้น สะท้อนแสงเป็นประกายวับๆ นกปากซ่อมดีใจมากรีบตรงแน่วเข้าไปใช้ปากจิกหมายจะกินเนื้อหอยกาบให้ได้ หอยกาบตัวนั้นเจ็บปวดแสนสาหัส รีบหุบเปลือกหอยทั้ง 2 ข้างเข้าหากันอย่างรวดเร็ว หนีบเอาจะงอยปากของนกปากซ่อมติดอยู่ในเปลือกหอยด้วย นกปากซ่อมพยายายดึงจะงอยปากของตวเองสุดแรงเกิดแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะหอยกาบหนีบไว้อย่างสนิทแน่น

     นกปากซ่อมเริ่มรู้สึกเสียใจบ้างแล้วแต่ก็แสดงท่าทีทำเป็นไม่แยแส พูดกับหอยกาบว่า "แกช่างป็นสัตว์ที่โง่จริงๆ แกมาหนีบจะงอยปากของฉันไม่ยอมปล่อยอย่งนี้ตัวแกเองก็เคลื่อนที่ไม่ได้ ถ้าวันี้ฝนไม่ตกพรุ้งนี้ผนก็ไม่ตก แกก็ต้องแห้งตายแน่ๆ ฉันคิดว่าทางที่ดีแกยังคงรีบคลายเปลือกหอยของแก แล้วกลับลงน้ำไปดีกว่า"

หอยกาบย้ิมอย่างเย็นชา ตอบกลับมาว่า 

"แกไม่ต้องมาพูดดี ฉันไม่หลงกลของแกแน่นอน ปากของแกถูกฉันหนีบอยู่อย่างนี้วันนี้กินอะไรก็ไม่ได้ พรุ้งนี้ก็กินอะไรไม่ได้แกก็ต้องอดตายในไม่ช้านี้" 

   สัตว์สองตัวเถียงกันอยู่ครึ่งค่อนวันไม่มีใครยอมใคร พอดีมีชายชาวประมงคนหนึ่งกำลังจะกลับบ้านเดินผ่านมา เห็นสัตรว์ 2 ตัวนี้หนีบติดอยู่ด้วยกัน เขาก็พูดอย่างดีใจว่า

" โชคดีของฉันจริงๆ วันนี้ไม่เลวเลยทีเดียว เมื่อแกทั้งคู่ตกลงกันไม่ได้ ฉันก็ต้องคว้าเอาโอกาสอันนี้ไว้แล้ว"

 และแล้วชายชาวประมงก็จับเอาสัตรว์ทั้ง 2 ตัวนี้ขึ้นมาใส่ลงในชะลอมไม้ไผ่ด้วยกันวางแผนการไว้ว่าพรุ้งนี้จะเอาไปขายในตลาด

 

ท่านสาธุชนทั้งหลาย

   เราอย่าเป็นคนถือทิฎฐิมานะ ดื้อดึงจะเอาชนะให้ได้ คนอย่างนั้นเป็นคนไม่น่ารัก ไม่มีใครอยากคบด้วย และจะทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ แล้วตัวเองต้องมานั่งเสียใจภายหลัง ขอให้เราเป็นคนที่รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว รู้จักประนีประนอม มีหลักการชัดเจน เมื่อใดที่รู้ว่าตัวเองทำพลาดไปแล้วก็มีความกล้าหาญพอที่จะยอมรับผิดและปรับปรุงแก้ไข ไม่ดันทุรังเถียงข้างๆคูๆไม่กลัวหน้าแตก คนที่รู้จักแพ้ รู้จักถอยอย่างนี้ แทนที่จะเป็นการบั่นทอนศักดิ์ศรีของตัว ตรงกันข้าม กลับจะเป็นที่รักที่เคารพเกรงใจของคนอื่นๆ

น  ตํ ชิตํ สาธุ ชิตํ ยํ ชิตํ อวชิยฺยติ

ความชนะใดที่ชนะแล้วกลับแพ้ได้ความชนะนั้นไม่ด

*****

จากคอลัม " คิดดี... ดี" หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก วันที่ 29 มิถุนายน 2550

*****

 

หมายเลขบันทึก: 107497เขียนเมื่อ 30 มิถุนายน 2007 11:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 เมษายน 2012 13:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • อ่านแล้วทำให้ผมคิดได้ว่า เวลาที่ชีวิตยังมีลมหายใจอยู่ ต่างคนก็ต่างคิดว่าตัวเองมีดี ไม่ยอมลดราวาศอกกัน
  • หันมามองมุมกลับ ถ้านำส่วนดีของแต่ละคนมาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จะทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้นเยอะนะครับ
  • ขยันเขียน Blog อย่างนี้ คงต้องหารางวัลให้คุณเด็กดอยแล้วนะครับ.....
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท