จตุคำ : ประชดด้วยธรรม อำด้วยปัญญา


ปรากฎการณ์ของคำถามทางปัญญา ในท่ามกลางกระแสแห่งการอ้อนวอนร้องขอ ของผู้คนในสังคมไทย คำถามเพื่อการฉุกคิดทางปัญญาจึงเกิดขึ้น

จตุคำ : ประชดด้วยธรรม อำด้วยปัญญา

 

เมื่อกระแสเสียงตอบรับในแผ่นดินไทย ดังขึ้นขานรับอย่างเซ็งแซ่ ความหมายทางปัญญาแห่งพุทธศาสน์ ถูกกำกับด้วยความเชื่อ ของความรวย คำอ้อนวอนร้องขอ กลายเป็นสรณะของชีวิต

  

เมื่อผลต่างในมูลค่าเม็ดเงินจากรุ่นที่ผลิต ถูกกำหนดด้วย Story ทางการตลาด เสียงของพระพยอมจากการแถลงข่าว กลับสะท้อนความดังทางปัญญาได้อย่างชัดเจน

วันนี้ความขลังไม่ใช่เพียงหนึ่งเดียวของเหตุผล เพื่อกำกับความศักดิ์สิทธิ์ไว้ในเหรียญ คำเรียกองค์พ่อ ในฐานะเทพ โพธิสัตว์ กษัตริย์โบราณ ซึ่งมาปัดเป่าความทุกข์เข็ญ ล้วนถูกอธิบายความหมายเพื่อเชื่อมโยงความหมาย สู่ความรวยโคตรโคตร รวยแบบไม่ต้องคิด รวยฟ้ารวยดิน และในทุกนิยามของความร่ำรวย แต่ไม่มีนิยามของการหลุดพ้นปรากฎ ไม่มีความหมายของปัญญากำกับ เพื่อการก้าวพ้นจากสังสารวัฏฏนี้

เสียงแถลงข่าว พาดหัวข่าว และคำอธิบายของ พระพยอม กัลยาโณ ในการแถลงข่าว เปิดตัวคุกกี้นาม จตุคำ กลายเป็นภาพสะท้อนในทุกสิ่งทุกอย่างของสังคมไทย เป็นหนึ่งสัญญะ และสัญลักษณ์ทางปัญญา ที่เริ่มต้นตั้งคำถามกับสังคมไทย จะโดยตั้งใจ เฉียดไปบ้าง พาดไปสะกิดหน่อยก็ตามแต่ แต่ก็ยังคงความหมายในเนื้อหาของความจริง ที่ปรากฏในคุกกี้ ที่เรามีโอกาสกัดกิน ล้วนส่งผลสะท้อนให้ประวัติศาสตร์ไทยได้จดจำ ระหว่างคำถามของ พุทธ กับ ไสย

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และคำบูชาที่กินได้ <p></p><p>เนื้อคุกกี้ และบรรจุภัณฑ์ บรรจุด้วยเรื่องราวในสัญญะที่น่าสนใจ สำหรับคำอธิบายในแต่ละความหมายที่พระพยอม ได้กำกับปลุกเสกไว้ ซึ่งประกอบกระดาษปิดกล่องด้วย</p><p>คุกกี้ รุ่นฉุกคิด </p><p>4 คำรวยโคตร</p><p>ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบ เลือกใช้สี่คำว่าไว้ รวยได้ รวยดี </p><p></p><p>ฉลากบรรจุภัณฑ์ปิดฝากล่องคุกกี้ของพระพยอม โดดเด่นชัดเจน โดยมาพร้อมฉลากปิดข้างกล่องที่สุดท้าย บอกความหมายถึงวัตถุประสงค์ในการจัดทำ อย่างมิต้องสงสัย ว่า อิ่มบุญ หากินกับพระ ที่มาพร้อมภาพกราฟิคตัวการ์ตูนพระพยอมชูนิ้วโต เสมือนหนึ่งรับประกันคุณสมบัติ จะเป็นคุณสมบัติความอร่อย ความร่ำรวย หรือประชดประเทียดเปรียบเปรย การหากินกับพระ ก็ตามแต่จะตีความ แต่ล้วนพูดตรงพูดจริง ว่าเป็นการหากินกับพระจริงๆ ไม่ต้องแอบหรืออ้างอิทธิปาฏิหาริย์ เพื่อให้พระเป็นเพียงตัวแทนฝ่ายขายของเทพ และผู้ดำเนินการปลุกเสกเป็นฝ่ายจำหน่าย</p><p></p><p></p><p>ความหมายที่เราแทบไม่ต้องสงสัยคือ สิ่งเหล่านี้คือ สัญลักษณ์ของการประชดประชัน ในท่ามกลางอิทธิปาฏิหาริย์ แบบไม่ต้องคิด ไม่ต้องใคร่ครวญ สำหรับปัญญานั้นเก็บไว้ก่อน เพราะไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ของศักดิ์สิทธิ์มีจริง และองค์พ่อ สามารถไปสถิตได้ในรูปเหรียญวงกลมทุกรุ่นที่ผลิตขึ้นบนแผ่นดิน แผ่นน้ำ และผืนฟ้าของเมืองไทย  ความศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการเล่าขาน ถูกเขียนขึ้น บอกเล่า อ้างอิง และขจรขจายในยุคที่ผู้คน ได้รับการอธิบายว่า หมดที่พึ่ง สิ้นหวังและไร้หนทางแห่งความร่ำรวย จนกระทั่งพร้อมจะพนมมือ ยกบูชา อ้อนวอน และร้องขอให้ดลประดาลทุกสิ่งอย่างตามใจปรารถนา</p><p></p><p></p>เสียงตอบรับ จากความศักดิ์สิทธิ์ <p></p><p>พลันที่พระพยอม แถลงข่าวว่าได้จัดทำคุกกี้รุ่นจตุคำ ภายหลังจากจดหมายลูกโซ่ในอีเมล์ ได้รับการส่งภาพของคุกกี้ OREO ที่ปิดทองคำเปลว พร้อมเขียนกำกับรุ่นไว้ว่า เป็นรุ่น มีกูไว้ มึงไม่หิว กลายเป็นหนึ่งในเสียงตอบรับ ที่ดังขนานขึ้นมาพร้อมกับความร่ำรวยของระบบธุรกิจ และตลาดค้าจตุคาม เพียงเพราะมีคำถามจากผู้คนที่เห็นวัตถุ แล้วพร้อมจะท้าทายความเชื่อ</p><p></p><p></p><p>เสียงของพระพยอม ยังไม่ดังพอในแง่ของข่าว จนกระทั่งต้องมาพร้อมกับการลอกเลียนแบบ ผลิตออกขายตัดหน้าวัดสวนแก้ว จนมีการแถลงข่าวกำกับภายหลัง ถึงการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ กระทั่งกลุ่มนักธุรกิจแห่งเมืองนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักธุรกิจที่ค้าขายจตุคาม ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ปกป้องความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พ่อ พร้อมน้ำเสียงกล่าวตำหนิการลบหลู่สิ่งบูชาในชีวิต</p><p></p><p></p><p>ไม่เพียงเท่านั้น ภายหลังการแถลงข่าววันเดียวกัน อุบาสกอุบาสิกา และญาติโยมแห่งพระบรมธาตุไชยา สุราษฎร์ธานี ตั้งโต๊ะแถลงข่าว คัดค้านและห้ามการปลุกเสกวัตถุใดๆ ในเขตพื้นที่ของพระบรมธาตุไชยา เป็นเวลา 100 ปี ตามแรงศรัทธาในคำสอนของท่านพุทธทาส ถึงหัวใจแห่งพุทธที่ไม่เลื่อมใสในไสย </p><p></p><p>ไม่นับกับเสียงตอบรับของตลาด ที่นิยมชมชอบกับคุกกี้จนขายดิบขายดี ผลิตไม่ทันกับความต้องการ จนวัดสวนแก้วต้องประกาศออกมา ความจริงในวันนี้ คือความหมายของการรวยโคตรกลายเป็นเสียงตอบรับ ที่ดังชัดมากที่สุด ของบรรดา Story ทางการตลาด ซึ่งประกาศนามและคุณสมบัติของแต่ละรุ่น มวลสารมากมายถูกขุดสรรพคุณ และคุณสมบัติอันมงคล เพื่อประกอบความเชื่อมั่น จนกระทั่งต้องนั่งเครื่องบินปลุกเสก </p><p></p><p>ไม่ต้องบอกกล่าวว่ามงคลเพียงใดสำหรับโลหะที่บินบนอากาศ มีผู้โดยสารเหยียบย่ำขับถ่าย และก้าวย่างไปบนโลหะวัตถุอันมงคลเหล่านั้น </p><p></p><p>เช่นเดียวกับที่เราจะพบเสียงตอบรับต่อคุกกี้ คือ ประชดประชันเฉก ของกลุ่มคนที่ไม่ได้แถลงข่าวโดยตรง แต่เห็นด้วยกับความคิดนี้เช่นเดียวกัน ว่าสุดท้ายพระพยอมก็ขายของ แต่ในรายละเอียดของการขาย พระพยอมกลับซ่อนปริศนาบางอย่างไว้ ขายสิ่งที่ท่านเชื่อว่าควรขาย และไม่ขายสิ่งที่ไม่ควรขาย </p><p></p><p>การปะทะของวัตถุกับปัญญา </p><p>สำนักคิดทางพุทธศาสนา ต่อสู้ด้วยหนทางสองประการ มาตลอดระยะเวลา 2550 ปี นับประเด็นข้อถกเถียงจาก 2 หนทาง ระหว่าง โลกียะ กับ โลกุตระ ในขณะที่ปัญญาคือ วิธีการเพื่อกำกับหนทาง แห่งหลุดพ้น มีศีล สมาธิ คอยกำกับแต่ละวันของลมหายใจ และก้าวย่างที่จะต้องผ่านพ้นไปในโลกปัจจุบัน ความเชื่อ ถึงก้าวย่างอันหลุดพ้นจากบ่วงอันวนเวียน กลายเป็นเป้าหมาย และทฤษฎีใหญ่ของ ปรัชญาพุทธศาสนา </p><p></p><p>แต่วิธีการร้องขอ อ้อนวอน บนบาน กลับกลายเป็นหนึ่งในขั้นตอนของปัจจุบัน แม้รูปแบบการไหว้วานเช่นนี้ จะกล่าวกันว่า คือพื้นฐานดั้งเดิม แบบ ไสย กับ พุทธ ที่อยู่ร่วมกันมานาน จนกระทั่ง นิธิ เอียวศรีวงศ์ เชื่อว่าในอนาคตแนวคิดระหว่างปัญญา กับการ ร้องขอ ก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป เมื่อมีน้ำเสียงตำหนิจากฝั่งผู้ศรัทธา และนบน้อมบูชาต่อจตุคาม เสียงอีกฟากหนึ่งก็ตั้งคำถามกลับว่า หากศรัทธาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใยต้องขาย หากของมีความขลัง ใยต้องปล่อยให้ผู้อื่นครอบครอง หรือการแบ่งปันวัตถุมงคล เพื่อให้เกิดผลต่างในเม็ดเงิน คือกำไรของชีวิตเช่นนั้นหรือ หรือหากใช้ความคิดรวบยอดทางทุน ที่อธิบายถึงการเก็งกำไร การสร้างมูลค่าเพิ่มของวัตถุ การกำกับวัตถุด้วยตำนานและเรื่องราวทางการตลาด เช่นนั้นแล้วก็แสดงว่า ศรัทธาและของขลัง ล้วนขายได้กระนั้นหรือ </p><p></p><p>วิธีกำกับ สัญญะ ของวัตถุในโลกของโลกียะ ระหว่างมวลสารที่อัดเป็นเหรียญ กับเนื้อขนมคุกกี้ ของพระพยอม คือการต่อสู้ครั้งสำคัญ ระหว่างพื้นที่ของวัตถุกับจิตวิญญาณ ในเมื่อสิ่งมงคลเคารพบูชา ถูกเทียบเคียงกับของที่กินได้ ในเมื่อศรัทธาแห่งการร้องขอ ถูกล้อเลียนด้วยการซื้อขาย เช่นเดียวกับที่มีการวางแผงขายของ รอบพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช คำถามคืออะไรคือสิ่งที่ใช่ และอะไรคือสิ่งที่ไม่ใช่  </p><p></p><p>สิ่งที่ก้าวไม่พ้นจากข้อถกเถียงทางประวัติศาสตร์ และความจริงในการแอบอ้างเขียนประวัติศาสตร์ แบบตำนานลิเกพื้นฐาน ที่เย้ยหยันราชสำนัก กับความจริงทางประวัติศาสตร์ กระทั่งนักวิชาการเช่น ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และไมเคิล ไรท์ ได้เขียนถึง ท้าวขตุคาม กับ ท้าวรามเทพ ที่เป็นเพียงอาลักษณ์พิทักษ์พระธาตุ ที่ต่อมากลายร่างเพิ่มพูนตำนาน มาเป็นเทพอันยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ทั้งคำตำหนิและเสียงสนับสนุน แต่เป็นหนึ่งในการสะท้อนความสั่นคลอนทางจิตวิญญาณปัจจุบัน ในเมื่อผู้คนไม่สามารถเชื่อมั่นศรัทธาสิ่งใดได้ </p><p></p><p>ความจริงจากการได้อ้อนวอนองค์พ่อให้ได้สิ่งใด เพื่อให้สมดั่งใจ จึงกลายเป็นคำตอบสำเร็จรูปของยุคสมัยนี้ การปะทะกัน ของพื้นที่ในโลกปัจจุบัน ที่ความร่ำรวยกินได้ จับต้องได้ กับพื้นที่ในโลกหน้า เพื่อการหลุดพ้น ตั้งมั่นภาวนาว่าไม่ต้องวนเวียนกลับมาเกิดทุกข์นั้น ดูจะเป็นสิ่งที่จับต้องได้ยากเต็มที่ ในยุคสมัยปัจจุบัน </p><p></p><p>ยังไม่นับความหมายของปัญญา และการถกเถียง ว่ายุ่งยากและจับต้องไม่ได้ ไม่มีทักษะของการรับฟัง จนต้องระบายด้วยคำกล่าวอันรุนแรง คือภาพสะท้อนของความจริงในสังคมไทย และการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน ในการยอมรับทางปัญญา ทักษะของการรับฟัง พูดคุย แลกเปลี่ยนถกเถียง ว่ามีขีดความสามารถเพียงใด </p><p></p><p>พื้นที่ของที่ขาย กับของที่ไม่ขาย </p><p>เส้นแบ่งระหว่างของที่ขายได้ กับ ของที่ขายไม่ได้ในสังคมไทย กลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ของความจริงในวันนี้ เมื่อเราพบว่า ความจริงจากการขาย และการได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง ล้วนได้รับการสรุปในเชิงเหตุผลเสมอ ของมงคลขององค์พ่อ จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเก็งกำไร ในตลาดเงินตลาดทุน ไม่นับกระบวนการปรุงแต่งทางการตลาด คัดสรรมวลสารเพื่อสร้างเนื้อหาความขลัง เพราะในปัญญาของคนไม่ขลังพอที่จะนำพาความร่ำรวยมาให้ได้ ความปลอดภัยแคล้วคลาด ไม่ได้อยู่กับสติในการกำกับชีวิต และเช่นเดียวที่ อนาคตของสังคมไทย เหตุผล การรับฟัง ตั้งคำถาม ปรึกษา และพูดคุยด้วยเหตุด้วยผล ยังคงต้องกลายเป็นพื้นที่ชายขอบ เพราะพื้นที่หลักคือ พื้นที่ของศรัทธา ไม่ใช่พื้นที่ของปัญญา </p><p></p><p>อ้างอิงข้อมูล</p><p>พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว</p><p>ได้ออกสินค้ามา ใช้ ชื่อ จตุคำคุกกี้ รุ่นฉุกคิด 4 คำรวยโคตรที่ประกอบความหมายด้วย </p><p>สี่คำ อันประกอบด้วยคำที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนว่า อุ อา กะ สะ  ที่มาจากคาถาหัวใจเศรษฐี

1. อุ ย่อมาจากคำว่า อุฏฐานสัมปทา แปลว่า ให้ถึงพร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียรในการแสวงหาความรู้ หนักเอาเบาสู้ในหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย กิจการทั้งหลายต้องรู้จักรับผิดชอบ โบราณกล่าวว่า ทรัพย์นี้มิไกล ใครปัญญาไว หาได้บ่นาน ทั่วแคว้นแดนดินมีสิ้นทุกสถาน ผู้ใดเกียจคร้าน บ่พานพบนา ซึ่งหมายถึง ทรัพย์สินเงินทองมีอยู่ทุกหนแห่ง ขออย่างเดียวอย่าเกียจคร้านให้ลงมือทำงานทุกชนิดอย่างจริงจังตั้งใจ งาน คือ ชีวิต ชีวิต คือ งานบันดาลสุข ทำงานให้สนุก เป็นสุขเมื่อทำงาน มิใช่รอความสุขจากความสำเร็จของงานอย่างเดียวขาดทุนและขอให้ถือคติว่า ขี้เกียจเป็นแมลงวัน ขยันเป็นแมลงผึ้ง ขี้หึ้งเป็นแมลงป่อง จองหองเป็นกิ้งก่า
</p>  <p>2. อา ย่อมาจากคำว่า อารักขสัมปทา แปลว่า ให้ถึงพร้อมด้วยการรักษาคุ้มครองทรัพย์สินเงินทองที่หามาได้ด้วยความ ขยันหมั่นเพียร ไม่ให้เงินทองรั่วไหลมีอันตราย ระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมิให้เปลืองเงินทองโดยใช่เหตุ ตลอดจนรักษาหน้าที่การงานของตัวเองไม่ให้เสื่อมเสีย ขอให้ยึดหลักการเก็บเล็กผสมน้อยหรือการเก็บหอมรอมริบ ซึ่งล้วนเป็นขบวนการเก็บรักษาทรัพย์สินเงินทองที่ได้ผลเป็นอย่างยิ่ง เพราะนี้คือแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่เลี้ยงตัวเองได้อย่างสุขกายสบายใจไม่ต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์สนุกอยู่กับคำว่า พอ เงินทองมีเกินใช้ ได้เกินเสียไม่ละเหี่ยจิตใจและขอให้ถือคติว่า ความไม่พอใจจนเป็นคนเข็ญ พอแล้วเป็นเศรษฐีมหาศาล จนทั้งนอกทั้งในไม่ได้การ จงคิดอ่านแก้จนเป็นคนพอ</p>  <p>3. กะ ย่อมาจากคำว่า กัลยาณมิตตตา แปลว่า การมีเพื่อนเป็นคนดี ไม่คบคนชั่ว เพราะคบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล คบคนจึงต้องดูหน้าว่าเพื่อนเป็นคนดีที่มีลักษณะไม่เป็นคนปอกลอก ไม่ดีแต่พูด ไม่หัวประจบและไม่เป็นคนชักชวน ไปในทางฉิบหาย มีการดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน มั่วเมาในการเล่นและผีการพนันเข้าสิงจิตใจ และขอให้ถือคติว่า มีเพื่อนดีมีหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา เหมือนมีเกลือนิดหน่อยด้อยราคา ดีกว่าน้ำเค็มเต็มทะเล</p><p></p> 4. สะ ย่อมาจากคำว่า สมชีวิตา แปลว่า การเลี้ยงชีวิตตามสมควรแก่กำลังทรัพย์ที่หามาได้ รู้จักกำหนดรายรับและรายจ่าย อย่าให้สุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยหรืออัตคัดขัดสนจนเกินไปให้รู้จักออมเงิน ออมเงินเอาไว้ ฉุกเฉินเมื่อไร จะได้ใช้เงินออม

หมายเลขบันทึก: 106623เขียนเมื่อ 27 มิถุนายน 2007 01:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
น่าจะทำเป็นชิ้นใหญ่ๆพอให้กินได้4คำพอดีด้วยครับ จะได้สมกับชื่อจตุคำ
  • สวัสดีครับ คุณ Nut
  • เห็นว่า บรรจุภัณฑ์ชุดนี้ น่าจะทำไว้ 4 พอดีนะครับ
  • ตามคำจำกัดความพอดีครับ
  • ถ้าอย่างไรแล้ว เชิญติดต่อ อุดหนุนมงคลชีวิต จตุคำ ของพระพยอมก็น่าจะพิสูจน์ทราบได้ครับ
  • ว่าชิ้นพอคำเพียงใด
  • นอกจากความเอร็ดอร่อยแล้ว น่าจะได้มงคลชีวิต และข้อคิดในแต่ละก้าวของชีวิตครับ
  • ขอบคุณมากครับ สำหรับความคิดเห็นของคุณ Nut
  • ขอบคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท