รับน้องแบบจิตวิวัฒน์ (5)


               นอกจากที่เล่ามา 4 ตอน ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกครับ เช่น ร้องเพลงประจำคณะ กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ พี่รหัสพบน้องรหัส แนะนำการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย การเรียนการสอนของคณะทันตะ กิจกรรมอ่านบทความ (แล้วให้ช่วยกันตีความ ค้นหาความหมายที่ซ่อนอยู่ โดยมีพี่ปี 6 เป็น facilitator ในแต่ละกลุ่ม) และกิจกรรมบายศรีสู่ขวัญครับ
              
                กิจกรรมที่ได้ผลดีอย่างที่ทีมงานเองก็คิดไม่ถึง คือ กิจกรรมแนะนำการเรียนการสอนของคณะฯครับ กิจกรรมนี้รุ่นพี่ทำวิดีโอสั้นๆ มาแนะนำว่าแต่ละปีเรียนอะไรบ้าง ฉายวิดีโอเสร็จก็มีรุ่นพี่ปี 2 ถึงปี 6 มานั่งตอบคำถามที่นิสิตใหม่ถาม (ถามอะไรก็ได้ที่อยากรู้)
               
                 ผมซึ่งเตร็ดเตร่อยู่แถวๆที่ทำกิจกรรม ก็เลยถูกชักชวน (กึ่งบังคับ) ให้ไปช่วยตอบคำถามด้วย ตอบไปตอบมาโดยไม่ได้นัดกัน นิสิตปี 6 และผมก็เล่าเรื่องที่ได้รักษาผู้ป่วยแล้วได้รับความสุขจากการรักษาครั้งนั้นๆให้นิสิตใหม่ฟัง ซึ่งตอนเล่าก็ไม่ได้คิดอะไรนะครับ ว่าจะมีผลอะไร หรือหวังให้เกิดอะไรขึ้น (ตั้งใจที่จะแนะนำการเรียนการสอนเท่านั้น)
              
                 แต่พอได้อ่านสิ่งที่นิสิตใหม่เขียนในทันตแพทย์ที่ดีในความคิดของฉันและแบบประเมินตอนกิจกรรมเสร็จสิ้น (จริงๆจะเรียกแบบประเมินก็ไม่ถูกนักครับ เพราะว่าแจกกระดาษเปล่าให้เขียนประเมินครับ เขียนอะไรก็ได้ ที่คิด ที่รู้สึก ที่สัมผัสได้ใน 7 วันที่รับน้องกัน ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะแจกกระดาษเปล่านะครับ แต่ทีมงานผมลืมพิมพ์แบบประเมินที่เตรียมไว้ออกมาจากคอมพิวเตอร์!!! ก็เลยต้องใช้กระดาษเปล่าแทน แต่ปรากฏว่าดีมากๆเลยครับ ทำให้นิสิตใหม่เขียนอย่างอิสระมาก ได้มุมมองอะไรดีดีสะท้อนกลับมาเยอะเลยครับ ผมเลยชักติดใจการประเมินแบบแจกกระดาษเปล่า ไว้จะ scan มาแปะให้อ่านนะครับ)
              
                 กลับมาเข้าเรื่องต่อนะครับ พอได้อ่าน เราพบว่านิสิตใหม่หลายคน ซึมซับเรื่องคุณค่าของความเป็นทันตแพทย์ ความสุขที่ได้รับจากการรักษาผู้ป่วย ซึ่งเห็นได้จากข้อเขียนที่เค้าสะท้อนออกมา
               
                  ผมมาใคร่ครวญในเรื่องนี้ ผมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะนิสิตใหม่ยังมีจิตใจที่เปิดรับ ทำให้ซึมซับเรื่องเหล่านี้ คุณค่าเหล่านี้ได้ง่าย หรือ อาจจะเพราะเรื่องราวที่เล่าสู่กันฟังวันนั้นเป็นเรื่องราวที่ทรงพลัง กระทบใจผู้ฟังก็เป็นได้
                
                  ทำให้ผมคิดว่ารับน้องปีหน้า เราน่าจะเพิ่มเรื่องราวหรือคุณค่าเหล่านี้เข้าไปเป็นวาระหลักวาระหนึ่งในการรับน้องด้วย ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดว่าจะใส่เรื่องเหล่านี้เข้าไปในการรับน้องเลยครับ เพราะผมคิดว่ามันไกลตัวเค้าเกินไป (ปกติจะทำเรื่องราวแบบนี้ให้นิสิตชั้นปี 4,5,6)
                 
                   และคงจะทำในรูปแบบของการเล่าเรื่องนี่ล่ะครับ ผมเห็นพลังของเรื่องเล่าจากกิจกรรมนี้ชัดเจนมาก คราวหน้าคิดไว้ว่าจะเชิญอาจารย์และพี่ปี 6 มาเยอะหน่อย จะได้มีเรื่องที่หลากหลายมุมมอง หลากหลายบริบทมากขึ้น
                 
                    สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกจากการอ่านแบบประเมินของนิสิต คือ ผมรู้สึกว่าเค้า (นิสิตใหม่) มีเป้าหมายในการเรียนเพิ่มขึ้น หรือ เรียนอย่างมีความสุขมากขึ้น เพราะเค้ารู้ว่าสิ่งที่เค้ากำลังเรียนรู้นั้นไม่เพียงสร้างสุขให้คนใกล้ชิดและครอบครัวเท่านั้น แต่ยังสร้างสุขให้ผู้คนได้อีกมากมาย
หมายเลขบันทึก: 104706เขียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2007 23:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 08:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
wow!!! อ่านแล้วรู้สึกมีความสุขตามไปด้วยเลยค่ะ

น่าชื่นชมมากครับ


ตามไปดูแบบประเมินกระดาษเปล่า บ้างแล้ว
แสดงว่ากิจกรรมจัดได้ดีมาก เพราะสามารถทำให้นิสิตใหม่กล้าเขียนออกมา ปกติมักจะไม่ค่อยกล้าเขียนเท่าไร

ขอชื่นชมทั้งคณาจารย์ และเหล่านิสิตรุ่นพี่ทุกคนด้วยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท